BMW ค่ายรถยนต์หรูจากเยอรมนี เปิดตัวสมาชิกเอี่ยมของค่าย BMW 2-Series Active Tourer ผิดคาดจากข่าวลือเดิม
ว่าจะใช้ชื่อในการทำตลาดว่า BMW 1-Series Gran Turismo อีกทั้งยังเป็นการเปิดศักราชรถยนต์ BMW ยุคใหม่
ใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า พร้อมความอเนกประสงค์ในรูปแบบ MPV 5 ที่นั่ง

การเปลี่ยนมาใช้ชื่อ BMW 2-Series Active Tourer น่าจะเป็นความพยายามของ BMW ที่ต้องการให้ภาพลักษณ์ของตัวรถ
ไม่ดูเป็นรถยนต์ครอบครัวมากจนเกินไป และอยากเน้นกลุ่มลูกค้าไปที่ชาววัยรุ่นที่ชื่นชอบการทำกิจกรรมต่างๆ หรือการเดินทาง
ไกลเป็นหมู่คณะ จึงเลือกให้อยู่ในตระกูล 2-Series หรือตัวถังคูเป้ของ BMW 1-Series และใช้ชื่อต่อท้าย Active Tourer
เพื่อให้คำจำกัดความตัวรถที่เหมาะสมกว่า

รูปลักษณ์ภายนอก แม้เส้นสายจะมีความเป็น BMW อยู่สูงพอควร แต่สัดส่วนของตัวรถกลับดูไม่คุ้นเคย ด้วยความที่เป็นรถยนต์
MPV 5 ที่นั่งคันแรกของ BMW อีกทั้งยังเปลี่ยนมาใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า จึงทำให้ทีมออกแบบสามารถออกแบบระยะโอเวอร์แฮงค์หน้า
ที่สั้นลงกว่า BMW รุ่นอื่นๆ จนทำให้มีมิติตัวถังความยาว 4,342 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,800 มิลลิเมตร ความสูง 1,555 มิลลิเมตร
และมีระยะฐานล้อหน้า-หลังกว้างถึง 2,670 มิลลิเมตร

ด้านหน้ายังคงโดดเด่นด้วยกระจังหน้าไตคู่ขนาดโตเช่นเคย พร้อมโคมไฟหน้าขนาดใหญ่ ด้านข้างแม้จะมีหลังคาที่สูงโปร่งในสไตล์
MPV แต่เส้นสายยังคงเอกลักษณ์ของ BMW ชัดเจน โดยเฉพาะกรอบกระจกแบบ Hoffmeister Kink ส่วนด้านท้ายกลับดูคล้ายคลึง
กับด้านท้ายของ BMW 5-Series Estate อย่างน่าประหลาด ด้วยสัดส่วนของฝากระโปรงท้าย และโคมไฟท้ายที่ยังเล่นกับ
เส้นไฟ LED รูปตัว L ช่วยทำให้รถดูกว้างและภูมิฐานมากขึ้น

นอกจากนี้ BMW ยังคงเสนอไลน์การตกแต่งเช่นเคย ได้แก่ Luxury Line ตกแต่งสไตล์หรู ด้วยกระจังหน้าโครเมี่ยม ล้ออัลลอย
ขนาด 16 หรือ 17 นิ้วลายหรูพิเศษ พร้อมพวงมาลัยทรงสปอร์ต แต่หุ้มหนังแท้ รวมถึงเบาะนั่งที่ถูกหุ้มหนังแท้เกรดพิเศษ

ส่วน Sport Line เน้นความสปอร์ตเต็มที่ด้วยกระจังหน้าสีดำเงา พร้อมกันชนหน้าออกแบบใหม่ เน้นความสปอร์ตมากขึ้น
เปลี่ยนล้ออัลลอยเป็นขนาด 16 หรือ 17 นิ้วเช่นกัน แต่เน้นลายล้อที่ให้ความดุดัน ส่วนภายในห้องโดยสาร เปลี่ยนเบาะนั่ง
ให้เป็นทรงสปอร์ต พร้อมตกแต่งภายในด้วยวัสดุสีดำเงาเป็นหลัก

ถ้ายังสปอร์ตกันไม่หนำใจ BMW ก็จัด M Sport Package ให้โดยเฉพาะ เปลี่ยนชุดบอดี้คิทรอบคันใหม่ทั้งหมด เน้นความลู่ลม
เป็นหลัก เปลี่ยนระบบช่วงล่างให้หนึบแน่นมากขึ้น ส่งผลให้ความสูงของตัวรถเตี้ยลง 10 มิลลิเมตร พร้อมล้ออัลลอยขนาด 17 หรือ
18 นิ้ว ขนาดเบา ภายในห้องโดยสารยังถูกเปลี่ยนพวงมาลัยสไตล์ M เบาะนั่งสปอร์ตหุ้มด้วยหนังแท้แบบพิเศษ บุเพดานหลังคา
ด้วยใยผ้าสีเข้ม และติดตั้งกาบบันไดประตูของ M

ห้องโดยสาร ถูกออกแบบคิดใหม่ ไม่เหมือน BMW รุ่นอื่นๆที่เคยมีมา แต่ยังคงใช้เอกลักษณ์งานออกแบบในสไตล์ BMW เช่นเคย
โดยคอนโซลหน้าถูกออกแบบเอาใจผู้ขับขี่โดยเฉพาะ เพราะออกแบบตำแหน่งเบาะนั่งแบบ ‘Semi-command’ ให้วิสัยทัศน์
ในการขับขี่ที่ดีกว่ารถยนต์ MPV รุ่นอื่นๆ นอกจากนี้ คอนโซลหน้ายังถูกออกแบบให้แบ่งส่วนควบคุมวิทยุกับแผงควบคุมระบบ
ปรับอากาศ คั่นกลางด้วยช่องเก็บของที่ให้ความอเนกประสงค์กว่าเดิม

ที่สำคัญ เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้ายังสามารถพับลงได้ เช่นเดียวกับเบาะผู้โดยสารด้านหลัง สามารถพับลงในอัตราส่วน 40:20:40
สร้างรูปแบบการใช้งานที่หลากหลายได้มากกว่าเดิม นอกจากนี้ยังมีการติดตั้งระบบ Head-up Display และ BMW ConnectedDrive
ช่วยเพิ่มความสะดวกในการขับขี่

งานวิศวกรรม เป็นจุดสำคัญของรถยนต์รุ่นนี้ เพราะเป็นความเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ของ BMW ที่ยอมวิวัฒนาการตนเอง
ให้พร้อมสำหรับตลาดรถเล็กมากขึ้น และเพื่อช่วยแชร์แพลตฟอร์ม UKL ร่วมกับ MINI โฉมใหม่ล่าสุด ทั้งการเปลี่ยนจาก
ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง มาใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหน้าเป็นครั้งแรก และการเปิดตัวขุมพลังขนาดเล็ก แบบ 3 สูบเรียง พร้อมเทอร์โบ
TwinPower Turbo เป็นครั้งแรกหลังซุ่มพัฒนามานานอีกด้วย (เปิดตัวครั้งแรกใน MINI โฉมใหม่ แต่ใช้กับ BMW ครั้งแรกในรุ่นนี้)

ในช่วงเปิดตัว จะมีขุมพลังให้เลือก 3 รูปแบบด้วยกัน ได้แก่ รหัส 218i เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร พร้อม
เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 136 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 220 นิวตัน-เมตร หรือ 230 นิวตัน-เมตรในโหมด Overboost
เน้นความประหยัดน้ำมันเป็นหลัก เพราะสามารถทำอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยได้เกิน 20 กม./ลิตร

ส่วนใครอยากแรง ต้องหันไปคบกับรหัส 225i เป็นเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร พร้อมเทอร์โบ ให้กำลัง 231 แรงม้า
 แต่สะใจกับแรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร ซึ่งน่าจะให้ความเร้าใจในการขับขี่พอสมควร และท้ายสุดกับขุมพลังดีเซล
ช่วงเปิดตัว กับรหัส 218d ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ พร้อมเทอร์โบ ขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า
และแรงบิดสูงสุด 330 นิวตัน-เมตร

และหลังจากนี้ จะมีอีกหลายรหัส หลายเครื่องยนต์ใหม่ เปิดตัวคลานตามกันออกมา ได้แก่ 216d, 220d และ 220i รวมไปถึง
เวอร์ชันระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ xDrive อีกด้วย

2014 BMW 2-Series Active Tourer ถือเป็นการประกาศสงครามรถยนต์พรีเมี่ยม MPV ขนาดเล็กในตลาดยุโรปกันเลย
ซึ่งทั้งเครื่องยนต์ใหม่ ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า และคุณภาพระดับ BMW น่าจะทำให้เกิดความนิยมในหมู่ผู้บริโภคได้ไม่ยากเย็นนัก
และ BMW เตรียม BMW 2-Series Grand Tourer เวอร์ชัน 7 ที่นั่งของรถยนต์รุ่นนี้ให้เปิดตัวตามออกมาเร็วๆนี้อีกด้วย