ค่ายใบพัดสีฟ้า จากเมืองมิวนิค สหพันธรัฐเยอรมัน เตรียมรถยนต์รุ่นใหม่เข้าร่วม Motor Show อย่างคึกคัก ไม่แพ้
คู่แข่ง แม้ว่าจะไม่ถึงกับโดดเด่นเท่าปีก่อน แต่น่าจะเรียกเสียงฮือฮาจากลูกค้าที่อยากได้ SUV ไม่น้อย เพราะทั้ง X3
เจเนอเรชันที่ 2 และ X1 sDrive18i ใหม่ ก็พร้อมจะเปิดตัวในเมืองไทยกันอย่างเป็นทางการแล้ว พร้อมกับการเริ่ม
ทำตลาดจริงของ 640i Convertible
BMW X3 xDrive20d.
BMW X3 ใหม่ได้รับการขยายมิติในทุกด้าน เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายและพื้นที่ใช้สอย ตอบโจทย์ความต้องการของ
ลูกค้าครอบครัวยุคใหม่ที่ชื่นชอบสไตล์รถอเนกประสงค์ BMW X3 ใหม่มีความยาว 4,648 มิลลิเมตร (+83 มิลลิเมตร
จากรุ่นก่อนหน้า), ความกว้าง 1,881 มิลลิเมตร (+28 มิลลิเมตร จากรุ่นก่อนหน้า), ความสูงไม่รวมเสาอากาศอยู่ที่ 1,661
มิลลิเมตร (+1 มิลลิเมตร จากรุ่นก่อนหน้า) และฐานล้อยาว 2,810 มิลลิเมตร (+15 มิลลิเมตร จากรุ่นก่อนหน้า) ในขณะ
เดียวกัน พื้นที่ใช้สอยในห้องโดยสารก็ได้รับการขยายขนาดทั้งพื้นที่ส่วนศีรษะ, ส่วนหัวไหล่, ส่วนหัวเข่า และพื้นที่
วางขา อีกทั้งปริมาตรห้องเก็บสัมภาระท้ายรถก็เพิ่มขึ้นเป็น 550 ลิตร (+70 ลิตร จากรุ่นก่อนหน้า)
ระบบแชสซีและระบบช่วงล่างของ BMW X3 xDrive20d ได้รับการพัฒนาขึ้นมาใหม่ โดยเน้นความนุ่มนวล แต่ยังคงไว้
ซึ่งความปราดเปรียว อีกทั้งยังสามารถเติมเต็มอารมณ์การขับขี่แบบสปอร์ตได้ครบครัน นอกจากคุณสมบัติพื้นฐานตาม
ตำรับ BMW เช่น การกระจายน้ำหนักอย่างสมดุลหน้า-หลัง 50:50 แล้ว BMW X3 xDrive20d ยังมาพร้อมกับระบบ
ขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะ xDrive ที่สามารถแปรผันกำลังขับเคลื่อนไปสู่ล้อทั้งสี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยเพิ่มศักยภาพ
การเกาะถนนในทุกสถานการณ์การขับขี่ อีกทั้งยังปราดเปรียวในทุกโค้ง ขับขี่เกาะถนนอย่างมั่นใจ
BMW X3 xDrive20d ยังมีระบบช่วงล่างอันทันสมัย ที่ใช้ระบบปีกนกแบบ Double-joint สำหรับด้านหน้า และระบบ
มัลติลิงค์สำหรับด้านหลัง และเพื่อเพิ่มความนุ่มนวลสะดวกสบายแต่ยังคงรักษาความปราดเปรียวคล่องตัวในการขับขี่
BMW X3 ใหม่มาพร้อมกับอ๊อปชั่นระบบช่วงล่าง EDC Electronic Damper Control และระบบ Performance Control
สำหรับเพลาขับด้านหลัง โดยระบบนี้ทำงานควบคู่กับระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะ xDrive โดยใช้คอนเซ็ปต์ทอร์ค
เว็คเตอร์ริ่ง ที่ช่วยแปรผันการถ่ายทอดกำลังไปสู่ล้อขับเคลื่อนที่มีแทร็คชั่นดีกว่า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเกาะถนน
ให้ดียิ่งขึ้น นอกจากนั้น BMW X3 ใหม่ ยังมาพร้อมกับระบบพวงมาลัยแบบ EPS Electric Power Steering ที่สามารถ
บังคับควบคุมทิศทางได้อย่างเฉียบคม
BMW X3 xDrive20d: เครื่องยนต์ Advanced Diesel แบบ 4 สูบ ความจุ 2.0 ลิตร พร้อมเทคโนโลยี Turbo แปรผัน
184 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 380 นิวตัน-เมตร ที่ 1,750-2,750 รอบ ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 8HP 8 จังหวะ
อัตราเร่งจาก 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมงได้ในเวลาเพียง 8.5 วินาที อัตราการประหยัดน้ำมันเฉลี่ย 17.9 กิโลเมตร /ลิตร
และอัตราการคายไอเสียคาร์บอนไดอ๊อกไซด์เฉลี่ย 147 กรัม /กิโลเมตร (ตามมาตรฐานการวัดค่าเฉลี่ย EU)
BMW 640i Convertible
เป็นรถสปอร์ตเปิดประทุน 2 ประตู 2+2 ที่นั่ง ที่เน้นความหรูหรา สง่างาม และความสปอร์ตปราดเปรียว บนรูปทรง
ตัวถังแนวสปอร์ตที่แบนกว้าง ฝาประโปรงหน้ายาว ฐานล้อยาว และขอบกระจกด้านข้างไล่แนวรับกับฝากระโปรงหลัง
อย่างกลมกลืน หลังผ้าใบออกแบบให้มีรูปทรงโค้งสวยงาม และผลิตจากวัสดุที่มีคุณสมบัติเป็นฉนวนกันเสียงและกัน
ความร้อนเมื่อยามปิดหลังคา จึงให้ความรู้สึกสง่างามในสไตล์รถสปอร์ตคูเป้ โดดเด่นด้วยกระจกหลังแนวตั้งพร้อมกับ ‘
ครีบ’ สองด้าน หลังคาผ้าใบเปิด-ปิดด้วยระบบกลไกไฟฟ้า โดยใช้เวลาเพียง 19 วินาทีในการเปิด และ 24 วินาทีในการ
ปิด โดยสามารถทำงานขณะรถวิ่งได้ถึงความเร็ว 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ภายในเพียบพร้อมไปด้วยความหรูหราและสะดวกสบาย เสริมด้วยอุปกรณ์ไฮเทคที่ถูกจัดอย่างได้อย่างลงตัวมีรสนิยม
ที่นั่งทั้งสี่ถูกออกแบบอย่างถูกต้องตามหลักสรีระศาสตร์เพื่อความสบายและผ่อนคลายทั้งการขับในเมืองและทางไกล
ในขณะเดียวกันก็ตกแต่งด้วยวัสดุคุณภาพเยี่ยม เปี่ยมด้วยความปราณีต และใช้โทนสีที่สะท้อนถึงความหรูหราได้เป็นอย่างดี
BMW ซีรี่ส์ 6 Convertible ถูกออกแบบภายใต้หลักการ Lightweight Engineering ของเทคโนโลยี EfficientDynamics
ซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มสมรรถนะแล้ว ยังประหยัดน้ำมันเพิ่มขึ้น และคายไอเสียน้อยลงด้วย วิศวกรยังได้ออกแบบ
โครงสร้างตัวถังแบบ Load Bearing Structure ซึ่งช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับโครงสร้างของรถเปิดประทุนได้อย่าง
ดีเยี่ยม ทำให้มีความแข็งแกร่งของตัวถัง หรือ Torsion Rigidity เพิ่มขึ้นราว 50% จากรุ่นก่อนหน้า
เครื่องยนต์เป็นแบบ เบนซิน BMW TwinPower Turbo บล็อก 6 สูบแถวเรียง DOHC 24 วาล์ว 3.0 ลิตร 320 แรงม้า แรงบิด
สูงสุด 450 นิวตัน-เมตรที่ 1,300-4,500 รอบ ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 8HP 8 สปีด อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร / ชั่วโมง
ได้ภายใน 5.7 วินาที มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย 12.7 กิโลเมตร / ลิตร และอัตราการคายไอเสียคาร์บอนไดอ๊อกไซด์เฉลี่ย
185 กรัม / กิโลเมตร (ตามมาตรฐานการวัดค่าเฉลี่ย EU)
BMW 640i Convertible ใหม่มีราคาเริ่มต้น 9,499,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและโปรแกรม BSI BMW Services Inclusive
5 ปี / 100,000 กิโลเมตร) โดยมีอุปกรณ์มาตรฐานดังต่อไปนี้: ระบบ Comfort Access, ระบบ PDC Parking Distance Control,
ระบบ Bluetooth สำหรับเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือ, ระบบเครื่องเสียงไฮไฟ, เบาะหนังแท้ และล้ออัลลอยด์ขนาด 17 นิ้ว ซึ่งลูกค้า
สามารถเลือกซื้ออ๊อปชั่นเพิ่มเติมได้อีก 2 แพ็คเกจ คือ Innovations Package และ Comfort Package
– Comfort Package ราคา +650,000 บาท: Comfort Package รวมอ๊อปชั่นดังต่อไปนี้ – ระบบ Integral Active steering, ระบบ
Comfort seats สำหรับเบาะนั่งด้านหน้า, ระบบไฟ Ambient light ในห้องโดยสาร และระบบเครื่องเสียง Hi-fi Professional
– Innovations Package ราคา +850,000 บาท: Innovations Package รวม อ๊อปชั่นดังต่อไปนี้ – ระบบ Adaptive headlights,
ระบบไฟตัดหมอก LED, ระบบนำทาง BMW Navigation System Professional, ระบบ TV function, ระบบ Head up display
และระบบเชื่อมต่อ USB สำหรับสมาร์ทโฟน
ส่วน BMW X1 sDrive18i ก็จะเป็นไปตามที่มีการเปิดตัวก่อนหน้านี้ ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว
2.0 ลิตร พร้อมด้วยระบบวาล์วแปรผันอัจฉริยะ VALVETRONIC 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 200 นิวตันเมตร ที่
3,600 รอบ/นาที ส่งกำลังสู่ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง ผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ อัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง
ในเวลา 10.4 วินาที อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย 11.9 กิโลเมตร / ลิตร และ อัตราการคายไอเสียคาร์บอนไดอ๊อกไซด์
เฉลี่ย 195 กรัมต่อกิโลเมตร (ตามมาตรฐานการวัดค่าเฉลี่ย EU) อีกทั้งยังใช้เติมน้ำมันก๊าซโซฮอล์ E20 ได้ด้วย
ติดป้ายราคา 2,149,000 บาท
ขณะเดียวกัน MINI เองก็มีของเล่นใหม่มาให้ใช้งานกัน ครั้งแรกในเมืองไทย นั่นคือระบบ MINI Connect
ทำงานควบคู่ไปกับ Smart Phone (เช่น iPhone 4) ผ่านแอพพลิเคชั่น MINI Connected (ซึ่งสามารถโหลดได้
จาก iTunes)
ในขณะนี้ แอพพลิเคชั่น MINI Connected มีโปรแกรม Facebook, Twitter, Web news, Web radio และ
MINIMALISM Analyzer โดยผู้ที่ชื่นชอบเครือข่ายสังคมออนไลน์ หรือ Social Network อย่าง Facebook
และ Twitter สามารถเชื่อมต่อเข้ากับเว็บดังกล่าว และสามารถโพสข้อความและอ่านข้อความผ่านจอแสดงผล
บนแดชบอร์ด หรือจะใช้ฟังก์ชั่น Voice Output เพื่อให้ระบบ AI Artificial Intelligence อ่านออกเสียงให้ฟัง
ก็ได้ ในทำนองเดียวกัน ผู้ใช้ก็สามารถเลือกใช้โปรแกรม Web news เพื่ออัพเดทข่าวสาร ซึ่งสามารถใช้ฟังก์ชั่น
Voice Output อ่านออกเสียงให้ฟังได้ โดยที่ไม่ต้องอ่านข้อความบนจอมอนิเตอร์
Web radio ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเลือกฟังเพลงหรือข่าวจากสถานีวิทยุจากทั่วโลก หรือสามารถเลือกโปรแกรม
RSS newsfeed เพื่ออัพเดทข้อมูลจากเว็บที่ชื่นชอบได้ และในด้านระบบความบันเทิง MINI Connected ยัง
สามารถเชื่อมต่อกับ iPhone หรือ iPod Touch (iOS 4) ผ่าน MINI Connected PlugIn ที่จะดึงหน้าจอของ iPhone
หรือ iPod Touch ที่ผู้ใช้คุ้นเคยขึ้นแสดงบนจอมอนิเตอร์ ทั้งนี้เพื่อให้การใช้งานสะดวกและปลอดภัยยิ่งขึ้น
อีกส่วนหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับ MINI Connected คือ โปรแกรม MINIMALISM Analyzer ซึ่งทำหน้าที่แสดงผล
วิเคราะห์ข้อมูลความประหยัดน้ำมันและการคายไอเสียคาร์บอนไดอ๊อกไซด์ที่คำนวนผ่านระบบคอมพิวเตอร์
On-board ของรถมินิ และให้คำแนะนำในการขับเพื่อช่วยให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้น นอกจากนั้นผลการขับจาก
โปรแกรม MINIMALISM Analyzer ยังสามารถเชื่อมต่อกับโปรแกรม MINIMALISM Analyzer ของ MINI
คันอื่น เพื่อสามารถนำมาเปรียบเทียบหรือแม้กระทั่งเล่นเกมส์แข่งกัน เพื่อสร้างสำนึกในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
ผ่านการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและการคายไอเสียคาร์บอนไดอ๊อกไซด์ให้น้อยลง
MINI Connected ติดตั้งอยู่ในรถยนต์มินิรุ่นดังต่อไปนี้ ได้แก่ MINI Cooper Look 2, MINI Cooper S Look 2,
MINI Cooper S Clubman และ MINI Cooper S Countryman
แคมเปญพิเศษของ BMW นั้น จะมีแคมเปญ Balloon ให้เลือกผ่อนได้ในค่างวดพิเศษ ซึ่งดูรายละเอียดได้ในงาน
ส่วน MINI นั้นจะมาพร้อมกับ แคมเปญ “MINI Smile Plus” แคมเปญ มอบสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าที่จองรถยนต์
MINI รุ่นแฮ็ทช์แบ็คและรุ่นเปิดประทุนดังนี้
ข้อเสนอทางการเงินแบบยิ้มๆ สบายกระเป๋า กับ MINI Financial Services โปรแกรมทางการเงินที่ออกแบบมาให้
ลูกค้าดาวน์น้อย แถมยังผ่อนแบบเบาๆ พร้อมรับประกันราคาซื้อคืน (Guarantee Buy Back) สูงสุดถึง 55% ที่ไม่เคย
มีใครกล้าการันตีมาก่อน อาทิ
– MINI ONE ผ่อนเริ่มต้นเดือนละ 18,990.-
– MINI Cooper ผ่อนเริ่มต้นเดือนละ 22,990.-
– MINI Cooper S ผ่อนเริ่มต้นเดือนละ 30,990.-
– ขยายเวลาสำหรับ MSI Program (MINI Service Inclusive) โปรแกรมบำรุงรักษารถยนต์ จากเดิม 3 ปี เป็น 5 ปี หรือ
50,000 กิโลเมตร ที่ทำให้ลูกค้าได้อุ่นใจ สนุกทุกการขับขี่ ตลอดระยะเวลาที่ครอบครองรถ MINI
– โปรโมชั่นร่วมกับบัตรเครดิตเคทีซี (KTC) ทุกประเภท รับคะแนนสะสม KTC Forever Rewards สูงถึง 100,000 คะแนน
เมื่อชำระเงินจองรถยนต์มินิทุกรุ่น 100,000 บาท หรือ 1 บาท เท่ากับ 1 คะแนน มากที่สุดกว่าทุกโปรโมชั่นที่เคยมี (มูลค่า
ปกติ 1 คะแนนต่อการใช้จ่ายผ่านบัตร 25 บาท เท่ากับต้องใช้จ่ายผ่านบัตรสูงถึง 2,500,000 บาท จึงจะได้รับ 100,000 คะแนน)
ซึ่งลูกค้าสามารถนำคะแนนที่ได้นี้ไปแลกรับของรางวัล อาทิ ตั๋วเครื่องบินไปกลับ กรุงเทพ-ญี่ปุ่น ได้โดยไม่ต้องรอลุ้น
สนใจ ไปดูคันจริงของรถยนต์แะเทคโนโลยีใหม่เห่านี้ได้ ในงาน Bangkok International Motor Show 2011 ระหว่างวันที่
25 มนาคม – 4 เมษายน ณ Challenger Hall IMACT เมืองทองธานี
—————————————-///————————————–