Chevrolet Spark front

GM สร้างความฮือฮาในรอบหลายปีเมื่อเปิดตัวรถต้นแบบดีไซน์สวย

และแปลกตาทั้ง 3 คันในงาน นิวยอร์ก ออโตโชว์ ปี2007

เจาะกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่และไลฟ์สไตล์ที่ต่างกันที่ไหว้วานให้ทีมพัฒนา GM-Daewoo เกาหลีใต้

ร่วมกันพัฒนาภายใต้ระบบ GM Global เอาใจตลาดอย่างเต็มที่

1 ในนั้นที่เป็นดาวรุ่งและมีสิทธิ์มาประกอบเป็นเวอร์ชันจริงมากที่สุด

คือ Beat

รถแฮทช์แบคทรงโฉบเฉี่ยวตามสมัยนิยม 3 ประตูที่ได้คะแนนโหวตสูงที่สุดคือ 1.9 ล้านโหวตก็เป็นไปตามคาด

 

หลังจากนั้นไม่นานนักข่าวลือโครงการ Next Generation Matiz รหัสพัฒนา M300

รถนาครตัวเก่งของค่ายนับวันที่เริ่มถอยหลังหมดอายุซะที

พร้อมก้าวเข้าสู่ระบบ โกลบอลซึ่งแต่เดิมทีมงานจีเอ็มแดวูมักพัฒนารถยนต์ในสไตล์ครูพักลักจำเสมอมา

คือเอาของเก่าๆจากโอเปิลบางอย่างมารีมิกซ์และรีไวซ์กันสนุกสนานโดยที่ไม่ได้ พัฒนาเทคโนโลยีหรือต่อยอดให้ดีขึ้นมากเลย

 

รถคันแรกที่พัฒนาภายใต้ระบบโกลบอลคือ Captiva รหัสพัฒนา C100

และ Opel Antara รหัสพัฒนา C105 จำหน่ายในเกาหลีชื่อ GMDaewoo Windstorm Sport

ดังนั้น โฉมหน้าของรถเล็กคันใหม่จะต้องเปลี่ยนทุกๆสิ่งทุกๆอย่างให้ดีขึ้นมาก

 

Chevrolet Spark คือคำตอบใหม่ของ M300

กลายเป็นหวยพลิกเมื่อ GM ต้องการเปลี่ยนภาพลักษณ์ของรถเล็กจากเดิมเชยๆเฉิ่มๆจาก Matiz โฉมที่จะตกรุ่น

ให้กลายเป็นรถเล็กทรงสเน่ห์นามว่า Spark (อย่าสับสนกับชื่อรุ่นของยามาฮ่า)

 

นามนี้ท่านได้แต่ใดมาน่ะหรือ มันก็คือชื่อของ Matiz ที่จำหน่ายในจีน อินเดีย และละตินอเมริกาบางประเทศนั่นแล

ผมว่าชื่อนี้เหมาะสมและสร้างสีสันได้อย่างมากมันจุดประกายแรงบันดาลใจ ของคนรุ่นใหม่ได้ดีนะ

รูปร่างหน้าตาของ Spark ใหม่สอบผ่านระดับเกียรตินิยมเพราะนี่คือ A-segment

ที่กล้านำดีไซน์จากรถใหญ่กว่าอย่างพวก B-C Segment มาประยุกต์ใช้การออกแบบ

ตัวถังเจ้าคันนี่ได้ดีสวนทางคู่แข่งในตลาดที่พยายาม make its simple มากที่สุด

เพราะมีเรื่องต้นทุนการผลิตเหล็กยิ่งมีความซับซ้อนมากเท่าไรต้นทุน

ก็ยิ่งต่ำลงแน่นอนเมื่อขายราคาถูกกำไรก็น้อยกระปริบกระปอยเสียกระไรประกอบ

กับรถพวกนี้เป็นรถรุ่นล่างสุดหรือรถถูกที่สุดจึงไม่จำเป็นต้องดีไซน์ให้โฉบเฉี่ยวหรือทำเส้นบิดให้เสียต้นทุนเล่น

Spark มาในรูปลักษณ์ทอลบอย 5 ประตู เส้นสายด้านหน้าทั้งหมดเป็นไปตาม Global Chevrolet ยุคใหม่

เส้นสายมาลักษณะสปอร์ตทั้งไฟหน้า กระจังพร้อมโลโกโบว์ไท และกันชนหน้าทรงสปอร์ตพร้อมไฟตัดหมอกที่โดดเด่น

ผนวกกับล้อแมกซ์ 15 นิ้ว ประตูหลังซ่อนมือจับไว้ที่มุมประตูด้านหลัง

(นึกถึงมือเปิดประตูแบบอัลฟ่า 156) มิติตัวรถยาว 3,640 มม. (ยาวกว่าเดิม 145 มม.) ฐานล้อยาว 2,375 มม. (ยาวกว่าเดิม 30 มม.)

 Chevrolet Spark interior

ภายในเพิ่มความแปลกใหม่
ดีไซน์ทั้งหมดตอบสนองคนรุ่นใหม่ที่ดูสนุกสนาน,ดู เป็นแฟชั่นทันสมัย และเหมาะสมกับการใช้งาน

แผงมาตรวัดได้แรงบันดาลใจจากแผงมาตรวัดมอเตอร์ไซค์(รุ่นแพงๆนะ ไม่ใช่ ฮอนด้า เวฟ,ยามาฮ่า มีโอ)

มันดูเหมือนล้ำสมัยไม่น้อยนะถ้าดูเผิน

แต่ถ้าดูจริงๆมันคือมาตรวัดแบบแอนาล๊อคแบบเข็มผสมเข้ากับมาตรวัดดิจิตอลที่วัดหน่วยต่างๆ

ถือว่าเป็นความคิดสร้างสรรค์สังเกตรอบๆแผงวัดจะเป็นไฟบอกตำแหน่งต่างๆภายใต้ต้นทุนไม่แพงนัก

 

สีสันของภายในรถขึ้นอยู่กับสีภายนอกด้วยเช่นรถสีเขียวจี๊ดคุณจะได้

แผงข้างประตูและลายเบาะผ้าที่เข้ากัน,สีแดงสปอร์ตก็จะได้ภายในสีแดงลายเบาะผ้า สปอร์ต เป็นต้น

 

งานวิศวกรรมที่ไมได้บอกอะไรมาก

เครื่องยนต์ ใหม่ 4 สูบ 1.0 และ 1.2 ลิตร ที่เคลมว่าประหยัดและมลพิษต่ำ

ส่วนระบบช่วงล่างหรือระบบความปลอดภัยอื่นๆรายละเอียดยังไม่มากนัก

2010 Chevrolet Spark

 สรุป : นี่คือ A-segment ที่ยกเอามาตรฐานจากรถใหญ่กว่ามาใส่แบบไม่เกรงใจคู่แข่ง

การ ทำรถ Entry Level หรือ A-segment การหั่นต้นทุนเป็นสิ่งสำคัญมากเพราะรถแบบนี้ทำกำไรได้น้อยมาก

เพราะต้นทุนการพัฒนาสูงพอๆกับรถ B-segment (อาวีโอ,แจ๊ซ,ยาริส,มาสด้า 2 )

และ C-segment (โคโรลล่า,ซีวิค) ขณะที่ราคาจำหน่ายรถเล็กเหล่านี้ต่ำที่สุดในท้องตลาดจึงเป็นงานที่เสี่ยงมาก

 

หากคิดจะเปิดตัวในช่วงยุคปี 2000 แต่โชคชะตาคงจะเป็นใจเมื่อวิกฤตราคาน้ำมันและเศรษฐกิจทำให้ผู้บริโภคเปลี่ยน

มาซื้อรถเล็กระดับ A-B segment มากขึ้นในปี 2008

ด้วยเหตุผลง่ายๆคือราคาไม่แพง,ห้องโดยสารกว้างขวางเพียงพอกับการใช้งาน สอดประสานกับความประหยัดอย่างคุ้มค่า 

 

การประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วของ Hyundai i10 ที่ทำยอดส่งออกทั่วโลก 1 แสนคันเพียงแค่ 6 เดือนเท่านั้น

(ทั้งๆที่คันนี้ดัดแปลงจาก Kia Picanto จนดูดีแบบคนละเรื่อง)

รวมถึงยอดขายรถเล็กต่างๆทั่วโลกก็มีเปอร์เซ็นต์เพิ่มสูงขึ้นมากนี่คือสัญญาณ

ที่ดีว่าหากค่ายรถใดอยากมียอดขายหรือส่วนแบ่งการตลาดควรจะรีบนำรถเล็กมาจำหน่ายภายในปี 2010-2011 โดยด่วน

GMDaewoo ราวกับว่าทำการบ้านรถขนาดเล็กได้ดีมากเพราะจุดอ่อนของรถ A-segment

คือความราบเรียบมากเกินไปอันเกิดจากผลการลดต้นทุนอย่างหนักทำให้งานดีไซน์

ทั้งภายนอกและภายในดูน่าเบื่อและเมื่อคู่แข่งส่วนใหญ่ล้วนแต่เพลย์เซฟเน้นความพอเพียง

 

งานนี้ GM เลยขอกล้าทุ่มกับดีไซน์ตัวนี้มากสวนทางกันไปเลยเหตุผลง่ายๆว่าหากมีรถเล็ก

รุ่นใดที่ทำได้โดนใจลูกค้าส่วนใหญ่จะเทใจให้ถ้าในเมื่อกำไรก็น้อยแล้วทำไม

ไม่ทำรถให้ดึงดูดใจและมันส่งผลถึงยอดขายที่คุ้มค่าอีกด้วย

Chevrolet Spark เป็นรถลำดับที่ 3 ที่ผ่านระบบการออกแบบแบบ GM Global

ต่อจาก Captiva และ Cruze และถือว่าเป็นรถที่มีความโดดเด่นมาก

มากเสียจนผมคิดว่า Toyota Aygo,Hyundai i10,Nissan Pixo และ Suzuki Alto ที่กำลังจะออกน่าจะเหนื่อยนะ