นานเท่าไรแล้วที่แบรนด์ Alfa Romeo ไม่ได้เป็นแบรนด์ขวัญใจที่ทำให้คนเล่นรถอยากจะซื้อหามาใช้? ก็คงนานพอ ๆ กับ
การเปิดตัวรถรุ่นใหม่ในพักหลังหรือน่าจะนานพอ ๆ กับการขยับตัวเปลี่ยนแปลงที่ช้าเหมือนงูเหลือมเสียเหลือเกิน แต่อย่าง
น้อย ๆ ก็โชคดีที่ว่า Fiat ก็ยังยอมรับความจริงเช่นกันว่าแบรนด์หรูสปอร์ตอย่าง Alfa Romeo

Fiat Chrysler Automobiles เปิดเผยว่ารถ Alfa Romeo ที่สร้างขึ้นบนพื้นตัวถังงานวิศวกรรมขับเคลื่อนล้อหลังแบบ
ใหม่ล่าสุดจะเริ่มเปิดตัวได้ในปี 2016 และที่สำคัญเวอร์ชัน High-End ของแต่ละรุ่นก็จะได้เครื่องยนต์ที่พัฒนาโดย
Ferrari เป็นการเอื้ออำนวยเพื่อให้แบรนด์ Alfa Romeo กลับมาวิ่งสู้ฟัดในตลาดรถหรูได้

2014 03 28 Alfa

แบรนด์ Alfa Romeo ถือเป็นแบรนด์รถระดับหรูที่กำลังอยู่ในสภาวะตกต่ำอยู่ด้วยยอดขายต่ำเตี้ยเรี่ยดินในปี 2012 เพียง
แค่ 74,000 คันเท่านั้นจนทาง Fiat ตั้งเป้าที่จะปลุกสัญญาณชีพให้กลับมาทำกำไรและยอดขายเพิ่มอีกครั้ง

Giuseppe Berta ศาตราจารย์มหาวิทยาลัย Bocconi และเคยเป็นผู้บริหารเก่า Fiat ได้แสดงความคิดว่า นี่คือโอกาสครั้ง
สุดท้ายของ Fiat ที่จะคืนชีพแบรนด์ Alfa Romeo และการที่พวกเขาจะต่อกรกับค่ายรถหรูเยอรมันก็จำเป็นต้องสร้าง
เอกลักษณ์ของตัวเอง ดังนั้น การใช้ Ferrari ช่วยสร้างเครื่องยนต์และอิตาเลียนดีไซน์จึงเป็นโอกาสอันดีงามที่สุด

อย่างไรก็ตามแผนที่จะเฉดรถ Alfa Romeo รุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าอย่าง MiTo และ Giulietta ที่มีสัดส่วนการขายมากถึง
99% ออกจากสายการผลิตนั้นก็ยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณา

การ Relaunch Brand ของ Alfa Romeo ในครั้งนี้ พวกเขาก็อยากจะทำให้แบรนด์เป็นไอคอนคล้าย ๆ กับสมัยยุค 60s
ที่สามารถสร้างวัฒนธรรมของตัวเองผ่านหนัง The Graduate พร้อมจำหน่ายผ่านเครือข่าย Jeep ในตลาดสากลที่มีอยู่ถึง
1,700 ราย เพื่อให้สามารถต่อกรกับ BMW ที่เครือข่ายทั่วโลกถึง 3,200 รายได้

Alfa Romeo จะมาในตำแหน่งรถระดับหรูทางเลือกใหม่นอกเหนือจากรถหรูแบรนด์ตลาด และการใช้โชว์รูมเดียวกับ
Jeep ก็ทำให้กินยอดขายกันเองน้อยมาก เพราะแบรนด์ Jeep คือแบรนด์พันธุ์แกร่ง ส่วน Alfa Romeo คือแบรนด์หรู
สปอร์ตจากอิตาลี

IHS Automotive ได้วิเคราะห์ไว้ว่ายอดขาย Alfa Romeo ภายในปี 2017 จะทำได้ประมาณ 243,000 คันถือว่าต่ำกว่า
เป้าระดับหนึ่งแต่ก็มียอดขายพุ่งกระโดดจากเดิมราวสามเท่าตัวอยู่ดี

การปลุกชีพแบรนด์ Alfa Romeo นอกจากจะส่งผลดีต่อสถานะโดยรวมของ Fiat แล้ว ก็ยังทำให้โรงงานที่มีกำลังผลิต
เหลือสามารถผลิตรถยนต์ Alfa Romeo รุ่นใหม่ ๆ สำหรับส่งออกได้อีกด้วย

ที่มา : Autonews