ปล่อยให้รุ่นน้องเปิดตัวรถโฉมใหม่แซงหน้ารุ่นพี่ไปตั้งหลายคัน ได้แก่ KA, Fiesta และล่าสุด Focus เจเนเรชั่นที่ 2 ก็ดูเหมือนล้ำหน้ารุ่นพี่หลายกิโลขีดทั้งเทคโนโลยีและหน้าตา ขืนอยู่เฉย ๆ เห็นจะเป็นรถโบราณไปเสียฉิบ
Ford ยุโรปไม่รอช้าจึงเปิดตัว Mondeo Minorchange ที่อัพเดทเพียงเล็กน้อยเพื่อความสดใหม่ในตลาดแม้ว่ามันดูไม่ค่อยออกว่ามันเปลี่ยนตรงไหน? ดั่งที่มีคนในสมาชิกเว็บเราชอบเปรียบเปรยด้วยคำว่า Nanochange เปลี่ยนแปลงระดับอนุภาคส่วน แต่เห็นอย่างนี้อย่าเพิ่งดูถูกเพราะมันแอบเปลี่ยนขุมพลังใหม่ที่แรงจัดจ้านอีกด้วย
Ford ยุโรปเพิ่งปล่อย Press Release ของ Ford Mondeo ฉบับปรับปรุงโฉมเพื่อเตรียมอวดโฉมในงาน Moscow Motorshow 2010 ภายในวันที่ 25 สิงหาคมนี้ เพื่อให้ชาวยุโรปเตรียมเสียเงินอีกระลอก
ความเปลี่ยนแปลงด้านหน้าที่แตกต่างจากเดิมคือ ยกเลิกการติดตั้งแผงโครเมี่ยมบนฝากระโปรง, ชุดกันชนถูกเปลี่ยนรายละเอียดชุดแผงไฟตัดหมอกหน้าเป็นแบบ 2 ชั้นซึ่งติดตั้งไฟ LED ส่องสว่างตอนกลางวัน เปลี่ยนแปลงช่องดักลมหน้าเล็กน้อย
ส่วนความเปลี่ยนแปลงด้านหลังนี่ถ้าไม่ใช่เป็นลูกช่างสังเกตคงหาความเปลี่ยนแปลงได้ยากยิ่งนัก ถ้าไม่ทราบผมบอกได้แค่ว่ามันเปลี่ยนชุดสปอยเลอร์บนฝากระโปรงท้ายเล็กน้อยครับ
แม้ยังไม่เห็นภาพภายในแต่ Ford ก็เคลมว่าดีไซน์แผงคอนโซลกลางพร้อมไฟส่องสว่างแบบใหม่ รวมไปถึงเปลี่ยนรายละเอียดแผงประตูภายในใหม่
อุปกรณ์ภายในก็ติดตั้งของใหม่ ๆ เข้ามาเช่น ไฟส่องสว่างในห้องโดยสารแบบ LED, ระบบนำทางผ่านดาวเทียม, ชุดเครื่องเสียงระดับพรีเมี่ยม 265 วัตต์ ติดตั้ง Amp 8 ช่องสัญญาณ ลำโพงชุดใหม่และซับวูฟเฟอร์ 17 ลิตร
แม้หน้าตาจะไม่ค่อยเปลี่ยนดังใจคิด แต่ของดีต้องย่อมอยู่ภายในตามสัจธรรม Ford จึงวางเครื่องยนต์ Ecoboost บล๊อกใหม่ล่าสุดขนาด 2.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จ 240 แรงม้า (PS) อันเป็นเครื่องเดียวกับ Ford S-Max
แรงขึ้นแต่กลับปล่อยค่า CO2 น้อยลงแค่เพียง 179 กรัมต่อกิโลเมตรเมื่อเทียบกับรถยนต์ที่มีแรงม้า 203 แรงม้า (PS) ซึ่งจะปล่อยค่าไอเสียมากกว่านี้แถมเครื่อง Ecoboost ยังประหยัดกว่าเครื่องยนต์ขนาดเดียวกัน 20% ด้วย
เครื่องยนต์ดีเซลที่ติดตั้งอยู่ก่อนหน้านั้นก็ถูกปรับปรุงใหม่อยู่ 1 บล๊อกคือเครื่อง 2.2 ลิตร ที่เพิ่มแรงม้าอีก 12% กลายเป็น 200 แรงม้า (PS) ส่วนเครื่องอื่น ๆ ก็มีบล๊อก 2.0 ลิตรให้เลือกไล่ตั้งแต่ 115, 140 และ 163 แรงม้า ซึ่งปล่อยค่า CO2 เพียง 139 กรัมต่อกิโลเมตร
เกียร์ PowerShift คลัทช์คู่เปียก 6 จังหวะจะถูกติดตั้งในรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน Ecoboost 2.0 ลิตร และเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร 140 และ 163 แรงม้า (PS)
และอีกหนึ่งเคล็ดลับที่ทำให้ Ford Mondeo Minorchange มีอัตราสิ้นเปลือง, ลดค่าไอเสียและลดใช้พลังงานได้ก็คือระบบ ECOnetic ได้แก่ระบบปั่นไฟอัจฉริยะเพื่อป้อนเข้าสู่อุปกรณ์ชิ้นเล็กชิ้นน้อย หรือกระจังหน้ารังผึ้งสามารถปรับเปลี่ยนมุมได้ตามความเหมาะสม นอกจากจะช่วยเรื่อง Aerodynamic แล้วยังช่วยเครื่องลดอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงอันเนื่องจากระบายความร้อนสมบูรณ์แบบขึ้น และยังคงรักษาสมรรถนะเครื่องยนต์เอาไว้แม้อยู่สภาวะอากาศเย็น
Ford Mondeo Minorchange มีกำหนดวางจำหน่ายที่แรกในอังกฤษช่วงเดือนตุลาคมนี้
ส่วนคนไทยที่คาดหวังว่า Mondeo จะประกอบในโรงงานที่เพิ่งประกาศลงทุนไปเห็นทีคงต้องรอรุ่น Modelchange เปิดตัวน่าจะมีความชัดเจนมากขึ้น