สมัยเด็ก ๆ ผมเคยเข้าใจไปเองว่ารถ Volvo ตระกูล 900 ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 1990 เป็นคู่แข่งของ BMW 7-Series แน่ ๆ เลยด้วยขนาดตัวถังที่ยาวถึง 5 เมตรทีเดียวแต่ก็น่าสงสัยมากว่าทำไมราคาจำหน่าย Volvo ตระกูล 900 มันถึงถูกกว่ามากมายนัก
แต่แล้ววันเวลาก็ทำให้เริ่มเข้าใจว่าอันที่จริง Volvo ตระกูล 900 เกิดขึ้นมาเพื่อทดแทน Volvo ตระกูล 700 ยุคปี 1982-1990 และวางตำแหน่งการตลาดใกล้เคียงกับ BMW 5-Series และ BMW E-Class แต่รถยนต์ของ Volvo ส่วนใหญ่มักจะอยู่ตำแหน่งตลาดที่ต่ำกว่าเล็กน้อยเพราะ Volvo ประกาศชัดเจนแล้วว่ารถเหล่านี้อยู่ในระดับ Near Luxury
จนกระทั่ง Volvo เริ่มเปลี่ยนแปลงการตั้งอนุกรมรุ่นจากตัวเลข 3 หลักให้กลายเป็นระบบตัวอักษรปนกับตัวเลข 2 หลักแทน ดังนั้นระหว่างปี 1997-1998 Volvo จึงจำเป็นต้องเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น S90 หลังจากนั้นตัวตายตัวแทนของรถตระกูลนี้ก็กลายเป็น S80 จนได้ซึ่งก็มีตำแหน่งการตลาดก้ำกึ่ง ๆ อยู่เหมือนเคยแต่มันก็ชัดเจนกว่าตระกูล 900 ในสมัยก่อน
หลังจากนั้นดูท่าที Volvo ไม่เคยคิดจะขยายไลน์รถยนต์ซีดานที่ใหญ่กว่า S80 อีกเลย จนเราไม่แน่ใจว่า Volvo คงเอาดีกับรถยนต์ที่มีอยู่น่าจะดีกว่าหรือเปล่า? จนกระทั่งกิจการ Volvo ก็ตกอยู่ในอุ้งมือ Geely ยักษ์ใหญ่จากประเทศจีนจนได้ แถม Mr. Li Shufu ผู้บริหาร Geely ยังไฟแรงกล้าบอกกับผู้สื่อข่าวอย่างตั้งใจจริงว่าอยากให้ Volvo มีรถยนต์รุ่นใหญ่ท้าชน BMW 7-Series และ Mercedes-Benz S-Class ด้วย
แต่ไม่รู้ว่าทีมบริหารจาก Geely กับทีมบริหารจาก Volvo กำลังเล่นเกมการเมืองกันหรือเปล่า แค่ยกแรกยังไม่ทันที่จะพลิกฟื้นแบรนด์ Volvo ก็ให้คำสัมภาษณ์ไม่ตรงกันเสียแล้วเมื่อ ผู้บริหาร Volvo คนใหม่นามว่า Mr. Stefen Jacoby ยังเร็วไปที่จะบอกได้ว่าพัฒนารถซีดานกลุ่มดังกล่าวหรือไม่ หากจะตัดสินใจพัฒนาก็ต่อเมื่อยอดขาย Volvo ทั่วโลกทะลุ 8 แสนคันไป
ในความคิดเห็นส่วนตัวผมมองว่า Mr.Jacoby อาจจะคิดถูกก็เป็นได้เพราะสถานการณ์ Volvo กำลังพึ่งพายอดขายและต้องการนำเงินดังกล่าวมาช่วยให้แบรนด์กลับมาแข็งแกร่งได้ ขืนมุ่งพัฒนารถขนาดใหญ่ภายใต้งบประมาณการพัฒนาที่ถูกจำกัดเกรงจะเป็นรถก้ำกึ่ง ๆ ไม่ดีเด่นไปกว่าคู่แข่ง เมื่อขายไม่ได้สถานการณ์ก็ยิ่งเลวร้ายลง
แต่เชื่อได้เลยว่าเห็นทีการบริหารงานที่มี Geely กุมบังเหียนอาจจะหาเรื่องปวดหัวให้กับ Volvo ไม่ขาดสายแน่