วินาที ที่ผม หย่อนกาย อันมหึ ลงไปนั่งใน Mercedes-Benz SLS AMG
คันละ 24.99 ล้านบาท สีแดงสุดสวยคันนี้ โดยมี Dr. Alexander Paufler
CEO ของ Mercedes-Benz (Thailand) นั่งอยู่ข้างๆด้วยนั้น
โอย มันช่างวิเศษอะไรเช่นนี้ นี่แหละ ความรู้สึกที่ปลุกผม
ให้ตื่นเต้นขึ้นมา เพื่อให้ได้พบความจริงที่ว่า Now,It’s (Motor) Show time!!
งานแสดง รถยนต์ งานหลัก ประจำปี Bangkok Internatinal Motor Show ประจำปี 2010
เริ่มต้นขึ้นแล้วอีกครั้ง ณ สถานที่จัดงานแห่งเดิม ศูนย์แสดงสินค้าและนิทรรศการ BITEC
สี่แยกบางนา ท่ามกลางบรรยากาศ ปลายเดือนมีนาคม อันร้อนระอุ ทั้งจากสภาพลมฟ้าอากาศ
และสภาพการเมือง
แต่ผมเชื่อว่า งาน Bangkok Motor Show ครั้งนี้ มีสีสัน ให้ชม ไม่แพ้ปีอื่นๆ ที่ผ่านมา
เพราะถือเป็นการเปิดศึก ปะทะกันอย่างชดเจน ระหว่าง ดาวเด่น จาก 2 กลุ่ม นั่นคือ
Super Car ที่มีมาให้ชม 2 คัน ประชันกับ Eco Car ทั้งที่เปิดตัวไปแล้ว และที่ยังไม่เปิดตัว
แต่ส่งเวอร์ชัน Mock up มาเกทับบลัฟกระแส พวกเดียวกันเอง เอาความฮาเป็นหลัก
นี่ยังไม่นับเนื่องไปถึง รถยนต์ B-Segment 1.5 ลิตร ที่ทุกค่าย พร้อมรบกันเต็มอัตราศึก
แล้วเสียที ก็งานครั้งนี้นั่นแหละ เรียกได้ว่า งานนี้ น่าจะสนุกอยู่ละครับ
Headlightmag.com ขอนำท่าน เที่ยวชมบรรยากาศของแต่ละบูธ กันแต่เพียงคร่าวๆ
เพราะอยากให้คุณๆ ปิดคอมพิวเตอร์ เดินออกจากบ้าน ไปขึ้นรถไฟฟ้า BTS
ลงสถานีอ่อนนุช แล้วนั่ง Shuttle Bus ของผู้จัดงาน มาเที่ยวชมงานในครั้งนี้
มากกว่า ที่จะนั่งจับเจ่าอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ กันเหมือนเช่นทุกวันที่ผ่านมา
ที่สำคัญ เราพาคุณเดิมชมบรรยากาศของงาน ก่อนเว็บแห่งใดในเมืองไทย! (อีกแล้ว)
ถ้าพร้อมแล้ว ผมจะพาคุณๆ ไปเดินเล่นกัน นับจากนี้
BMW
เมื่อกองทัพรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่เคยดาหน้ามาอวดโฉม เมื่อปีที่แล้ว ก็กลายเป็นรถยนต์รุ่นที่ทำตลาด
กันทั่วไป ดังนั้น ปีนี้ BMW จึงลงทุนปรับปรุงบูธของตนใหม่อีกครั้ง ให้มีลักษณะเป็นบ้านสไตล์โมเดิร์น
เปิดตัวรถยนต์รุ่นหลักอย่าง BMW X1 สีน้ำตาลช็อกโกแล็ต คันที่เห็นอยู่ข้างล่างนี้
รุ่นที่จะนำมาขายในบ้านเราคือ รุ่น BMW X1 sDrive20d ซึ่ง เครื่องยนต์ที่จะติดตั้งลงใน
X1 คันนี้ ก็คงจะคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว เพราะมันก็คือ ขุมพลัง ดีเซล 4 สูบ DOHC 2.0 ลิตร
คอมมอนเรล พร้อมเทคโนโลยีระบบอัดอากาศแบบเทอร์โบแปรผัน 177 แรงม้า (HP)
และแรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร ที่ 1,750-3,000 รอบ ถ่ายทอดกำลังผ่าน เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ
อัตราเร่งจาก 0 ถึง100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในเวลาเพียง 8.3 วินาที และด้วยเทคโนโลยี BMW
EfficientDynamics ซึ่งรวมถึงระบบเครื่องยนต์แบบ Advanced Diesel,ระบบ Brake Energy
Re-Generation และระบบปั๊มน้ำและปั๊มน้ำมันเครื่องแบบ On-demand ทำให้อัตราการ
ประหยัดน้ำมันเฉลี่ยถึง 16.9 กิโลเมตรต่อลิตร และค่าเฉลี่ยการคายไอเสียคาร์บอนไดอ๊อกไซด์
เพียง 155 กรัม/กิโลเมตร ซึ่งเป็นค่าที่ดี่ที่สุดในบรรดารถยนต์ SUV ที่มีขายในปัจจุบัน
นอกจากนี้ ก็เป็นการเปิดตัว BMW Z4 sDrive23i รถสปอร์ตเปิดประทุน 1 เดียวในไทย
ที่จับเติมน้ำมันแก็สโซฮอล์ E20 ได้ อู้ววว เค้าคิดได้ยังไงเนาะเนี่ย! รวมทั้งยังมี
730 Li CKD E20 ตามด้วย 325i Sport E20 (48 คันเท่านั้น) และ 318i E20
ขณะที่ บูธ MINI ก็ยังคงยืนหยัดอยู่กับ MAYFAIR และ CAMDEN 2 คู่หู รุ่นพิเศษ
จอดอยู่ในบรรยากาศ สไตล์ ฮิพ มีบูธ ให้ ดีเจ เปิดเพลงปลุกเร้าอารมณ์ลูกค้าอีกต่างหาก
CHEVROLET
ปีนี้ ปรับเปลี่ยนบูธใหม่ จนสวยหรู ดูไฮโซกว่าเก่า แต่ รถยนต์รุ่นต่างๆ ก็ยังคงเหมือนเดิม
จะมีที่ใหม่สดจริงๆ ก็แค่ Colorado Minorchange รุ่นปรับโฉม ของกระบะฝาแฝดกับ
Isuzu D-Max ที่แตกต่างกันในเบื้องลึก แต่ผู้คนแทบไม่รู้สึกว่ามันต่างกันเท่าไหร่นัก
มาคราวนี้ ก็เลยจะพยายามทำตัวให้ต่างจากเดิม มากขึ้น จะต่างแค่ไหน ลองเดินเหยียบ
พื้นถนนจำลองของบูธ เข้าไปดูกันเอาเองครับ
CHERY
ค่ายรถจีน จาก ไทยยานยนต์ จับมือกับ C.P. เปิตดัวครบรอบ 1 ปีแล้ว คราวนี้ นำเอารถเล็ก
CHERY A1 เข้ามาขาย ประกบกับเจ้า QQ และ SUV รุ่น Tiggo อันที่จริงงานออกแบบของ
A1 นั้น สำหรับผม ถือว่า ใช้การได้เลยทีเดียว แต่ ผมยังแหยงอยู่ เมื่อครั้งที่ขึ้นไปนั่งบน A3
ในปีที่แล้ว และโดนรถมันขังเอาไว้ในนั้น เปิดประตูไม่ออก….ผมยังกลัวอยู่นะ…
หวังว่าคราวนี้จะไม่เจอเหตุการณ์แบบนั้นอีกละ เชอรี!! ถ้ามีอีกละก็ ฮึ่ม!! น่าดู!!!
FORD
เป็นอีกค่ายหนึ่งที่ตั้งใจแล้ว ว่าจะบกตลาดรถยนต์ระดับ B-Segment พิกัด 1.5 ลิตรในไทย
ด้วยรุ่นเปลี่ยนโฉม Full Model Change ของ Ford Fiesta รถเล็กที่ประสบความสำเร็จสูงสุด
ในยุโรป และกำลังจะผันตัวเองกลายเป็นผู้เล่นในระดับโลก ตามนโยบาย Global Model/Segment
แต่ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากความไม่พร้อมของเกียร์ PowerShift Dual Clutch ที่จะต้อง
ส่งมาจากต่างประเทศ ทำให้ การเปิดตัวจะต้องเลื่อนออกไปไกลถึงราวๆ สิงหาคม
เฮ้อ…..แล้วไหนจะแผนการเปิดตัว ที่น่าเป็นห่วงนั่นอีก กลัวใจฟอร์ดจังเลย ว่ารถดี
แต่เจอแผนการตลาดไม่เข้าท่า จนแป๊กเนี่ย ห่วงชะมัด!
เราจึงได้แต่เห็น Fiesta เวอร์ชันไทย ที่ยังไม่พร้อมจะเปิดให้ใครขึ้นไปนั่งเล่นเลยแม้แต่คนเดียว
มาจอดเคียงคู่กันครบทีม ทั้ง ซีดาน และแฮตช์แบ็ก 5 ประตู ซึ่ง อันที่จริง ก็เห็นมาตั้งแต่
Motor Expo แล้ว ก็ยังมาจอดเรียกกระแสกันต่อเนื่อง เหมือนเดิม ดีแต่คราวนี้มีตัวซีดาน
คันจริง มาจอดรับคำด่า ว่าเปิดตัวช้า จากลูกค้าพร้อมกันด้วยนะ ไม่งั้น สงสัย เจ้า 5 ประตู
คงจะได้แต่ทำหน้าจ๋องๆ อยู่บนเวทีแท่นหมุนนั่นแหละ
รายละเอียดเบื้องต้น สรุปแล้วว่า ในรุ่น Sedan 1.4 ลิตร จะมีทั้งเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ
และอัตโนมัติ 4 จังหวะ แต่ถ้าเป็นรุ่น เครื่องยนต์ 1.6 ลิตร จะเป็นเกียร์อัตโนมัติ Power Shift
6 จังหวะ ทั้งหมด! แน่นอนละ ตัวถัง Hatchback เขาจองไว้แล้ว และคิดว่ายังไง ต้องมีตัวถัง
ซีดาน ด้วยแน่ๆ เพราะถ้าไม่มี อาจโดนลูกค้าด่าได้ ค่าตัวอยู่ในช่วง 5 แสน – เกิน 7 แสนบาท
ไปนิดหน่อย ถ้ารอได้ ก็ลองรอดูครับ
HONDA
ปีนี้ นอกจากจะลงทุนทำบูธซะใหม่สวยสุดอล่างฉ่าง แล้ว ยังทำตัวให้โดยผู้คนเขาแซวกันเล่นๆว่า
ยิงมุข ดักคอ Nissan March บูธข้างๆกัน ด้วยการสั่งนำรถต้นแบบ ว่าที่ ECO Car ของ Honda มาอวดโฉมกัน
ซึ่งรถ Mock up คันนี้ ก็เลยอวดโฉมมาแล้ว ในงาน นิวเดลิ มอเตอร์โชว์ ประเดิมเดือนมกราคมที่ผ่านมา
เส้นสายภายนอก ของคันจริง ไม่แน่ใจว่า จะเล่นกันรุนแรงแบบนี้เลยหรือเปล่า แต่ที่แน่ๆ
เมื่อมองจากด้านหน้าตรงแล้ว ต้องยอมรับเลยว่า ตัวรถ มีความกว้าง น่าจะไล่เลี่ยกับรถยนต์นั่ง
ขนาดมาตรฐาน คือกว้างไม่น่าเกิน 1.7 เมตร แหงๆ
เครื่องยนต์ที่จะใช้ Honda ก็ยังปิดลับเงียบฉี่อยู่ดีแท้ ที่แน่ๆ กำหนดออกขายจริง นับจากวันเปิดงาน
Motor Show ครั้งนี้ ไปอีก 1 ปีเต็มๆ ได้เลย ไม่เกินกำหนดไปจากนี้นักหรอกครับ
ส่วนรุ่นอื่นๆที่เหลือ แน่นอน มากันครบ ตั้งแต่ Jazz (ที่เพิ่งเปลี่ยนหนังโฆษณาใหม่
เล่นสีสัน กับเขาบ้าง เพราะยังไม่ยอม Minorchange กันซะที) รวมทั้ง City Civic FD
ไปจนถึง Accord CR-V Minorchange และเจ้า FREED น้อย Minivan 7 ที่นั่งคันเล็ก
ราคาสูงเอาเรื่อง
HYUNDAI
ผู้สนับสนุนหลัก ฟุตบอลโลกอย่างเป็นทางการ ได้พื้นที่เดิมของปีที่แล้วเปี๊ยบ เช่นเดียวกับ
อีกหลายๆค่าย มาปีนี้ Hyundai เริ่มกลับมามีรถใหม่กับเข้าอีกแล้ว และนั่นก็คือ Tucson
หรือที่ถูกต้องอ่านว่า “ทูซอน” แม้ว่าน้องๆในเว็บเราจะเรียกซะใหม่ว่า “ฮุนได ทักษอร”
ก็ตามที จอดขายเคียงข้างพี่ใหญ่ รถตู้รุ่น H-1 กันอย่างเรียบง่าย ส่วนรถเล็กของค่ายนี้
รอเจอกันอีกที ปลายปีรวดเลยกับ i10 ซึ่งถ้าใครอยากรู้ว่าหน้าตาเป็นอย่างไร ก็ไม่ยาก
แค่เดินข้ามฝั่งไปยังบูธ Kia แล้วส่องหาเจ้า Picanto คันสีส้ม ก็ได้ เพราะมันคือฝาแด
ร่วมโครงสร้างด้วยกัน แต่การตกแต่งต่างๆ เวอร์ชันของฮุนได สวยกว่ากันจมเลย
เสียดายอย่างเดียว ที่พล่ามมาในช่วงหลังๆนั่นหนะ ไม่มีมาให้ดูในงานนี้…
ISUZU
D-Max X-Series กลายเป็นทัพหน้าของบูธไปอย่างช่วยมิได้ เพราะนอกจากจะเป็นรุ่นใหม่ล่าสุด
ที่จะต้องมีภาระกิจ กระตุ้นยอดขาย กับบรรดาลูกค้าที่มีรสนิยมดูดี มีสไตล์มากขึ้นแล้ว ยังต้อง
ช่วยประคับประคองยอดขายไปอย่าง่อเนื่องในฤดูกาลนี้อีกด้วย งานนี้ ลงทุนถึงขั้น จับเอา
รถรุ่น 4 ประตู ไปผ่าหลังคา แล้วแขวนผนังห้อยหัวรถไว้ เหมือน ตุ๊กแกนิโกร ทว่าพอดู
โทนสีของบูธแล้ว ผมละเสียวไส้ชะมัด เพราะดันมาตรงกับบรรยากาศการเมืองช่วงนี้พอดี๊พอดี
KIA
เย้!1 ไชโย ในที่สุด Kia SOULS รถยนต์ Crossover เจาะตลาดวัยรุ่นอเมริกัน
ก็มาถึงเมืองไทยกันซะที ขึ้นไปลองนั่งแล้ว สารภาพเลยว่า ติดใจ และอยากจะ
รีบนำมาทำรีวิวให้คุณๆอ่านกันเร็วจังเลย กระนั้น มีข้อน่าเป็นห่วง แค่เรื่องอัตราเร่ง
และสมรรถนะจริงๆ แต่เอาเถอะ ถ้าคุณยังแฮปปี้กับ เจ้าแห่ง The Art of Goin’ Slow
อย่าง Nissan Cube ได้ ผมว่า Kia Souls ก็ไม่น่าเป็นปัญหาหรอก เพราะค่าตัวพี่ท่าน
ถูกกว่ากันไม่เท่าไหร่ คืออยู่ที่ ราคา 1,298,000 บาท ….เฮือก!
ถ้าแพงไป Picanto Minorchange คันจิ๋ว 4 แสนกว่าบาท หรือ Grand Carnival
ที่จ่ายพอกับ Souls แต่นั่งได้เยอะกว่า ก็รอให้คุณเซนชื่อในใบจองอยู่…นะ
Mazda
ถือได้ว่า เป็นปีที่ Mazda เลิกนำรถยนต์ต้นแบบ มาอวดโฉมแล้ว เพราะไหนๆ ก็เพิ่งเปิดตัว
Mazda 2 Sedan กันแล้ว ก็ต้องเอามาออกบูธเปิดรับจอง กอบโกยยอดขาย กันให้กระหน่ำ
สมกับเป็นซัมเมอร์มอเตอร์เซลสักหน่อย จะว่าไปแล้ว นี่ถือเป็นครั้งแรกในรอบตั้งแต่
บริษัทแม่ มาตั้งสาขาเอง ที่มาสด้าในบ้านเรา มีรุ่นรถหลักๆให้เลือกมากมาย ครบครัน
ตั้งแต่ Mazda 2 Sedan & Hatchback Mazda 3 Sedan & Hatchback Mazda MX-5
Mazda กระบะ BT-50 และ Mazda CX-9 มากันครบทั้ง 7 รุ่น อัดแคมเปญกระหน่ำ
คู่แข่ง กันเต็มพิกัด
Mercedes-Benz
ดาวเด่น ของบูธในปีนี้ ก็กลายเป็น ดาวเด่นของงาน ไปพร้อมกันด้วย นานแล้ว
ที่ผมรู้สึกว่า บูธ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ขาดรถสปอร์ตระดับสุดยอด มาประดับเวทีบูธ
และปีนี้ อ.อเล็กซ์ เพาฟ์เลอร์ คุณลุง CEO ผู้น่ารักและแอบเฮี๊ยบ ก็ไม่ทำให้ผมผิดหวัง
กับการปรากฎตัวครั้งแรกในไทย ของ Mercedes-Benz SLS AMG
รถคันนี้ เต็มไปด้วยความไม่ธรรมดา มากมาย ตั้งแต่ แนวทางการออกแบบ ที่ย้อนยุค
จนชวนให้นึกถึง Mercedes-Benz 300SL Gullwing รถสอร์ตประตูปีกนก
รุ่นดังแห่งยุค 1950 แต่จับมาขัดเกลาด้วยเส้นสายสมัยใหม่ จนดูเป็นรถในสไตล์
Modern มากยิ่งขึ้น
เครื่องยนต์ เป็นบล็อก V8 DOHC 6.2 ลิตร 560 แรงม้า (HP) ที่ 6,800 รอบต่อนาที
แรงบิดสูงสุดถึง 650 นิวตันเมตร ที่ 4,750 รอบ/นาที จับคู่เกียร์ 7 สปีดคลัตช์คู่
และแน่นอนว่า เหมือนเครื่องยนต์ทุกเครื่องที่ AMG ผลิตด้วยมือออกมา คือต้องมี
ลายเซ็นของคนผลิตเครื่องยนต์ ประทับกำกับไว้ทุกเครื่อง!
การได้ลงไปนั่งในรถคันนี้ ทำให้ผมพบว่า การลุกเข้าออก แม้จะเบียดเสียด
แต่ก็ทำได้ง่ายดายกว่า SLR เยอะ รายนั้น ธรณีประตู อยู่ซะสูงเชียว
รุ่นนี้ ผู้บริหารชาวเยอรมันที่ดูแลการผลิตของ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ไทยแลนด์
บอกกับผมว่า มีคนเคยขับรถรุ่นนี้ และเปรียบเทียบกับ SLR มาแล้ว
เล่าให้ฟังว่า บุคลิกของรถ สปอร์ต และขับสนุกกว่า SLR เสียอีก!
ดังนั้น รถคันนี้แหละ ที่เหมาะสมอย่างยิ่ง กับการจะเรียกได้ว่า
เป็น Star of the Show ประจำปีนี้ กันเลยทีเดียว…
MITSUBISHI MOTORS
เดินเข้าไป ก็เจอ พี่เบิร์ท วิกรานต์ อมาตยกุล กำลังซักซ้อม Speech ในวันพรุ่งนี้
แล้วเราก็ได้เห็นเลยว่า ปีนี้ Mitsubishi ไม่สั่งรถต้นแบบใดๆมาโชว์ ให้เปลืองงบกันเลย
คราวนี้ เน้นแต่ขาย Lancer EX รุ่นพิเศษ สีแดงช้ำเลือดช้ำหนอง RalliArt รุ่นพิเศษ
และ Smart Edition 1.8 GLS Limited ทั้งคู่ ติดตั้ง ระบบนำทาง Navigation System
มาให้ รวมแล้ว 200 คัน ในราคาที่จ่ายแพงเพิ่มขึ้นอีกนิด ก็น่าจะคุ้มอยู่ (มั้ง)
(ปล. มีคนฝากถามมา เมื่อไหร่ กระจกมองข้างของพี่ จะพับเก็บด้วยไฟฟ้าสักทีละคร้าบ คริคริ)
NISSAN
เป็นเรื่องน่าแปลกที่ รถยนต์ Hatchback ขนาดเล็ก จะกลายเป็นดาวเด่นของงาน
Motor Show ประกบคู่กับ รถสปอร์ต สุดแรงและสุดล้ำทั้งหลาย แต่ มันก็เกิดขึ้นแล้ว
เพราะที่นี่ เมืองไทย ประเทศที่ผู้คนยังพากันฝันใฝ่ไขว่คว้า ค้นหา รถเล็กราคาประหยัด
แต่สมรรถนะต้องดี กินน้ำมันน้อยๆ ประหยัดๆ ถูกๆ แต่วัสดุต้องดีเริ่ดสะแมนแตน
นั่นละคือเหตุผลที่ทำให้ Nissan March รถเล็กคันแรก ที่ผ่านข้อกำหนดของรัฐบาล
ในโครงการ ECO-CAR จึงกลายเป็นอีกหนึ่งจุดขายหลักของงาน Motor Show ในปีนี้
ไปได้โดยไม่ยากเย็นนัก เล่นเอา บรรดา บูธ รถหรูไฮโซทั้งหลาย แอบค่อนกันขำขำ
งานนี้ คุณจะเห็น March ใหม่ ครบทุกรุ่นกันจนเบื่อ แต่อย่าหวังว่าจะเห็น
พี่เคน ธีระเดช พรีเซ็นเตอร์ มายืนอยู่ข้างรถ ตัวเป็นๆ เพราะพี่เค้าจะมาเฉพะ
รอบสื่อมวลชนวันที่ 25 มีนาคมเท่านั้น ที่เหลือ ไม่มาหรอก ขนาดวันเปิดตัว
ทั้งที่โรงงาน กม.21 และ ที่เซ็นทรัล เวิล์ด ฯพณฯ ท่าน ก็ยังไม่โผล่!!!!
แต่ถึงจะไร้เงาพรีเซ็นเตอร์ ทว่าฝูง March Ranger (เจ้ากล้วย BnN เรียกเอาไว้
เพราะงานนี้เขามากันครบทุกสีเลยทีเดียว) ก็ยังเต็มไปด้วยผู้คนห้อมล้อมมากมาย
พร้อมกำลังใจจากพี่ๆทั้งหลาย ได้แก่ TIIDA Teana และ Navara ห้อมล้อม
คอยเคียงข้าง น้อง March กันเต็มที่ ค่าตัว 375,000 – 537,000 บาท จะถูกหรือแพง
ก็แล้วแต่ใครจะคิด แต่ลองเดินไปดูรถสักนิด ก่อนจะตัดสินใจ Buy or Bye ก็ดีเน่อ
PEUGEOT
ไม่มีอะไรสดใหม่ไปกว่า รถ LCV ใส่ที่นั่ง ชื่อประหลาด “Bipper” กันอีกแล้ว
เปิตตัวด้วยราคาเกือบจะแตะล้านบาท อยู่รอมร่อ แต่ก็พอหาจุดเด่นได้บ้าง
ลองเดินเข้าไปชมกันดู เพราะถ้าคุณไม่ชอบ อย่างน้อย 308CC 308 Turbo
และ 407 ที่จอดอยู่ข้างๆ ก็น่าจะพอให้คุณยิ้มออก ถึงมาตรฐานของ
เปอโยต์ ยุคใหม่ ได้บ้างละน่า
PROTON
หลังจากเปิดตัว Minivan รุ่น EXORA ช่วงปลายปีที่แล้ว และใช้ไหวพริบ
ในการตั้งราคา เสียจน Honda FREED ถึงกับเป๋จนไปไม่เป็น เสียลูกค้า
ให้ตนไปพักใหญ่ มาคราวนี้ ในบูธ Proton ก็ยังเห็นรถรุ่นเดิมๆ หน้าตา
เหมือนเดิม มาให้ชม กันเช่นเดิม ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมแต่อย่างใด
SSANGYONG
บูธนี้ ไม่มีอะไรมาก รถรุ่นเดิม ที่ยังมีอยู่ ก็ยังเอามาจัดแสดงขายได้เรื่อยๆ
แต่ไม่หวือหวานัก ทั้ง Stavic Actyon Kyron ก็ว่ากันไป ในเมืองนอก
สถานการณ์จะล้มละลาย จะประท้วง กันอย่างไร หรือสงบไปแล้วยังไงก็ตาม
แต่ ผู้จำหน่ายในเมืองไทย เขายังคงมาออกบูธ เพื่อให้รู้ว่า แบรนด์ ส แสงยนต์..
เอ้ย ซางยอง เขายังมีขายอยู่ในเมืองไทยนะ
SUBARU
ตอนแรก ก็นึกว่า Legacy OUTBACK ใหม่ และ Legacy B4 2.5 ลิตร จะมาเปิดตัวได้ทัน
ที่ไหนได้ เอาเข้าจริง ติดปัญหาการขนส่งนิดๆหน่อย ก็เลยต้องรอเลื่อนไปเปิดขายกัน
หลังงาน มอเตอร์โชว์ เสียแล้ว บนพื้นที่ของบูธ จึงมี Impreza WRX STi และตระกูล
Impreza รุ่นที่ผมเรียกมันว่า “อิมฯแม่บ้าน” กับ Legacy ใหม่ล่าสุด 2.0 iCVT รุ่น”ป้าอ้วน”
และ Forester 2.5 ลิตร มาอวดโฉมกันจนแน่นพื้นที่บูธ ตามเคย
SUZUKI
บูธของ Suzuki ปีนี้ มีสีสันส่งตรงมาจากญี่ปุ่น อยู่ถึง 2 คัน
เพียงแต่ แบ่งแยกออกจากกันอย่างชัดเจน คันแรก เป็นไปตามคาดคิด
นั่นคือ Suzuki KISASHI ซีดานขนาดกลาง ที่ Suzuki ตั้งใจจะ บุกตลาด
สหรัฐอเมริกาเหนือ ประกบกับ Toyota Camry Honda Accord
Nissan Altima ไปจนถึง Mazda 6 อีกต่างหาก คันที่นำมาโชว์
เป็นพวงมาลัยซ้าย เวอร์ชันส่งออกจากโรงงาน Sagara Plant
(ที่เราเพิ่งไปเยี่ยมชมกันมาเมื่อตุลาคมที่แล้ว) ไปยังสหรัฐอเมริกา
วางเครื่องยนต์ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 2,400 ซีซี หารายละเอียด
อ่านเอาได้ใน ส่วนของ New Car Worldwide ใน Headlightmag.com ครับ
Kisahi คันนี้ จะแตกต่างจาก Kisashi คันอื่นๆ ที่ออกขายไปแล้วทั้งในญี่ปุ่น
และสหรัฐอเมริกา ตรงที่ ขนาดของล้ออัลลอย ในคันที่จัดแสดง และสีตัวถัง
แบบใหม่ ที่ยังไม่เคยพ่นขายจำหน่ายจริงกันมาก่อน แค่นั้นเลย!
แต่พื้นที่บูธ Suzuki ไม่ได้มีอยู่แค่ใน ฮอลล์จัดแสดง เท่านั้น ยังแอบมาเช่าพื้นที่เล็กๆ
อยู่ข้างนอกด้วย นอกจากจะเอา Swift มาจอดอวดโฉมแล้ว ยังมี รถกระบะต้นแบบ X-Head
แอบจอดโชว์ตัวเงียบๆอยู่อีกต่างหาก!
Suzuki X-Head เผยโฉมกันมาตั้งแต่ Tokyo Motor Show ตุลาคม 2007 เป็นรถกระบะต้นแบบ
ที่ผสานความทรหดในสไตล์ลูกผู้ชาย จาก SUV รุ่นดังของซูซูกิ ทั้ง Jimny (Caribean ในบ้านเรา)
ไปจนถึง Escudo หรือ Grand Vitara เข้ากับรูปลักษณ์ที่เอื้อต่อการใช้งานอรรถประโยชน์มากมาย
อย่าง Suzuki Carry (-_-‘) จุดเด่นอยู่ที่ ฝากระบะด้านข้างสามารถเปิดเลื่อนลงมาเพื่อเป็นช่อง
เก็บสัมภาระจิปาถะที่ไม่อยากให้ใครรู้ ได้อีกมากมาย อเนกประสงค์สุดๆ แต่เสียดายว่า มันไม่มี
เครื่องยนต์อยู่ข้างใน และเป็นแค่ หุ่น Mock-up
TOYOTA / LEXUS
บูธโตโยต้า ยังคงวางรูปแบบ เหมือนเดิม เพียงแต่ ปรับเปลี่ยนการตกแต่งให้ดูเป็นแบบรังผึ้งมากขึ้น
และมีพื้นที่จัดแสดงที่ใกล้ชิดคนดูมากขึ้นกว่า งานในครั้งก่อนๆ นิดหน่อย ดาวเด่นของบูธ ในปีนี้
กลับกลายเป็นรถยนต์ต้นแบบ ที่เผยโฉมมาแล้วตั้งแต่ Tokyo Motor Show ตุลาคม 2007
นั่นคือ Toyota RiN
รถต้นแบบ Toyota RiN ได้รับการออกแบบขึ้่น ภายใต้แนวคิด “harmony with nature” และ “healthy mind and body”.
ด้วยแรงบันดาลใจจาก ต้นไม้ญี่ปุ่นที่ชื่อว่า Yakusugi ถือเป็นรถยนต์ เพื่อการใช้ชีวิต อย่างรื่นรมณ์ ถูกสุขลักษณะ
ถูกสรีรศาสตร์ ด้วยการเน้นความสบายในการโดยสาร และเดินทาง ในแทบทุกส่วนของรถ เพื่อสุขภาพที่ดี ทั้งร่างกาย
และจิตใจ อีกทั้งยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง
ขนาดตัวถังยาว 3,250 มิลลิเมตร กว้าง 1,690 มิลลิเมตร สูง 1,650 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2,350 มิลลิเมตร
ห้องโดยสารตกแต่งด้วยสีเขียวเข้ม ตัดกับสีเบจ เบาะนั่งออกแบบมาให้รองรับกับสรีระได้อย่างดี
โดยเฉพาะคนที่มีอาการปวดหลัง ขณะที่จอแสดงข้อมูลของตัวรถ ช่วยสร้างอารมณ์และความรู้สึกที่ดี
ระบบปรับอากาศ ที่สามารถปรับระดับปริมาณอ็อกซิเจน ได้ ใช้กระจกสีเขียวเพื่อลดปริมาณรังสี
อัลตราไวโอเล็ต จากแสงแดด และเพิ่มความโปร่งโล่งสบายในห้องโดยสาร ประตูรถเป็นแบบบานเลื่อน
และมีแนวเส้นขอบกระจกด้านล่าง (Belt line) ที่ต่ำลง เพื่อให้สามารถมองเห็นทิวทัศน์สองข้างทางได้ดีขึ้น
จนถึงระดับพื้นดิน มีระบบไฟหน้า และไฟเลี้ยว ที่ทำงานแจ้งเตือนได้เมื่อมีรถฝั่งตรงข้ามแล่นสวนมา
และ ที่สำคัญ RiN ใช้ระบบขับเคลื่อน ด้วย Fuel Cell เติมเชื้อเพลิง ด้วย Hydrogen แต่ ไม่มีรายละเอียด
ทางเทคนิคมาให้
ส่วนรถยนต์รุ่นอื่นๆ ในบูธ ก็จะมีรุ่นพิเศษ ของ Fortuner ในชื่อว่า Aperto II รวมทั้ง Vios Minorchange Camry HYBRID
Corolla ALTIS ,ากันครบไลน์ ไม่ยกเว้นแม้กระทั่ง Corolla CNG ไปจนถึงรถกระบะขายดี อย่าง Hilux VIGO
แต่ไฮไลต์ ที่น่าตื่นตาตื่นใจยิ่งกว่าอย่างแท้จริง อยู่ที่ การยก รถที่เพิ่งเปิดตัวไปหมาดๆ ใน Tokyo Motor Show
เมื่อตุลาคม 2009 มาให้ชมกันเป็นขวัญตา ทั้ง เวอร์ชัน จำหน่ายจริงแล้วเสร็จของ Lexus LF-A รถ Super Car
คันแรกของค่าย Toyota / Lexus ที่อัดแน่นด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ มากมาย โดยเฉพาะเครื่องยนต์ V10 560 แรงม้า (PS)
ที่ถือว่า แรงที่สุด ในบรรดารถญี่ปุ่น ขณะนี้ แถมงานนี้ จอดหันหน้า ท้าชนกับ Mercedes-Benz SLS AMG ด้วยอีกแหนะ!
รวมทั้ง Lexus LF-Ch เวอร์ชันต้นแบบ ของ Lexus Premium Compact Hatchback รุ่นใหม่
ซึ่งเวอร์ชันเตรียมจำหน่ายจริง เผยโฉมไปแล้ว ใน Geneva Motor Show ต้นเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา
ยังไม่นับกับ Lexus IS250 Coupe Cabriolet ที่เปิดตัว และออกสู่ตลาดเมืองไทยไปเรียบร้อยแล้ว
อย่างเป็นทางการ คันละ 5 ล้านกว่าบาท โดยประมาณ
Volvo
พื้นที่ ของบูธ Volvo ย้ายไปอยู่ในซอกหลืบอันแสนไกล เหตุผลก็เพราะ ปีที่แล้ว Volvo
ไม่มีงบพอจะเข้าร่วมมอเตอร์โชว์ ปีที่แล้ว เลยทำให้ปีนี้ สิทธิ์ในการเลือกพื้นที่บูธก่อน
ก็เลยต้องเสียไป ให้กับทั้ง Nissan และ Proton ด้วยประการฉะนี้
แต่ Volvo ก็มีสปิริต ที่ดี ในการนำรถยนต์รุ่นใหม่ ที่เพิ่งเปิดตัวไปเรียบร้อยแล้ว
เมื่อ วันทื่ 16 มีนาคม ที่ผ่านมา มาจัดแสดง และเปิดรับจอง เป็นเจ้าของกันได้
ทั้ง S80 Superior อัดแน่นด้วย ออพชันไฮเทคทั้งหลายแหล่ แต่ด้วยการใช้
สิทธิประโยชน์ AFTA ทำให้ค่าตัว ถูกลงมาเหลือแค่ 2,790,000 บาท เท่านั้น!
ทั้งที่เป็นเครื่องยนต์ เบนซิน 2.5 ลิตร FT และ เติมเชื้อเพลิงได้จนถึง
แก็สโซฮอลล์ E85 ค่าตัว ท้าชน BMW 320d SE กันเลยทีเดียว งานนี้เน้น
เจาะลูกค้ากลุ่มที่อยากได้ความคุ้มกันสุดๆ
อีกคันหนึ่ง จอดอยู่ด้านหลัง คือ Volvo C30 Facelift ที่น้องๆ The Coup Channel
ของเรา มองว่า ห้าตาเหมือนรถถัง แต่ส่วนตัวผม กลับมองว่ามันสวยกว่าเดิม
เครื่องยนต์ ที่ใช้ ไม่ซับซ้อนเลย ยกเอาเครื่องยนต์ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 2.0 ลิตร
จากทั้งใน S40 และ V50 ประกอบมาเลเซีย และเป็นเครื่องยนต์เดียวกับทั้งใน
Mazda 3 2.0 และ Ford Focus 2.0 มาวางโป๊ะเข้าไป เชื่อมด้วยเกียร์อัตโนมัติ
6 จังหวะ Power Shift ร่วมกับ Ford Focus TDCi กันเลย นั่นเอง
สมรรถนะ เป็นอย่างไร หาอ่านได้ในรีวิวของ Volvo S40 ใน Headlightmag.com
เพราะว่า ไม่น่าจะแตกต่างกันมากนัก แต่ที่ต่างไปคือ ค่าตัวเริ่มจากรุ่นพื้นฐาน
แค่เพียง 1,990,000 บาท และมีให้เลือก 4 รุ่น และระดับการตกแต่ง ตัวท็อป
R Design II จบที่ 2,539,000 บาท (เสียดาย ไม่มีรุ่น 2.4 ลิตรมาให้เลือกอีกแล้ว)
งานนี้ ถือได้ว่า เปิดตัวฉับไว เกาะติดตลาดโลก สมอย่างที่ผมอยากให้เป็นจริงๆ!
Volkswagen
ประชายนต์ สำหรับคนไฮโซยุคใหม่ คราวนี้ มี GOLF GTi เป็นตัวหลัก
ที่สร้างเสียงโจษขานในหมู่ผู้รักรถไปทั่ว ว่าแรง และขับสนุก ส่วน
Sciroco คราวนี้มากับสีเขียว อันเป็น สีหลักในการเปิดตัว ณ ตลาดโลกซะที
(สีสุดสวยเจ็บเลยครับพี่) นอกนั้ Tiguan และ Passat CC รวมทั้ง เต่าใหม่ตัวน้อย
ที่ตกแต่งพิเศษ จากศิลปิน คนหนึ่ง ก็มาจอดอยู่หน้าบูธอย่างที่เห็น เรียบร้อย
——————————————-
เป็นอันว่า พาเดินกันคร่าวๆแต่เพียงเท่านี้ เพราะถ้าขืนให้พาทัวร์กันเต็มที่
มีหวังต้องใช้เวลากันเป็นวันๆ ในการจาระไน รถแต่ละคันที่จอดอยู่
ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องเท่าไหร่ รถแต่ละคัน แต่ละรุ่น เป็นหน้าที่ของคุณๆ ที่จะ
ค้นหา ลองขับ และจับต้อง เพื่อให้ได้รถคันที่ถูกใจ ถูกเงิน และถูกรสนิยม
ถ้าจะดูรถคันจริงเหล่านี้ ให้เต็มอิ่มเสร็จสม ก็ต้องพาสารร่างของคุณๆ
แหวกว่ายการจราจร ไปยัง ศูนย์นิทรรศการ BITEC สี่แยกบางนา
ระหว่างวันศุกร์ที่ 26 มีนาคม – 6 เมษายน นี้ เท่านั้น
จริงไหมครับ อ.อเล็กซ์ (^_^)
————————————–///—————————————
ปล. ขอขอบคุณ Dr.Alexander Paufler
President & CEO ของ Mercedes-Benz Thaiiland มา ณ โอกาสนี้ด้วยครับ
สำหรับคำเชื้อเชิญ เพื่อร่วมถ่ายภาพพิเศษ ชุดนี้ ให้เป็นพิเศษ กับ Headlightmag.com ของเรา
และขอขอบคุณ ช่างภาพ (พี่ตั้ม) ไว้ด้วยเช่นกันครับ ที่บันทึกภาพชุดนี้ให้กับผม ขอบคุณมากครับ
J!MMY
สงวนลิขสิทธิ์
เผยแพร่ครั้งแรก ใน www.headlightmag.com
24 มีนาคม 2010
20.40 น.