ตลาดรถยนต์นั่งขนาดกลาง D-Segment Sedan ในยุโรป แม้จะไม่บูมเหมือนหลายปีก่อน
กระนั้น แต่ละค่ายยังคงพยายามพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ออกมาให้ลูกค้าได้เล่นสนุกอย่างสม่ำเสมอ
โดยเฉพาะกรพัฒนาเทคโนโลยีเครื่องยนต์ใหม่ๆ ที่แรงขึ้น และประหยัดน้ำมันมากขึ้น อีกทั้งยัง
ช่วยลดมลพิษไปด้วย ในคราวเดียวกัน
Ford Motor สำนักงานยุโรป ในเมือง โคโลญ เยอรมัน ได้ประกาศในวันนี้ว่า จะเพิ่มทางเลือกเครื่องยนต์ใหม่
ให้กับลูกค้า ถึง 2 ขนาด โดยในเบื้องต้น จะนำมาประจำการอยู่ในรถยนต์นั่งขนาดกลางรุ่น Mondeo
โดยมีทั้งเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 2.0 ลิตร Turbocharge ECO-Boost 203 แรงม้า (PS)
แรงบิดสูงสุดถึง 300 นิวตันเมตร มาพร้อมกับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ Power Shift แบบคลัชต์คู่ หรือ
Dual Clutch ที่ให้การเปลี่ยนอัตราทดที่ราบรื่นและเป็นไปอย่างต่อเนื่อง เครื่องยนต์นี้ ผลิตจากอลูมิเนียม
น้ำหนักเบา โดยทางฟอร์ดได้เคลมตัวเลขมาว่า จาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใช้เวลาเพียง 7.9 วินาทีเท่านั้น
และให้อัตราการประหยัดน้ำมันที่ 12.98 กิโลเมตร/ลิตร และมีอัตราการปล่อยก๊าซ คาร์บอนไดออกไซด์ที่
179 กรัม / 1 กิโลเมตรเท่านั้น ซึ่งถ้าจะว่าไป เครื่องยนต์บล็อกใหม่นี้ ประหยัดกว่า และปล่อยมลพิษ
น้อยกว่า เครื่องยนต์ 2.3 ลิตรที่เคยประจำการอยู่ก่อนหน้านี้ด้วยซ้ำ
ส่วนอีกหนึ่งรุ่นที่เหลือ เป็นขุมพลังที่หลายๆคนรู้จักกันดีกับเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 2.0 ลิตร
TDCi ที่ปรับสมรรถนะให้แรงขึ้นเป็น 163 แรงม้า (PS) มีเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ Power Shift Dual Clutch
เป็นออพชันให้เลือก โดยฟอร์ดได้เคลมตัวเลขอัตราการประหยัดน้ำมันว่า มากถึง 18.86 กิโลเมตร/ลิตร
และยังปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ 139 กรัม / กิโลเมตรเท่านั้น