Rolls-Royce Phantom ในวันนี้ก็เริ่มมีอายุที่แก่ชราภาพเอามาก ๆ พอสมควร เพราะตอนนี้มันก็มีอายุการตลาดมากถึง
11 ปีก็เรียกว่าขายกันจนลืมแก่เชียวล่ะ ถ้ามองอย่างเป็นกลางแล้วก็พบว่าตัวรถมันก็มีความเป็นอมตะ (Timeless) สูงเอา
มาก ๆแต่ถ้ามองในโลกแห่งความจริงแล้วล่ะก็ การแข่งขันในกลุ่มตลาด Super Rich มีความรุนแรงมากขึ้นทุกวัน ขึ้น
Rolls-Royce มัวแต่เฉิดฉายร่อนเป็นนางฟ้าก็เชื่อว่าอนาคตคงจะไม่ดีแน่นอน

จึงไม่แปลกใจเลยว่า Rolls-Royce ถึงกำลังซุ่มพัฒนา All New Rolls-Royce Phantom กันอยู่เพื่อให้ทันการเปิดตัว
ภายใน 3 ปีข้างหน้าเมื่อถึงเวลานั้น Phantom รุ่นปัจจุบันก็มีอายุปาเข้าไป 14 ปีแล้ว! แม้จะมาช้าเอามาก ๆ แต่
งานนี้ Rolls-Royce ก็มีทีเด็ดทางด้านเทคโนโลยีค่อนข้างสูงมากเพื่อดึงดูดใจมหาเศรษฐียุคใหม่ไม่น้อย

All New Rolls-Royce Phantom อาจจะมีวิวัฒนาการทางด้านวัสดุตัวถังด้วยการใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์เข้ามาเป็น
ส่วนประกอบตัวถังและใช้วัสดุอลูมิเนียมสำหรับการทำพื้นช่วงล่าง จนทำให้ Phantom รุ่นใหม่มีน้ำหนักโดยรวมเบากว่า
รุ่นเดิมพอสมควร หรือเป็นแนวคิดเดียวกับ BMW i3 นั่นเอง

งานออกแบบจะยังคงเอกลักษณ์ของ Phantom รุ่นเดิมเอาไว้เพราะ Giles Taylor หัวหน้าทีมออกแบบเปิดเผยว่า
Phantom รุ่นเดิมไม่ได้ให้ความรู้สึกว่าตัวรถเป็นรถเหลี่ยมกล่องแต่อย่างใด เพียงแต่รถรุ่นต่อไปก็จะมีวิวัฒนาการด้านการ
ออกแบบอย่างต่อเนื่องเพื่อกำหนดนิยามด้านความทันสมัย ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สามารถสะท้อนความรถยุคใหม่ก็คือรุ่น
Wraith ที่มีบั้นท้ายลาดแบบ Fastback ซึ่งขณะนี้พวกเขาก็กำลังออกแบบ Design Language ใหม่ที่เรียกกันว่า
‘charismatic expressiveness’ หรือเสน่ห์ที่มีความลึกซึ้ง

สำหรับทิศทางการออกแบบและบุคลิกของ All New Rolls-Royce Phantom ก็จะต้องกลายเป็นรถที่ดูผ่อนคลายหรือดู
เป็นทางการน้อยลง โดยยังยึดความเป็นรถยุคหลังสงครามที่มีสีสะท้อนเมฆ ถึงแม้การออกแบบ Phantom รุ่นต่อไป
จะต้องมีวิวัฒนาการ แต่พวกเขาก็ต้องรักษาสัดส่วนการออกแบบทองคำ (Golden Section หรือสัดส่วนความสวยงามที่
สามารถคำนวณด้วยหลักการวิทยาศาสตร์ได้) โดยเฉพาะแนวการออกแบบเสา C ที่เป็นเอกลักษณะเฉพาะตัวของ
Phantom

Taylor ยังใบ้อีกด้วยว่ากระจังหน้าของ Phantom โฉมใหม่ก็จะให้ความรู้สึกโปร่งจนแลดูอากาศเข้าไปได้ง่ายที่แตกต่าง
จากรุ่นปัจจุบันที่จะดูทึบ ๆ หน่อย

ด้านขุมพลัง All New Rolls-Royce Phantom นั้นจะติดตั้งเครื่องยนต์ V12 แน่นอน และยังมีรุ่น Plug-in Hybrid ให้
เลือกใช้ด้วย แต่สำหรับเวอร์ชันรถไฟฟ้านั้นยังไม่มีการพิจารณา

มหาเศรษฐีท่านใดที่สนใจก็คงต้องนับนิ้วรอไปเลยอีก 3 ปีข้างหน้า

ที่มา : Autocar