ย้อนกลับไปเมื่อเดือนมีนาคม 2008 BMW ประกาศเป็นครั้งแรก ว่าจะตั้งแผนกวิจัยและพัฒนาพิเศษ ที่มีชื่อว่า
Project i หน้าที่สำคัญของหน่วยงานนี้ก็คือ ค้นหาหนทางในการพัฒนารถยนต์ ที่เหมาะแก่สภาพการจราจรในเมือง
เปาหมายของโครงการ Project i หาใช่เพียงแค่การสร้างรถยนต์ขึ้นมารุ่นหนึ่ง เพื่อตอบโจทย์ดังกล่าว หากแต่ จะ
มาพร้อมกับสารพัดเทคโนโลยี ที่ BMW จะนำมาใช้กับรถยนต์ของตน หรือแม้แต่ ความเป็นไปได้ สำหรับรถยนต์
แบรนด์ที่ 4 ในเครือ BMW Group ซึ่งยังคงเป็นเพียงกระแสข่าวลือมาตลอด

วันนี้ 2 ปีผ่านไป Project i จะเริ่มมีบทบาทมากขึ้น พวกเขาพร้อมแล้วกับการทะยอยเปิดเผยถึงโครงการต่างๆในมือ
เริ่มแรก พวกเขาปล่อย MINI-E ซคึ่งเป็นรถยนต์ MINI แต่ใช้พลังขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ทั้งหมด ซึ่ง BMW
จะนำไปทดสอบการใช้งานในสภาพสังคมจริงๆ เพื่อเก็บข้อมูล และความคิดเห็นจากผู้ที่ได้มีโอกาสทดลองขับ
ว่าต้องการอะไรบ้าง จากรถยนต์ประเภท zero-emissions


นอกจากนั้น ภายในปีนี้ BMW จะเปิดตัว รถยนต์ในโครงการ Project i คันที่ 2 นั่นคือ ซีรีส์ 1 พลังไฟฟ้า ซึ่งใช้พื้นฐาน
มาจากรถต้นแบบ Concept ActiveE ที่อวดโฉมครั้งแรกเมื่องาน 2010 Detroit Auto Show ต้นปีที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม รถทั้งสองรุ่น ก็ยังคงถูกผลิตออกมาแล่นทดสอบในจำนวนจำกัด เพื่อใช้ในการทดสอบ และมองหา
ความสมดุล ระหว่าง การใช้งารถยนต์ไฟฟ้า กับการพัฒนาผังเมืองยุคใหม่ เพื่อนำไปสู่ การพัฒนารถยนต์รุ่นแรก
ที่แท้จริง จากโครงการ Project i ซึ่งเรียกกันว่า Megacity Vehicle (MCV) คันที่ BMW เปิดเผยภาพสเก็ตช์ ให้เรา
ได้เห็นกันอยู่นี้ BMW แถลงว่า รถคันนี้ จะออกสู่ตลาดได้ภายในปี 2013 และถือเป็นรถยนต์รุ่นแรก ภายใต้
แบรนด์ใหม่ ของ BMW…!!

Megacity Vehicle จะเป็นรถยนต์ปลอดมลพิษ สำหรับการใช้งานในเมืองใหญ่ทั่วโลก BMW ได้ก้าวข้ามข้อจำกัด
เดิมๆ ในการเลือกใช้วัสดุเพื่อนำมาผลิตรถรุ่นนี้ นั่นเพราะประเด็นเรื่องน้ำหนัก คือปัจจัยสำคัญอันส่งผลต่อ สมรรถนะ
ในการขับเคลื่อน ของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า

ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ ถ้าจะบอกว่า รถคันนี้ จะถูกผลิตขึ้นจากวัสดุน้ำหนักเบา แต่มีความแข็งแรงทนทานสูง
จำพวก Carbon-Giber อยู่เป็นจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว ถ้าจำกันได้ ไม่นานมานี้ BMW ได้ร่วมลงทุนกับ SGL Group
ผู้เชี่ยวชาญ ด้านการสร้างชิ้นส่วน Carbon-Fiber ตั้งโรงงานผลิตชิ้นส่วนประเภทนี้ขึ้นมาเพื่อโครงการนี้โดยเฉพาะ

Megacity Vehicle จะมีขนาดเล็ก แต่มีพื้นที่ห้องโดยสารพียงพอสำหรับ ผู้โดยสาร 4 คน และจะใช้ระบบขับเคลื่อน
ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า กับแบ็ตเตอรี ลิเธียม ไอออน ซึ่งจะให้พละกำลังประมาณ 134 แรงม้า ขับเคลื่อนล้อหลัง ส่วน
รุ่นย่อยอื่นท่จะตามมา พร้อมกับเครื่องยนต์สันดาบขนาดเล็ก ที่จะทำงานคล้ายเครื่องกำเนิดไฟฟ้า จะอยู่ในแผน
การเปิดตัวอีกด้วย ซึ่งเราคงต้องรอชมความคืบหน้าของโครงการนี้ ที่คาดว่า จะทะยอยโผล่มาจากห้องทดลองใน
เมืองมิวนิค กันเรื่อยๆ จนถึงกำหนดวันเปิดตัว ในปี 2013

——————————————-///——————————————-