หลังประสบความสำเร็จกับการกระตุ้นตลาดบิ๊กไบค์ในไทย ด้วยการประกอบขายในไทยจนสามารถทำราคาได้ต่ำลง
และสร้างกลุ่มบิ๊กไบค์ในไทยได้กว้างขวางกว่าเดิม Ducati แบรนด์บิ๊กไบค์ชื่อดังจากอิตาลี ในเครือ Volkswagen Group
พร้อมเปิดแบรนด์ใหม่ ‘Ducati Scrambler’ ในไทยอย่างเป็นทางการ ประกาศคาแรคเตอร์สนุกในแบบ How Scrambler You Are?
เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
Ducati Scrambler เป็นจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ ที่ผสานเอาสไตล์ย้อนยุค เข้ากับความร่วมสมัยได้อย่างลงตัว
หลังจากผลิตรุ่นแรกในปี 1962 ซึ่งได้รับความนิยมอย่างสูงเรื่อยมา โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา ด้วยรูปลักษณ์ที่ดูคลาสสิค
แต่ใส่ความสมัยใหม่ลงไป
พร้อมคาแรคเตอร์ตัวรถที่ช่วยให้ขับขี่ได้ง่ายสะดวกสบาย ทั้งเบาะนั่งที่ต่ำ ออกแบบแฮนด์ให้กว้าง และเครื่องยนต์
ที่มีพละกำลัง ขับขี่ง่าย ในขณะที่ อภิชาติ ลีนุตพงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดูคาทิสติ จำกัด หรือดูคาติ ไทยแลนด์
ได้กล่าวว่า ในไทยนั้น ได้สร้างกระแสการเปิดตัว Ducati Scrambler ได้แรงไม่น้อย ด้วยการเนรมิต Scrambler Café
บริเวณ มาร์เก็ตเพลส ย่านทองหล่อ ให้สนุกกับการสร้างสรรค์แฮมเบอร์เกอร์ในรูปแบบเฉพาะตัว พร้อมแฮชแท็ก #ScramblerYouAre
สำหรับ Ducati Scrambler ที่มาเปิดตัวในไทยนั้น มาครบทั้ง 4 รุ่น ได้แก่ Icon ตัวถังสีเหลืองและแดง, Urban Enduro
พร้อมสีเขียว Wild Green, Full Throttle ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากระแข่งในสนาม Flat Track, Classic ตกแต่ง
ด้วยรายละเอียดตามแบบฉบับรุ่นดั้งเดิมในยุค 70
ตัวรถออกแบบสวิงอาร์มหลังในสไตล์โมเดิร์น และตำแหน่งของท่อไปเสีย เป็นไปตามตำแหน่งของรถ Naked รุ่นล่าสุดของ Ducati
นอกจากนี้ การมี Silencer ขนาดสั้น และรูปแบบของบังโคลนหลัง ทำให้รถดูมีมิติที่คล่องตัวมากขึ้น ไฟหน้าถูกออกแบบใหม่ให้
มีความทันสมัยยิ่งขึ้น โดยมีไฟนำแบบ LED ซึ่งได้สร้างเอกลักษณ์อันโดดเด่นให้แก่รถ Ducati Scrambler เป็นอย่างมาก
ทั้งนี้ ฝาถังน้ำมันที่สลักคำว่า “born in 1962” ยังมีรูปแบบการเปิด-ปิดตามแบบฉบับของรถในยุคปี 70 และรูบิดกุญแจที่เป็น
ส่วนหนึ่งของชุดไฟหน้าตามรูปแบบที่ใช้ในรถ Scrambler คันแรก
นอกจากนี้ วัสดุที่ถูกทดสอบผ่านการใช้งานจริงมายาวนาน เช่น อลูมิเนียมที่ใช้ในสวิงอาร์มและฝาครอบเครื่อง หรือเหล็กที่
เป็นวัสดุของถังน้ำมันเหล็กรูปหยดน้ำ และเฟรมอันเป็นเอกลักษณ์ ผสมผสานกับชิ้นส่วนที่ล้ำสมัย อย่างไฟหน้า-หลัง LED และจอแสดงผล LCD
Ducati Scrambler พร้อมจำหน่ายในไทยแล้ว ด้วยจุดเด่นของความคลาสสิคร่วมสมัย ร่วมถึงการขับขี่ได้ง่าย
สำหรับ Biker และ Non-Biker ที่อยากจะลิ้มลองรูปแบบเฉพาะตัวของบิ๊กไบค์อีกรูปแบบหนึ่ง