หนทางที่จะนำรถยนต์ Chrysler ยุคใหม่บุกตลาดยุโรปมีไม่กี่ทางเลือกเท่านั้น แม้ว่า Chrysler พยายามจะพัฒนาคุณภาพรถยนต์ให้ดีขึ้นแต่ชาวยุโรปก็ยังจำภาพแย่ ๆ ของ Chrysler เมื่อวันวานได้ วิธีแก้ปัญหาที่สั้นที่สุดก็คือการนำรถ Chrysler ที่มีคุณภาพดี ๆ ประทับตราในเครือ Fiat Spa. เสียซึ่งน่าจะเป็นความท้าทายครั้งหนึ่งในชีวิตของ Fiat Group กันเลย
Mr. Sergio Marchionne ดำรงตำแหน่ง CEO ประจำ Fiat Spa. เล็งเห็นช่องทางการจำหน่าย Chrysler 200 อันเป็นรถคู่แข่ง Ford Mondeo ในตลาดยุโรปบางแห่งโดยเฉพาะกลุ่มตลาดเหมาซื้อสำหรับองค์กรหรือที่เรียกกันติดปากว่า Fleet ดังนั้น Mr. Sergio Marchionne จึงดำริให้นำเจ้า Chrysler 200 ไปประทับตรา Lancia สำหรับตลาดเหมาซื้อในประเทศเยอรมนีและสหราชอาณาจักร
แต่ใช่ว่ากลยุทธ์ดังกล่าวจะได้รับการตอบรับจากทีมงานนักเมื่อ Mr. Olivier Francois ดำรงตำแหน่ง CEO ดูแลแบรนด์ Chrysler และ Lancia ยังไม่มั่นใจว่าวิธีที่ Mr. Sergio Marchionne ดำรินั้นจะประสบความสำเร็จ เพราะ Chrysler 200 ไม่มีสเปคเครื่องยนต์ดีเซลให้เลือก ทั้ง ๆ ที่ตลาดรถยนต์นั่งในยุโรปเกินครึ่งเป็นเครื่องดีเซลแทบทั้งนั้น และแน่นอนกลุ่มเหมาซื้อสำหรับองค์กรก็ต้องมีสัดส่วนเครื่องดีเซลมากกว่าเบนซิน เพราะมันประหยัดน้ำมันกว่าเห็นชัด
หาก Chrysler 200 จะต้องดัดแปลงให้เหมาะสมกับรสนิยมชาวยุโรป รวมไปถึงต้องดัดแปลงให้สามารถติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซลได้ก็จะต้องเสียค่าใช้จ่ายครั้งนี้ถึง 70 ล้านดอลลาร์ เมื่อพิจารณาอายุตลาดของ Chrysler 200 โฉมใหม่ที่มีเพียงแค่ 3 ปี (เพราะเป็นรุ่น Big Minorchange ของ Chrysler Sebring) หลังจากนั้นก็จะต้องเปลี่ยนโฉมใหม่ทั้งหมดโดยใช้พื้นตัวถังร่วมกับ Fiat แถมกว่า Chrysler 200 จะมาในยุโรปก็ปาเข้าไปปี 2011 ทำให้การลงทุนดัดแปลงสำหรับตลาดยุโรปไม่คุ้มค่าเอาเสียเลย
Chrysler 200 โฉมปัจจุบันเพิ่งเปิดตัวในตลาดสหรัฐอเมริกาไม่นานนัก เตรียมวางจำหน่ายในตลาดช่วงสิ้นปีนี้ตั้งเป้าจำหน่าย 80,000 ต่อปี