Citroen ปล่อยรถยนต์รุ่นน้องในตระกูล DS-Series รถยนต์ระดับพรีเมี่ยมแมสจนประสบความสำเร็จไปแล้ว คราวนี้
Citroen ก็กำลังพิจารณาปล่อยรุ่นใหญ่ออกมาในอนาคต แต่ก็ต้องลองเชิงด้วยการเปิดตัวรถต้นแบบดูกันก่อน ล่าสุด
Citroen ก็ปล่อย Numero 9 Concept Beijing Autoshow 2012

Citroen Numero 9 Concept จะเป็นรถต้นแบบของ Citroen DS9 ที่จะเปิดตัวในจีนครั้งแรกในปี 2012 โดยยังยึด
หลักการออกแบบที่แปลกตาและล้ำหน้ากว่ารถตลาดของ Citroen ทั่วไปเพื่อเปิดมุมมองใหม่ในตลาด โดยรถยนต์ตระกูล
DS สามารถขายไปได้แล้วถึง 200,000 คันโดยเฉพาะตลาดสหราชอาณาจักรก็สามารถขายไปได้มากถึง 25,000 คัน

Citroen Numero 9 Concept จะมาในรูปแบบรถยนต์สปอร์ตแวกอนท้ายลาดแนว Shooting Brake ที่คาดว่าจะ
กลายเป็นรูปแบบรถยนต์ยอดนิยมในกลุ่มตลาดพรีเมี่ยม  ดีไซน์ก็มีทั้งความล้ำสมัยแปลกตา, ความหรูหราแต่ก็ยังไม่ละทิ้ง
การใช้งานในชีวิตประจำวันด้วย สัดส่วนตัวรถแปลกตากว่า Citroen DS รุ่นอื่น ๆ ด้วยความสูงแค่เพียง 1.27 เมตร
ขณะที่มีความยาวตัวถัง 4.93 เมตร, กว้าง 1.94 เมตรและฐานล้อยาว 3 เมตร  รถเตี้ยมากก็จริงแต่ก็มีพื้นที่เนื้อที่ห้อง
โดยสารกว้างขวางและสร้างบรรยากาศให้โปร่งโล่งด้วยหลังคาซันรูฟ

ด้านหน้า Citroen Numero 9 Concept อาจจะบ่งบอกถึงแนวทางการออกแบบตระกูล DS เจเนเรชั่นใหม่ได้ โดยชู
จุดเด่นไฟเลี้ยวเอกลักษณ์ใหม่, กระจ้งหน้า 3 มิติ แต่ยังมีเอกลักษณ์ความเป็น DS รุ่นปัจจุบันด้วยเส้นสายด้านข้างสุดพลิ้ว

สีที่สาดตัวรถ Citroen Numero 9 Concept ให้ความลึกลับอย่างบอกไม่ถูก มันเป็นสีดำผสมกับสีม่วงสะท้อนออกมา
เป็นประกายในบางครั้งซึ่งสีนี้มีชื่อว่า Whisper

ทุก ๆ การดีไซน์จะแฝงเทคโนโลยีเพื่อหลักอากาศพลศาสตร์ไม่ว่าจะเป็นสปอยเลอร์ท้ายช่วยลดแรงกดท้าย, เสาขอบ
กระจกออกแบบให้ลมไหลลื่นและล้ออัลลอยแบบกังหันช่วยหมุนเวียนลมผ่านล้อได้รวดเร็ว แต่ก็แอบงงเล็กน้อยว่าทำไมมัน
มีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานมากถึง 0.61

Citroen Numero 9 Concept จะติดตั้งระบบ Plug-in Hybrid เต็มรูปแบบจับคู่เครื่องยนต์สันดาปภายในทั้งเครื่องยนต์
เบนซินและดีเซล(แล้วแต่ตลาดกำหนด)กับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ส่งกำลังเฉพาะล้อหลัง 70 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 200 นิวตัน
เมตร สำหรับเวอร์ชันที่อวดโฉมในงาน Beijing Autoshow 2012 จะติดตั้งเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร THP 225 แรงม้า แรงบิด
สูงสุด 275 นิวตันเมตร ให้กำลังรวมกัน 295 แรงม้า สามารถวิ่งในโหมดรถไฟฟ้าระยะทางสูงสุด 50 กิโลเมตร ทำอัตราเร่ง
0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 5.4 วินาที ระบบขับเคลื่อนสามารถเปลี่ยนเป็นแบบขับเคลื่อนสี่ล้อเมื่อผู้ขับขี่ตกอยู่ใน
สภาวะคับขัน