กรุงเทพฯ – บริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด จะทำการเปิดตัวครูซ เวอร์ชั่นเฟล็กซ์ฟิวโฉมใหม่ ที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 34
ยกระดับความโดดเด่นด้วยการปรับรูปลักษณ์ให้สะดุดตายิ่งขึ้น พร้อมเสริมสมรรถนะและรองรับเชื้อเพลิงได้หลากหลายรูปแบบ ตอกย้ำความเป็นยนตรกรรมที่ประสบ
ความสำเร็จมากที่สุดของเชฟโรเลต โดยจัดงานเปิดตัวรอบสื่อมวลชนไปแล้วเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2556 ที่ผ่านมา ในงาน ELLE Fashion Week 2013 ย่านลุมพินี
ครูซ ซึ่งเปิดตัวออกสู่ตลาดประเทศไทยครั้งแรกเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2553 สร้างความประทับใจให้ลูกค้าชาวไทยด้วยยอดขายมากกว่า 20,000 คัน มาพร้อมการออกแบบ
ที่ร่วมสมัยและสมรรถนะการขับขี่ที่เหนือชั้น ครูซ จึงเป็นรถยนต์สำหรับผู้บริหารรุ่นใหม่และสำหรับครอบครัว โดยคอมแพ็คต์ซีดานคันนี้นำยอดขายเชฟโรเลต ในระดับโลก
ในปี 2555 ด้วยตัวเลขมากกว่า 755,00 คัน ครูซ ยังเป็นรถเชฟโรเลตที่มียอดขายสูงที่สุดในโลกโดยมีตัวเลขสะสมเกือบ 1.9 ล้านคัน นับตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2552
“ครูซ ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีในตลาดเมืองไทยเช่นกัน ทั้งสมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยมและการออกแบบอันหรูหรา ทำให้รถคอมแพ็คต์ซีดานคันนี้มี
ความโดดเด่นที่สุดรุ่นหนึ่งในตลาดรถซีดานเมืองไทย ครูซ โฉมใหม่รองรับเชื้อเพลิง E85 จึงเป็นรถเฟล็กซ์ฟิว (Flex-Fuel Vehicle – FFV) ที่สอดคล้องกับกลยุทธ
ของเชฟโรเลต ในการขยายศักยภาพพลังงานทางเลือกให้ครอบคลุมรถทุกรุ่นที่เราจัดจำหน่าย” มร. มาร์ติน แอพเฟล ประธานกรรมการ ประจำประเทศไทยและ
เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัดและบริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว
ครูซ รุ่นปรับโฉมได้รับการยกระดับสุนทรียภาพขึ้นไปอีกขั้น ด้วยกันชนด้านหน้าดีไซน์ใหม่คู่กับไฟตัดหมอกรูปทรงโฉบเฉี่ยว พร้อมกับการปรับการออกแบบทั้งกรอบ
ไฟหน้ามุมโครเมียมและกระจังหน้าใหม่ที่ทำให้โลโก้เชฟวี่ โบว์ไท มีความสะดุดตายิ่งขึ้น ขณะที่กันชนหลังดีไซน์ใหม่ให้ความสปอร์ตกว่าเดิม เข้ากับกรอบไฟท้ายใหม่
อย่างลงตัว ครูซ โฉมใหม่ ยังมาพร้อมล้ออัลลอยแบบห้าก้านที่แต่งเติมความหรูหราให้แก่ตัวรถมากยิ่งขึ้น
ภายในห้องโดยสารของครูซ LTZ รุ่นปรับโฉม ดึงดูดทุกสายตาด้วยการตกแต่งสีน้ำตาลแดง (brown stone) แบบใหม่ พร้อมการแต่งเติมรายละเอียดและพื้นผิวสัมผัส
บริเวณคอนโซลกลางให้ความรู้สึกหรูหรายิ่งขึ้น สำหรับปุ่มสตาร์ทและดับเครื่องยนต์ได้รับการปรับเปลี่ยนให้เป็นทรงกลมเพื่อรองรับการใช้งานได้สะดวกสบายกว่าเดิม
เการเปลี่ยนแปลงที่มีความสำคัญที่สุดของครูซ โฉมใหม่ คือเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร รองรับเชื้อเพลิง E85 ทำให้ครูซ เป็นรถเฟล็กซ์ฟิว หรือรถที่รองรับเชื้อเพลิงได้หลาก-
หลายอีกหนึ่งรุ่นของเชฟโรเลต โดยสามารถเติมได้ทั้งน้ำมันเบนซินทั่วไปจนถึงน้ำมัน E85 ที่มีส่วนผสมของเอทานอล 85 เปอร์เซ็นต์ เครื่องยนต์ 1.8 ลิตร ECOTEC
บล็อก 4 สูบ เพลาราวลิ้นคู่เหนือฝาสูบ (DOHC) ของครูซ ยังมาพร้อมระบบหัวฉีดมัลติพอยท์ (Multi-point Injection) และระบบวาล์วแปรผันคู่ต่อเนื่อง
(Double Continuous Variable Cam Phasing) ทำงานร่วมกับท่อร่วมไอดีแปรผัน (Variable Intake Manifold) ไอดีและไอเสียทำงานอย่างสัมพันธ์กัน
ในทุกรอบเครื่องยนต์
ระบบอันทันสมัยดังกล่าวในเครื่องยนต์ของครูซ โฉมใหม่ช่วยเพิ่มสมรรถนะ ลดปริมาณไอเสียและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ให้พละกำลังสูงสุด 141 แรงม้า
ที่ 6,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 177 นิวตันเมตรที่ 3,800 รอบ/นาที
ครูซ ยังมาพร้อมกับระบบส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด รหัส GF6 รุ่นใหม่ล่าสุด ที่ให้ความแม่นยำยิ่งขึ้นและมอบความนุ่มนวลมากกว่าเดิมในการเปลี่ยนเกียร์
ขณะเดียวกันยังตอบสนองด้านอัตราเร่งได้รวดเร็วขึ้นอีกด้วย ครูซ ยังใช้ระบบการจัดการเครื่องยนต์แบบใหม่ที่ให้ความยืดหยุ่นในด้านการไหลเวียนเชื้อเพลิง
ระยะเวลาการจุดระเบิดและการเร่งไฟจุดระเบิดล่วงหน้า ขึ้นอยู่กับประเภทน้ำมันทั้งเบนซินทั่วไป E10 E20 หรือ E85 ตามมาตรฐานของรถเฟล็กซ์ฟิว ขณะเดียวกัน
รถที่รองรับเชื้อเพลิง E85 ยังมีชิ้นส่วนภายในที่แตกต่างเพื่อรองรับคุณสมบัติพิเศษของเชื้อเพลิง E85
ศักยภาพการรองรับ E85 ของครูซ เป็นอีกหนึ่งกลยุทธสำคัญของเชฟโรเลต ในการขยายยานยนต์พลังงานทางเลือกให้แก่ลูกค้า โดยก่อนหน้านี้ เชฟโรเลต ได้เปิดตั
วแคปติวา รถเอสยูวีเฟล็กซ์ฟิวที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 2.4 ลิตร E85 ไปแล้ว รวมถึงการเปิดตัวโซนิค ขุมพลัง 1.4 ลิตรที่รองรับ E20 เมื่อไม่นานมานี้
ครูซ โฉมใหม่ ยังมาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล เทอร์โบ 2.0 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว ผลิตพละกำลังสูงสุด 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 320 นิวตันเมตร
นอกจากนี้ยังมีเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 1.6 ลิตร DOHC 16 วาล์ว ให้พละกำลัง 109 แรงม้า แรงบิด 150 นิวตันเมตร
เทคโนโลยีและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอันล้ำสมัยอัดแน่นอยู่ในครูซ ไม่ว่าจะเป็นระบบ Passive Entry Passive Start เข้าออกห้องโดยสารโดยไม่ต้องใช้กุญแจ
พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นควบคุมครูสคอนโทรลและเครื่องเสียง ระบบเชื่อมต่อครบครันทั้ง Auxiliary USB และ Bluetooth ครูซ ยังติดตั้งระบบปรับน้ำฝนอัตโนมัติ
และไฟหน้าเปิด-ปิดอัตโนมัติ
เชฟโรเลต ครูซ ไม่ได้มีแต่รูปลักษณ์และการขับขี่ที่โดดเด่นเท่านั้น หากยังเพียบพร้อมด้วยระบบความปลอดภัยทั้งแบบป้องกันและเตรียมพร้อม ไม่ว่าจะเป็นถุงลมนิรภัย
คู่หน้าและด้านข้าง ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) ระบบกระจายแรงเบรกอิเลกทรอนิก (EBD) ระบบรักษาเสภียรภาพการทรงตัว (ESP) ระบบป้องกันการลื่นไถล
(Traction Control) และกุญแจนิรภัย (Key Immobilizer) ขณะที่ระบบความปลอดภัยแบบเตรียมพร้อมประกอบด้วยโครงเหล็กนิรภัยและคานกันกระแทกด้านข้าง
ที่ทนทานต่อแรงอัดสูง
เชฟโรเลต ครูซ พร้อมให้ลูกค้าได้ทดลองขับที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 34 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 มีนาคมถึง 7 เมษายนนี้
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเชฟโรเลต ครูซและกิจกรรมภายในงานสามารถเข้าชมได้ที่ www.chevrolet.co.th หรือโทร. 1734