กรุงเทพฯ – เชฟโรเลต เผยโฉม สปิน รถอเนกประสงค์รุ่นใหม่ล่าสุดให้สื่อมวลชนไทยได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด ก่อนหน้าการเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่งานบางกอก
อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ สปิน ซึ่งเป็นรถซับคอมแพ็กต์ระดับโลกของเชฟโรเลต จะออกทำตลาดรถบีเซกเมนท์ในประเทศไทย เพียบพร้อมด้วยความอเนกประสงค์
ในแบบรถเอ็มพีวี 7 ที่นั่ง ออกแบบมาเพื่อมอบความสะดวกสบาย เนื้อที่ใช้สอยกว้างขวาง รองรับการใช้งานที่หลากหลาย ประหยัดเชื้อเพลิง สมรรถนะการขับขี่และ
การควบคุมที่เหนือชั้น อีกทั้งยังมีรูปลักษณ์ที่ร่วมสมัยและบึกบึน เปิดตัวไปเรียบร้อยแล้ว ณ ร้าน Flow House ย่านสุขุมวิท เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2556 ที่ผ่านมา
เมื่อกว่า 10 ปีที่แล้ว เชฟโรเลต เปิดตัวรถเอ็มพีวีรุ่นแรกในเมืองไทยอย่างซาฟิร่า นับเป็นการบุกเบิกเซกเมนท์ใหม่ให้อุตสาหกรรมยานยนต์ ซาฟิรา ประสบความสำเร็จ
อย่างมากโดยได้รับรางวัล “รถเอ็มพีวียอดเยี่ยมแห่งปี” ในประเทศไทยสามปีซ้อน ลูกค้ามีความประทับใจในซาฟิร่าอย่างมาก ในปัจจุบันยังคงเห็นซาฟิร่า โลดแล่นอยู่บน
ท้องถนนเมืองไทยมากมาย ทั้งนี้สปิน รุ่นใหม่ไม่ได้เป็นตัวแทนของซาฟิร่า แต่เดินตามรากฐานความเป็นเอ็มพีวีคุณภาพเยี่ยมที่สร้างสรรค์โดยเชฟโรเลต
สปิน มีเป้าหมายเจาะกลุ่มคนไทยร่วมสมัย เพียบพร้อมด้วยคุณสมบัติที่เหมาะสำหรับครอบครัวคนรุ่นใหม่ที่กำลังมองหารถที่มีความสะดวกสบาย กว้างขวาง มีขนาด
พอเหมาะและมีราคาไม่สูงเกินไป ขณะเดียวกัน ยังสอดคล้องกับคนรุ่นใหม่ในเมืองที่ต้องการรถสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวกับเพื่อนฝูงหรือทำกิจกรรมต่างๆ ในช่วง
วันหยุดสุดสัปดาห์ สปิน อัดแน่นด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่แบ่งออกเป็นสองรุ่นย่อย เป็นรถที่ใครก็เป็นเจ้าของได้หากพิจารณาถึงราคาจำหน่ายและค่าใช้จ่าย
การดูแลรักษา ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจซื้อรถของคนที่กำลังสร้างครอบครัวและคนรุ่นใหม่ที่อาศัยในเมืองใหญ่ของประเทศไทย
สปิน ขึ้นสายการผลิตในศูนย์การผลิตแห่งใหม่ของจีเอ็ม อินโดนีเซีย ในเมืองเบกาซี โดยนอกจากทำตลาดในประเทศไทยและอินโดนีเซียแล้ว สปิน ยังถูกส่งออกไป
จำหน่ายในฟิลิปปินส์อีกด้วย โดยรถยนต์รุ่นนี้ได้รับการพัฒนาบนแพลทฟอร์มของเชฟโรเลต ในระดับโลก โดยได้รับข้อมูลอันเป็นประโยชน์จากทีมวิศวกรของเชฟโรเลต
ทั่วทั้งภูมิภาคนี้ ซึ่งนำมาต่อยอดสู่การพัฒนาตั้งแต่เริ่มโครงการไปจนถึงขั้นตอนการออกแบบและการผลิต
เส้นสายของสปิน โดดเด่นด้วยกระจังหน้าดูอัลพอร์ทเอกลักษณ์เฉพาะของเชฟโรเลต ให้ภาพลักษณ์ความร่วมสมัย และเน้นย้ำว่ารถเอ็มพีวีขนาดเล็กไม่จำเป็นต้อง
มีรูปลักษณ์แบบดั้งเดิมเสมอไป
ทีมนักออกแบบของเจนเนอรัล มอเตอร์ส บราซิล เป็นผู้นำในการดีไซน์สปิน ซึ่งเอาใจใส่ในการออกแบบภายนอกเป็นพิเศษเพื่อไม่ให้สปิน ดูเหมือนเป็น
‘รถเอ็มพีวีธรรมดาอีกคันหนึ่งในตลาด’ เส้นสายที่บึกบึนและชัดเจนทำให้รูปลักษณ์ของสปินมีความโดดเด่นและทันสมัย สัดส่วนตัวถังที่คมคายจากช่วงสันไหล่ด้านข้างตัวรถ
ที่สูงทำให้ตัวรถดูใหญ่กว่าที่เป็นและสะดุดตาขึ้น สะท้อนตัวตนความเป็นแบรนด์เชฟโรเลต ขนานแท้
ห้องโดยสารของสปิน มีรายละเอียดอันพิถีพิถันเช่นกัน เป้าหมายอันดับแรกคือการพัฒนาพื้นที่อันกว้างขวางรองรับผู้โดยสาร 7 ที่นั่งอย่างสะดวกสบาย พร้อมกับคง
ความยืดหยุ่นสูงในการใช้งาน การออกแบบภายในมีความอเนกประสงค์ ทันสมัย และมีกลิ่นอายความสปอร์ต ขณะเดียวกัน ทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารทุกที่นั่งยังสัมผัส
ได้ถึงความกว้างขวางเมื่อนั่งอยู่ในสปิน
เพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว พื้นที่ในห้องโดยสารของสปิน ถูกออกแบบให้รองรับการใช้งานสูงสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่งรวมถึงการย้ายเบรกมือเพื่อเปิดพื้นที่สำหรับ
ช่องวางแก้ว ถึงแม้จะมีเนื้อที่อันกว้างขวางแต่ยังคำนึงถึงหลักสรีระศาสตร์ โดยเฉพาะการใช้งานสวิทช์ต่างๆ ยังคงให้ความสะดวกอย่างเต็มเปี่ยม นอกจากเบาะที่นั่งที่
สามารถพับได้ 23 รูปแบบแล้ว สปิน ยังมีช่องเก็บของในห้องโดยสารมากถึง 32 ช่อง มีเนื้อที่ความจุอยู่ที่ 162 ลิตรเมื่อใช้เบาะ 7 ที่นั่ง โดยจะเพิ่มเป็น 864 ลิตร
หากพับเบาะแถวหลังลง และจะมีเนื้อที่สูงถึง 1,608 ลิตรหากพับเบาะแถวกลางลง
ตำแหน่งเบาะนั่งที่ค่อนข้างสูงทำให้เกิดมุมมองแบบโรงภาพยนตร์ เปิดทัศนียภาพรอบด้านให้ผู้โดยสารทุกที่นั่งและสามารถสัมผัสได้ถึงความกว้างขวาง ขณะที่ตำแหน่ง
เบาะผู้ขับขี่ที่สูงช่วยเพิ่มทัศนวิสัยและลดความเมื่อยล้า ห้องโดยสารของสปิน ยังมาพร้อมเอกลักษณ์ของเชฟโรเลต นั่นคือดีไซน์แบบดูอัล-ค็อกพิท แผงคอนโซลแบบทูโทน
ที่ตกแต่งอย่างพิถีพิถันช่วยสร้างบรรยากาศระดับพรีเมียม มาตรวัดความเร็วของสปิน เป็นแบบดิจิตอล ส่วนมาตรวัดรอบเครื่องยนต์เป็นแบบเข็มอนาล็อกช่วยเพิ่มความสปอร์ต
อีกระดับ หากเข้าในที่มีแสงน้อยแผงมาตรวัดของเชฟโรเลต เรืองแสงโทนสีฟ้าไอซ์บลู เอกลักษณ์เฉพาะที่โด่งดังของเชฟโรเลต
อีกหนึ่งความโดดเด่นภายในห้องโดยสารของสปิน คือความเงียบ ด้วยการบุวัสดุเก็บเสียงเป็นอย่างดีซึ่งช่วยลดทั้งเสียงรบกวน แรงสั่นสะเทือน และความกระด้าง
ทำให้การขับขี่มีความเงียบสะดวกสบายอย่างมาก
เพื่อเติมความสมบูรณ์แบบให้การขับขี่ที่เงียบสงบและสร้างบรรยากาศแบบรถยนต์นั่ง สปิน มาพร้อมระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระและด้านหลังแบบกึ่งอิสระ ปรับแต่ง
เพื่อมอบสมรรถนะการขับขี่และควบคุมที่ดีที่สุดในรถระดับเดียวกัน ตอบสนองได้ทั้งการขับขี่ในเมืองและเสถียรภาพอันมั่นคงในช่วงความเร็วสูงอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
ในรถระดับนี้ ผู้ขับขี่สามารถควบคุมตัวรถได้อย่างแม่นยำโดยไม่สูญเสียความสะดวกสบายแม้แต่น้อย โดยสปิน มาพร้อมคอยล์สปริงทั้งสี่ล้อ
สปิน จะออกจำหน่ายในตลาดประเทศไทยคือรุ่น LTZ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ความจุ 1.5 ลิตร เพลาราวลิ้นคู่เหนือฝาสูบ DOHC 16 วาล์วพร้อม
ระบบวาล์วแปรผันคู่ Dual-VVT (Dual Variable Valve Timing) หัวฉีดเชื้อเพลิงมัลติพอยท์ (Multi-Point Fuel Injection) ให้พละกำลังสูงสุดที่ 107 แรงม้า
ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 148 นิวตัน-เมตรที่ 3,800 รอบ/นาที
ถ่ายพละกำลังลงพื้นด้วยระบบขับเคลื่อนล้อหน้า ขณะที่ระบบส่งกำลังมาตรฐานเป็นแบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดพร้อมระบบ Driver Shift Control ให้ผู้ขับขี่เปลี่ยนเกียร์
ได้เองแบบเกียร์ธรรมดา ซึ่งเป็นครั้งแรกในรถระดับนี้ อัตราทดเกียร์และเฟืองท้ายถูกปรับปรุงให้สอดคล้องกับการทำงานของเครื่องยนต์บล็อกนี้เพื่อสมรรถนะและ
ความประหยัดน้ำมันสูงสุด
ทั้งนี้เชฟโรเลต สปิน มาพร้อมกับอุปกรณ์มาตรฐานอย่างระบบปรับอากาศแบบแยกส่วน (หน้า/หลัง) เครื่องเสียงซีดี/เอ็มพี3 ลำโพงสี่ตัว พร้อมระบบเชื่อมต่อยูเอสบีและบลูทูธ
ช่องเสียบต่ออุปกรณ์ไฟฟ้า ระบบความปลอดภัยไฟหน้าส่องสว่าง Follow-Me-Home และระบบกันขโมย สำหรับรูปลักษณ์ภายนอกระหว่างสองรุ่นย่อยจะแตกต่างกันเล็กน้อย
รุ่น LTZ จะมาพร้อมระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS ถุงลมนิรภัยคู่หน้า เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงกลับอัตโนมัติและราวหลังคา
เชฟโรเลต มีความเชื่อมั่นว่าเชฟโรเลต สปิน จะดึงดูดความสนใจของลูกค้าอย่างมาก ทั้งในด้านราคาจำหน่ายและอุปกรณ์มาตรฐานที่ครบครัน โดยสปิน 1.5 ลิตร LTZ จะเปิดตัว
อย่างเป็นทางการพร้อมเปิดให้ลูกค้าจับจองภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ที่กำลังจะถึงนี้