ตามหลังการเปิดตัว Lincoln Navigator ไปได้ไม่นาน Ford ก็จัดการเผยโฉม 2015 Ford Expedition คู่แฝดรถยนต์
Full Size SUV ตามออกมาติดๆ และใช้มุกเดียวกัน คือการปรับโฉมครั้งใหญ่จากรถยนต์เจเนอเรชั่นที่ 3 ซึ่งเปิดตัว
มาตั้งแต่ปี 2007 แต่เน้นการอัดแน่นเทคโนโลยีใหม่ๆเป็นจุดเด่นแทน
รูปลักษณ์ภายนอก มีความเปลี่ยนแปลงหลักอยู่ที่รูปลักษณ์ด้านหน้า มาพร้อมกับกระจังหน้าใหม่ เน้นความดุดันด้วย
แถบกระจังหน้าแนวนอน รับกับโคมไฟหน้าที่ถูกออกแบบใหม่ด้วยเช่นกัน ในขณะที่ด้านท้ายมาพร้อมกับปลายท่อไอเสีย
โครเมี่ยม ออกแบบฝากระโปรงท้ายใหม่ ในขณะที่ส่วนลำตัวของรถไร้การดัดแปลงงานออกแบบใดๆ
2015 Ford Expedition ยังคงมาพร้อมกับ 2 เวอร์ชันให้เลือกซื้อ ได้แก่เวอร์ชันปกติ มีระยะฐานล้อหน้า-หลังยาว 3,022 มิลลิเมตร
และเวอร์ชั่น Expedition EL หรือ Extended Length ให้ระยะฐานล้อหน้า-หลังที่ยาวมากกว่า เป็น 3,327 มิลลิเมตร
เพื่อการบรรทุกสัมภาระที่มากขึ้น และการโดยสารที่สบายมากยิ่งขึ้น
ภายในห้องโดยสาร เห็นความเปลี่ยนแปลงจากโฉมปัจจุบันได้ชัดเจนกว่าภายนอก เพราะมีการเปลี่ยนคอนโซลหน้า
ออกแบบใหม่ทั้งหมด ดูล้ำสมัยแฝงความบึกบึน โดดเด่นด้วยหน้าจอมาตรวัดแบบ LCD พร้อมติดตั้งระบบ Intelligent Access
หรือระบบปุ่มสตาร์ท นอกจากนี้ยังติดตั้งระบบอินโฟเทนเมนต์ MyFord Touch พร้อมเครื่องเสียง 10 ลำโพงจาก Sony
สร้างบรรยากาศได้หลากหลายขึ้นผ่านระบบไฟ LED Ambient Light ครั้งนี้ Ford ได้ขยายความหรูหราให้กับ
Expedition ด้วยการเปิดตัวรุ่นตกแต่ง ‘Platinum’ ที่ใช้เบาะนั่งหุ้มหนังแท้ ‘Buttery’ แบบพิเศษ
ขุมพลังที่ใช้ ถอดขุมพลังบล็อกโตและโบราณออกไป แทนที่ด้วยเครื่องยนต์ตระกูล Ecoboost แบบ V6 ขนาด 3.5 ลิตร
พร้อมเทอร์โบ ซึ่งสร้างกำลังได้มากกว่า 370 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 582 นิวตัน-เมตร แม้จะเป็นการลดขนาดความจุ
กระบอกสูบลงจากโฉมปัจจุบัน แต่ก็สามารถให้กำลังได้เพียงพอต่อการใช้งาน และประหยัดน้ำมันมากกว่าเดิม เชื่อมต่อ
กำลังเข้ากับระบบเกียร์อัตโนมัติ SelectShift แบบ 6 จังหวะ
นอกจากนี้ Ford ยังติดตั้งระบบพวงมาลัยไฟฟ้าใหม่ ให้กับ Expedition รวมถึงระบบช่วงล่างพร้อมโช้คอัพแบบ
ปรับไฟฟ้า พร้อม 3 โหมดการใช้งาน ได้แก่ โหมดเน้นความนุ่มนวล โหมดทั่วไป และโหมดการขับขี่แบบสปอร์ต
2015 Ford Expedition เป็นการปรับโฉมครั้งใหญ่ให้กับรถยนต์ Full-Size SUV ของตน ที่ต้องปรับตัวไปตามแนวโน้มของตลาด
ท่ามกลางรสนิยมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปหารถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ขนาดเล็กลง หรือมีขนาดตัวถังที่เล็กลง ซึ่งใน Expedition ใหม่นี้
น่าจะเป็นการปรับตัวที่ยังรั้งให้ผู้บริโภคสนใจรถยนต์ในกลุ่มนี้อยู่ได้