Audi เปิดตัว A1 ในช่วงแรกมีเพียงแค่ตัวถัง 3 ประตูเท่านั้น ดูเผิน ๆ คิดว่าไม่น่าจะไปรอด แต่ด้วยความเป็น Audi ที่เป็นรถยนต์เกรดสูงดูมีคุณค่าและยังเปิดตัวได้เข้ากระแสรถพรีเมี่ยมเล็กอย่างพอเหมาะจึงทำให้ลูกค้าสนใจจับจอง Audi A1 อุ่นหนาฝาคั่ง ว่ากันว่ารอกันหลายเดือนเลยทีเดียว
คราวนี้เห็นที 3 ประตูอาจจะเอาไม่อยู่ Audi จึงถึงเวลาแนะนำ A1 Sportback ตั้งชื่อเสียเลิศหรูทั้งที่จริงมันคือ A1 เวอร์ชัน 5 ประตูดี ๆ นี่เอง โดยยังคงรักษาจุดเด่นของ Audi A1 มาตรฐานอย่างดีคือแพคเกจกะทัดรัด สปอร์ต ดีไซน์ครึ่งคันหน้าเหมือนกัน แต่เพิ่มบานประตูท้ายและกระจกโอเปร่าท้ายเล็กน้อย เหมาะสำหรับคนหนุ่มสาวที่ใช้ชีวิตในเมือง
ความโดดเด่นของ Audi A1 Sportback คือลูกค้าสามารถสีตัวรถ 12 เฉดสีและสีหลังคาพร้มอมสปอยเลอร์ท้าย 3 เฉดสี มิติตัวถังมีความยาว 3.94 เมตร ความกว้าง 1.75 เมตรและความสูง 1.42 เมตร บนฐานล้อความยาว 2.47 เมตร โดยมิติความกว้างและความสูงจะเหนือกว่า Audi A1 มาตรฐาน
จุดเด่นสำคัญประการหนึ่งก็คือ Audi สามารถควบคุมน้ำหนัก A1 Sportback ไว้ที่ 1,065 กิโลกรัมในรุ่น 1.2 TFSI นั่นเป็นเพราะใช้เหล็กน้ำหนักเบาความทนทานสูงเป็นจำนวนมาก
ภายในห้องโดยสารยกชุดชิ้นส่วนจาก Audi A1 มาตรฐานเป็นจำนวนมาก แต่ต่างกันที่รุ่น Sportback จะมีเนื้อที่หัวไหล่และเนื้อที่ศีรษะมากกว่ารุ่น 3 ประตู และยังมีเนื้อที่ห้องสัมภาระ 270 ลิตร พับเบาะแล้วจะมีเนื้อที่ถึง 920 ลิตร
ขุมพลัง Audi A1 Sportback มีทางเลือก 6 ทางหลักได้แก่เครื่องยนต์เบนซิน 3 เครื่องและดีเซล 3 เครื่อง ได้แก่ 1.2 ลิตร TFSI 85 แรงม้า อัตราสิ้นเปลือง 5.1 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร, 1.4 ลิตร TFSI 122 แรงม้า/185 แรงม้า แรงบิด 25.49 กิโลกรัม อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 7 วินาที ความเร็วสูง 227 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
เครื่องยนต์ดีเซล 1.6 ลิตร TDI 90/105 แรงม้า จับคู่เกียร์ธรรมดาเท่านั้น ให้อัตราสิ้นเปลือง 3.8 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ปล่อยค่าไอเสีย CO2 99 กรัมต่อกิโลเมตร, 2.0 ลิตร TDI 143 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 8.5 วินาที อัตราสิ้นเปลือง 4.1 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร
Audi A1 Sportback มีเกียร์ให้เลือกหลากหลายตามขุมพลัง ได้แก่เกียร์ S Tronic 7 จังหวะสำหรับเครื่องเบนซิน 1.4 ลิตร 122 แรงม้าและเครื่องยนต์ดีเซล 1.6 ลิตร 90 แรงม้า, เกียร์ Dual Clutch สำหรับรุ่นเครื่องยนต์ 185 แรงม้า
Audi พร้อมส่งมอบ A1 Sportback ภายในต้นปี 2012 ส่วนประเทศไทยต้องลุ้นกันต่อไป