“ยี้” คือเสียงแรกที่หลายคนได้เห็นภาพแอบถ่ายของ All New Mitsubishi Triton ที่หลุดจากโรงงานแหลมฉบัง (ซึ่งเราก็
ได้ยินมาว่ามีคนโดนเซ่นจากเหตุการณ์ครั้งนี้ไปพอสมควร คล้ายกรณีภาพแอบถ่าย Nissan NP300 Navara แต่อย่างว่า
บทเรียนเล่มเดิม แต่คนเรียนกลับเป็นผู้ที่ไม่เคยเรียนมาก่อน มันก็ย่อมมีเหตุการณ์พลาดแบบนี้ประจำอย่างไม่มีวันหมดสิ้น
เพราะคนที่เรียนมาแล้วก็ออกวงโคจรไป)
แต่ผู้เขียนยังยึดถือคติอย่างหนึ่งว่าภาพ Spyshot จากโรงงานมักจะไร้ความสวยงามแทบทั้งนั้น นั่นเป็นเพราะว่าภาพแอบ
ถ่ายในโรงงานมันเกิดจากความรีบร้อนและส่วนใหญ่มักจะหามุมแอบถ่ายที่ไม่ได้เห็นตัวรถทั้งคัน จึงไม่ค่อยแปลกเลยว่า
ทำไมเมื่อรถได้เปิดตัวต่อสาธารณะชนแล้ว มันจะดูดีกว่าภาพแอบถ่าย
ดังนั้น เราลองมาดูกันว่า All New Mitsubishi Triton แบบเวอร์ชันเห็นคันจริงเป็น ๆ มันจะเป็นอย่างไร?
วันนี้ (18 พฤศจิกายน 2014) Mitsubishi Motor ประเทศไทยจัดการเปิดเผยโฉม All New Mitsubishi Triton ใน
ประเทศไทยเป็นที่แรกในโลกเหมือนกับรถกระบะของเขาที่ผ่าน ๆ มา จุดขายสำคัญคือเครื่องยนต์ดีเซลที่มาพร้อมกับวาล์ว
แปรผัน MIVEC โดยมีชื่อเครื่องหมายทางการค้าว่า MIVEC VG Turbo Aluminum Block ให้กำลัง 181 แรงม้าที่พวก
เขาเคลมกันว่า น้ำหนักเบา ให้สมรรถนะสูง แต่ประหยัดน้ำมันกว่าเดิม 20%
Mitsubishi เหมือนจะรู้กระแสพฤติกรรมการใช้รถกระบะในไทยว่า ผู้คนส่วนใหญ่เริ่มเปลี่ยนใจหันมาใช้รถกระบะ 4
ประตูมากขึ้น พวกเขาก็เลยขอเปิดรับจองรุ่น Double Cab Plus และ Double Cab 4×4 กันก่อนราคาระหว่าง 791,000
– 1,008,000 บาท พร้อมจัดเต็มแถมประกันภัยชั้น 1 จนถึงสิ้นปี 2014 นี้กันเลยทีเดียว
Mitsubishi Triton โฉมใหม่ถูกพัฒนาขึ้นด้วยแนวคิด ที่สุดของรถกระบะอเนกประสงค์แบบสปอร์ต “Ultimate Sport
Utility Truck” ที่ไม่ได้จำกัดแค่เพียงการบรรทุกเพื่อการพาณิชย์ แต่ยังรวมไปถึงความสะดวกสบายอย่างรถยนต์นั่ง
สำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันด้วยแนวคิด “เปลี่ยน …ทุกความเชื่อ” กับนวัตกรรมยานยนต์ที่ให้ประสบการณ์ใหม่ใน
การขับขี่ ด้วยคุณสมบัติหลัก 3 ประการ คือ
“สมรรถนะสูงแต่ประหยัด” ครั้งแรกในรถกระบะกับการติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซล ประสิทธิภาพสูง รหัส 4N15 “ไมเวค วีจี
เทอร์โบ” ขนาด 2.4 ลิตร พร้อมเสื้อสูบและฝาสูบแบบอลูมินัม อัลลอย บล็อก ที่ให้กำลังแรงจัดเต็มขุมพลังสูงสุดถึง 181
แรงม้า ทนทานแข็งแกร่ง มีน้ำหนักเบา แต่ให้การประหยัดน้ำมันมากขึ้นถึง 20% และยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมาก
ยิ่งขึ้นเช่นกัน
“ความสะดวกสบาย” จากห้องโดยสารที่ออกแบบให้มีพื้นที่กว้างนั่งสะดวกสบายอย่างรถยนต์นั่ง เงียบยิ่งขึ้นด้วยระบบ
ลดเสียงรบกวนตลอดการเดินทาง มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่ทันสมัย รวมทั้งระบบช่วงล่างใหม่ลดแรงสะเทือน และตัวถังที่
ออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ที่ง่ายต่อการขับขี่
“ความปลอดภัยสูง” จากโครงสร้างตัวถังนิรภัย RISE Body และการเพิ่มประสิทธิภาพของโครงสร้างตัวถังด้วยส่วนรับ
แรงกระแทกผลิตจากเหล็กที่มีความแข็งแรงเป็นพิเศษ High Tensile Steel พร้อมระบบความปลอดภัยครบครันช่วยให้ผู้
ขับขี่และผู้โดยสารรู้สึกมั่นใจและปลอดภัยมากขึ้นตลอดการขับขี่
ถึงแม้ Mitsubishi Triton โฉมใหม่จะให้เปิดรับจองรุ่น Double Cab ก่อน แต่ก็ยังยืนยันว่าพวกเขายังมี 3 ตัวถังให้เลือก
ได้แก่
• รุ่นดับเบิ้ลแค็บ มาพร้อมความสะดวกสบายคล้ายรถ SUV พร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานอย่างรถกระบะ เหมาะ
สำหรับการใช้งานส่วนตัวและเพื่อการพาณิชย์
• รุ่นเมกะแค็บ มาพร้อมแค็บเปิดได้ เพิ่มความสะดวกในการเข้า-ออก และขนของ พร้อมเสริมความแข็งแกร่งเพื่อ
ความปลอดภัยของผู้โดยสาร รวมไปถึงเพิ่มพื้นที่ในการบรรทุก
• รุ่นซิงเกิ้ลแค็บ เพิ่มสมรรถนะในการบรรทุกยิ่งขึ้นด้วยกระบะที่ยาวขึ้นเหมาะกับการใช้งานเพื่อการพาณิชย์เป็น
หลัก
Mitsubishi Triton โฉมใหม่ยังถูกออกแบบด้วยแนวคิด “รถกระบะอเนกประสงค์แบบสปอร์ต” เหมือนกับรุ่นเดิม
เพียงแต่มีการพัฒนาเพื่อให้เหมาะสมกับเป็นรถกระบะยุค 2015 ด้วยแนวเส้นแบบ 3 มิติ ให้ความรู้สึกแตกต่างกันเมื่อมอง
จากด้านหน้า ด้านบน และด้านข้าง พร้อมการออกแบบที่โค้งมนกับเส้นสายที่ลงตัวจากกระจังหน้า ชุดไฟและกันชนหน้า
สะท้อนพละกำลังที่แฝงอยู่
• กระจังหน้าโครเมียมสไตล์มาพร้อมไฟหน้าดีไซน์ใหม่แบบโปรเจคเตอร์แบบ HID (High Intensity
Discharged)ทั้งไฟสูงและไฟต่ำ ที่ดูทรงเผิน ๆ ก็คล้ายกับ Outlander ตัวปัจจุบัน พร้อมปุ่มปรับระดับไฟหน้า 5 ระดับ
นอกจากนี้ยังมีการติดตั้งไฟส่องสว่างเวลากลางวัน (Daytime Running Light) ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการมองเห็น
(เฉพาะรุ่น เมกะแค็บ Plus GLS NAVI, ดับเบิ้ลแค็บ PLUS GLS , GLS NAVI และ ดับเบิ้ลแค็บ 4WD GLS Ltd.)
มุมมองจากด้านข้าง
• เสริมการออกแบบเส้นสาย Character Line ด้านข้างตัวรถช่วยเพิ่มรูปลักษณ์ที่ทันสมัยและดูเพรียวขึ้นพอตัว
• รุ่นดับเบิ้ลแค็บยังคงมาพร้อมการออกแบบสไตล์ J-Line ที่แบ่งพื้นที่ระหว่างห้องโดยสารกับพื้นที่กระบะบรรทุก
ซึ่งทำให้ห้องโดยสารมีพื้นที่มากขึ้นและลงตัวกับดีไซน์ของพื้นที่กระบะ สำหรับในรุ่นเมกะแค็บและซิงเกิ้ลแค็บใช้การ
ออกแบบแนวเส้นตรงเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับตัวรถมากยิ่งขึ้น
• ล้ออัลลอยดีไซน์สไตล์สปอร์ต ขนาด 17 นิ้ว (เฉพาะรุ่น Double Cab Plus GLS, Double Cab 4×4 GLS Ltd.
และ Mega Cab Plus GLS NAVI)
มุมมองจากด้านหลัง
• การออกแบบด้านหลังมีความโค้งมนทันสมัยขึ้นด้วย ชุดไฟท้ายมาพร้อมการออกแบบสไตล์รถเก๋งให้ทอดยาวไปจนถึง
ด้านข้างของกระบะ พร้อมการซีลขึ้นรูปชิ้นเดียวเพื่อป้องกันน้ำและฝุ่นละอองเข้าโคมไฟ
• ไฟเบรกดวงที่ 3 บริเวณฝาท้ายกระบะช่วยให้เห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้น พร้อมกล้องจับภาพหลังขณะถอยออกแบบให้มี
ขนาดเล็กสวยงาม กลมกลืนกับท้ายกระบะ (เฉพาะรุ่น GLS NAVI, GLS Ltd.)
• กันชนหลังดีไซน์ใหม่ ทันสมัยลงตัว ที่สามารถเป็นบันไดและเป็นกันชนได้ในชิ้นเดียวกัน
ออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์
• Mitsubishi Triton โฉมใหม่ มาพร้อมการออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ โดยมีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานที่
ต่ำสุดในรถระดับเดียวกันเพียง 0.42 จากการออกแบบกันชนหน้า หลังคาให้โค้งมน พร้อมการออกแบบเสาเอ (A-
pillars) ห้องโดยสารและกระบะให้เรียวไปยังส่วนท้าย ช่วยให้รถทรงตัวดีขึ้นในย่านความเร็วสูง พร้อมการประหยัดน้ำมันและให้มลพิษต่ำ
• Mitsubishi มีสีตัวถังให้เลือกถึง มี 7 สี โดยมาพร้อม สีใหม่สีเขียว (Earth Green) และ สีเงิน (Sterling
Silver)
(1) สีเขียว Earth Green
(2) สีเงิน Sterling Silver
(3) สีขาว Solid White
(4) สีขาวมุก White Pearl
(5) สีเทาดำ Titanium Gray
(6) สีดำ Pyreness Black
(7) สีน้ำตาล Quartz Brown
2) ห้องโดยสารที่ลงตัว
• Triton โฉมใหม่ รุ่นดับเบิ้ลแค็บยังคงออกแบบด้วยการใช้เส้นสายรูปตัวเจ (J-Line) เพื่อเชื่อมระหว่างห้อง
โดยสารกับพื้นที่กระบะบรรทุก ซึ่งการออกแบบดังกล่าวทำให้ มิตซูบิชิ “ไทรทัน ใหม่” มีพื้นที่สำหรับผู้โดยสารมากยิ่งขึ้น
ทั้งพื้นที่เหนือศีรษะและไหล่ในตำแหน่งของผู้โดยสารตอนหน้า และพื้นที่วางขาที่ยาวขึ้นสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
• โดดเด่นด้วยความสะดวกสบายเหนือระดับด้วยการปรับปรุงคุณภาพของวัสดุพื้นผิวภายในและความเงียบของ
ห้องโดยสาร
การตกแต่งภายใน
• การออกแบบภายในแบบทูโทนด้วยสีดำและสีเทาโดดเด่นด้วยการผสมผสานระหว่างสีดำแบบ Piano Black
กับการตกแต่งแบบ ซิลเวอร์ เดคคอเรชั่น ที่บริเวณคอนโซลหน้า ฐานเกียร์ แผงสวิตช์ควบคุมหน้าต่าง
และสวิตช์การปรับโหมดขับขี่ เบาะนั่ง
• เบาะนั่งด้านหน้าได้รับการออกแบบพนักพิงให้กว้างและยาวขึ้นเพื่อโอบรับกับสรีระของผู้นั่งอีกทั้งยังสามารถปรับ
สูง-ต่ำได้ (เฉพาะที่นั่งคนขับ) พร้อมการออกแบบหมอนรองศีรษะใหม่
• เบาะด้านคนขับปรับด้วยระบบไฟฟ้า 8 ทิศทางเพิ่มความสะดวกสบายสำหรับรุ่น GLS Ltd.
อุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน
• เพิ่มสมรรถนะในการบรรทุกด้วยกระบะที่ลึกขึ้น พร้อมพื้นผิวที่ง่ายต่อการเคลื่อนย้ายสิ่งของ โดยในรุ่นดับเบิ้ล
แค็บมาพร้อม ความกว้าง 1,470 มม. ยาว 1,520 มม. และสูง 475 มม.
• ระบบกุญแจอิมโมบิไลเซอร์ ป้องกันการโจรกรรมโดยจะอนุญาต ให้ติดเครื่องได้เฉพาะลูกกุญแจที่ ส่งรหัส
สัญญานตรงกับระบบเท่านั้นจึงช่วยให้ปลอดภัยจากการโจรกรรม
• ระบบกุญแจอัจฉริยะ KOS ( Keyless Operation System) ช่วยให้สามารถล็อกและปลดล็อกประตู รวมทั้ง
สตาร์ทเครื่องยนต์ได้อย่างสะดวกสบายโดยไม่ต้องใช้กุญแจ พร้อมการติดตั้ง ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ เพิ่มความสะดวกใน
การสตาร์ทเครื่องยนต์ได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส
• สะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วยกระจกไฟฟ้าแบบขึ้น-ลง อัตโนมัติ พร้อมพร้อมระบบ Safety (ด้านคนขับ) รวมไปถึง
กระจกมองข้างโครเมียมพร้อมไฟเลี้ยวปรับและพับด้วยไฟฟ้า
• ระบบพับเก็บและกางกระจกมองข้างอัตโนมัติ เมื่อกดล็อกและปลดล็อก
• วิทยุ ซีดี MP3 ดีวีดี พร้อมจอภาพแบบระบบสัมผัส ขนาด 7 นิ้ว ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย
(Bluetooth) ระบบนำทางในรถ (Navigator System) ที่ล้ำสมัย และช่อง USB สำหรับอุปกรณ์ต่อพ่วง ช่วยให้
เพลิดเพลินตลอดการขับขี่
• พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น ติดตั้งระบบควบคุมเครื่องเสียงที่พวงมาลัย และระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise
Control)
• กล้องมองหลัง ซึ่งจะแสดงภาพบนจอเดียวกับจอแสดงระบบนำทางในรถเมื่อเข้าเกียร์ถอยหลัง พร้อมเส้นกะ
ระยะการถอยเพื่อเพิ่มความสะดวกในการถอยจอด
• มาตรวัดแบบ Combination meter สามารถปรับแสงสว่างหน้าปัดได้ 8 ระดับ ดูง่ายชัดเจน แจ้งข้อมูลต่างๆ
ครบครัน พร้อมจอแสดงผลข้อมูลเอนกประสงค์ (Multi-information display) แสดงผลข้อมูลได้หลากหลาย ทั้ง
ความเร็วเฉลี่ยในการขับขี่ อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงโดยเฉลี่ย ระยะทางขับขี่ที่เหลือจากปริมาณน้ำมันที่มีอยู่ในถัง
และระบบเตือนการบำรุงรักษา รวมไปถึงการเตือนต่างๆ เมื่อมีความผิดปกติของระบบต่างๆ
• ระบบควบคุมอุณหภูมิภายในรถแยกปรับอุณหภูมิซ้าย-ขวา ในรุ่น GLS NAVI ในขณะที่รุ่น GLS มาพร้อมระบบ
ปรับอากาศอัตโนมัติ
• ที่พักแขนสำหรับผู้โดยสารตอนหลังพร้อมช่องวางแก้วน้ำ และที่วางขวดน้ำขนาดใหญ่ข้างประตู
3) สมรรถนะ
มิตซูบิชิ “ไทรทัน ใหม่” มาพร้อมเครื่องยนต์ 3 แบบ โดดเด่นด้วยเครื่องยนต์ใหม่ ดีเซล MIVEC วีจี เทอร์โบ อินเตอร์
คูลเลอร์ ขนาด 2.4 ลิตร 181 แรงม้า ครั้งแรกในรถกระบะกับนวัตกรรมเครื่องยนต์ดีเซลที่มาพร้อมเสื้อสูบและฝาสูบ อลู
มินัม อัลลอย บล็อก พร้อมระบบวาล์วแปรผัน MIVEC แรงจัดเต็มขุมพลัง ประหยัดน้ำมันกว่าเดิม 20%
เครื่องยนต์ดีเซล รหัส 4N15 MIVEC วีจี เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ ขนาด 2.4ลิตร
• เครื่องยนต์ใหม่ รหัส 4N15 แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว MIVEC วีจีเทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ 2,442 ซีซี. ให้
กำลังสูงสุด 181 แรงม้าที่ 3,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตรที่ 2,500 รอบต่อนาที ประหยัดน้ำมันมากขึ้น
ถึง 20% และลดมลพิษลงได้ถึง 17% พร้อมการทำงานของเครื่องยนต์ที่เงียบขึ้น เมื่อเทียบกับรุ่นที่ผ่านมา โดยมี
องค์ประกอบหลักดังนี้
– อลูมินัม อัลลอย บล็อก (Aluminum Alloy Block) ที่น้ำหนักเบา ประกอบกับการใช้เทคโนโลยีการลดน้ำหนัก
ช่วยให้สามารถลดน้ำหนักของเครื่องยนต์โดยรวมได้ถึง 35 กิโลกรัม แต่ยังคงความแข็งแกร่งและทนทาน ระบายความร้อน
ได้ดีเยี่ยม ช่วยให้ประหยัดเชื้อเพลิง นอกจากนี้การใช้กระบอกสูบแบบเหล็กกล้า (Steel Cylinder Liner) และการติดตั้ง
โซ่ไทม์มิ่ง จะให้ความทนทาน ช่วยยืดอายุการใช้งานและลดค่าใช้จ่ายเรื่องการบำรุงรักษาได้เป็นอย่างดี
– เทอร์โบ แปรผัน (VG Turbo) ให้การทำงานของเครื่องยนต์มีกำลังสูงทั้งในรอบต่ำ รอบกลางและรอบสูงอย่าง
ต่อเนื่อง ตอบสนองการขับขี่ได้ทันใจในทุกรอบความเร็ว
– ครั้งแรกในรถกระบะกับการติดตั้งระบบ MIVEC (Mitsubishi Innovative Valve Timing Electronic
Control System) ลิขสิทธ์เฉพาะมิตซูบิชิ กับระบบควบคุมการปิด-เปิดวาล์วไอดี และวาล์วไอเสียแบบแปรผันที่ทำงาน
สอดคล้องกับความเร็วของเครื่องยนต์ ช่วยให้เครื่องยนต์มีแรงบิดดีขึ้นในรอบต่ำ และได้แรงม้ามากยิ่งขึ้นในรอบสูงให้
เครื่องยนต์มีอัตราเร่งดีเยี่ยม เผาไหม้หมดจด ลดมลพิษ
เครื่องยนต์ดีเซลรหัส 4D56 ขนาด 2.5 ลิตร เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์
• มิตซูบิชิ “ไทรทัน ใหม่” รุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.5 ลิตร ดีเซล เทอร์โบ อินเตอร์
คูลเลอร์ ให้สมรรถนะสูงสุด 128 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 240 นิวตัน-เมตร ที่ 1,500-3,500 รอบ/นาที
ในขณะที่รุ่นซิงเกิ้ลแค็บขับเคลื่อน 4 ล้อ มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 2.5 วีจีเทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ให้สมรรถนะสูงสุดที่
178 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 รอบ/นาที
เครื่องยนต์เบนซินรหัส 4G64 ขนาด 2.4 ลิตร
• สำหรับเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 2.4 ลิตร มาพร้อมระบบควบคุมการจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแบบ ECI ที่ควบคุมจ่าย
เชื้อเพลิงด้วยระบบหัวฉีดอีเล็กทรอนิกส์ แรงม้าสูงสุด 128 แรงม้า ที่ 5,250 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 194 นิวตัน-เมตร ที่
4,000 รอบ/นาที
4) ระบบช่วงล่างและระบบความปลอดภัย
ด้วยโครงสร้างนิรภัยเหล็กกล้า ปกป้องห้องโดยสารให้ปลอดภัยยิ่งขึ้น พร้อมช่วงล่างแกร่งมั่นใจทุกการเข้าโค้ง ให้การทรง
ตัวเยี่ยมช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุพร้อมตอบสนองทุกเส้นทางและงานบรรทุก มั่นใจกับมาตรฐานใหม่ด้าน
ความปลอดภัย
โครงสร้างแซสซีส์
• มิตซูบิชิ “ไทรทัน ใหม่” แกร่งด้วยแชสซีส์เหล็กกล้าขนาดใหญ่แบบชิ้นเดียวขึ้นรูปประกบ 2 ชั้นไร้รอยต่อ พร้อม
เพิ่มความแข็งแรงมากยิ่งขึ้นด้วยคานเหล็กกันกระแทกด้านหน้าเพื่อลดความเสียหายและแรงปะทะจากการชนด้านหน้า
พร้อมโครงสร้างตัวถังนิรภัย RISE Body ที่ใช้เหล็กกล้าที่มีความแข็งแกร่งเป็นพิเศษ High Tensile Steel เพื่อความ
ปลอดภัยสูงและมีน้ำหนักเบา จึงช่วยลดการยุบตัวของห้องโดยสารรวมทั้งทำให้ห้องโดยสารเสียหายน้อยที่สุดเมื่อเกิดการ
ชนทั้งจากด้านหน้าและด้านหลัง
• เสริมประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยการออกแบบจุดยึดระหว่างแชสซีส์กับตัวถังใหม่ให้มีขนาดใหญ่ขึ้น ซึ่งนอกจากจะ
ทำให้ไทรทัน ใหม่ แข็งแกร่งขึ้นจากรุ่นก่อนหน้า แล้วยังช่วยลดแรงสั่นสะเทือนจากพื้นถนนเข้าสู่ห้องโดยสารได้ดียิ่งขึ้นจึง
ทำให้ห้องโดยสารเงียบและให้ความนุ่มนวลในการขับขี่มากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังทำให้การควบคุมรถเป็นอย่างง่ายดายพร้อม
การทรงตัวที่เป็นเยี่ยม
ช่วงล่าง
• มิตซูบิชิ “ไทรทัน ใหม่” รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ และขับเคลื่อน 2 ล้อยกสูงได้รับการปรับปรุงช่วงล่างใหม่พร้อมการ
ติดตั้งคานเหล็กกันกระแทกเพิ่มความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น โดยมาพร้อมระบบกันสะเทือนหน้าอิสระแบบปีกนก 2 ชั้น และ
ระบบกันสะเทือนหลังแบบแหนบแผ่นซ้อนติดตั้งเหนือเสื้อเพลา พร้อมโช้คอัพไขว้ขนาดใหญ่และการออกแบบจุดยึดรวมทั้ง
ปรับตั้งแหนบใหม่จึงให้การขับขี่ที่นุ่มนวล และยึดเกาะถนนดีขึ้น
พวงมาลัย
• มิตซูบิชิ “ไทรทัน ใหม่” รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ และขับเคลื่อน 2 ล้อยกสูงมาพร้อมรัศมีวงเลี้ยวที่แคบสุดในรถระดับ
เดียวกันเพียง 5.9 เมตร พร้อมการลดระยะการหมุนของพวงมาลัยที่น้อยลงจากซ้ายสุด – ขวาสุด ที่ 3.8 รอบ ช่วยให้
สามารถควบคุมรถได้อย่างดีเยี่ยมที่ความเร็วต่ำ และการควบคุมที่แม่นยำที่ความเร็วสูง รวมทั้งง่ายต่อการกลับรถหรือถอย
จอดในเมือง เหมือนขับรถเก๋ง ในขณะที่รุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อมาพร้อมรัศมีวงเลี้ยวสุด 5.7 เมตร
ระบบเบรก
• มั่นใจยิ่งกว่าด้วยระบบเบรก ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรกแบบอิเล็กทรอนิกส์ (EBD)
• เพิ่มประสิทธิภาพในการเบรกสำหรับรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ และขับเคลื่อน 2 ล้อยกสูงด้วยดิสก์เบรกหน้า แบบมี
ช่องระบายความร้อนช่วยให้ประสิทธิภาพการเบรกดีขึ้นปลอดภัยมากขึ้น และดรัมเบรกหลัง
ระบบขับเคลื่อน
• เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ และเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะพร้อมสปอร์ตโหมด สำหรับ รุ่นเครื่องยนต์ดีเซล MIVEC วีจี
เทอร์โบ ขนาด 2.4 ลิตร
• เกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ สำหรับรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล 2.5 เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ และเครื่องยนต์เบนซินขนาด
2.4 ลิตร
ระบบความปลอดภัย
• มิตซูบิชิ “ไทรทัน ใหม่” ทุกรุ่นมาพร้อมโครงสร้างตัวถังนิรภัย RISE Body พร้อมการออกแบบโครงสร้างส่วนหน้า
ให้มีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้นเพื่อให้สามารถดูดซับแรงกระแทกจากการชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• ติดตั้งถุงลมนิรภัยคู่หน้าแบบ SRS ทุกรุ่น ช่วยป้องกันแรงกระแทกทางด้านหน้าโดยทำงานร่วมกันกับระบบเข็ม
ขัดนิรภัยแบบดึงกลับอัตโนมัติช่วยปกป้องทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
ระบบ ES4 (Easy Select 4 WD )
• มิตซูบิชิ “ไทรทัน ใหม่” รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ มาพร้อมระบบ ES4 (Easy Select 4 WD ) ที่สะดวกด้วยสวิตซ์
ปรับหมุนควบคุมด้วยไฟฟ้าโดยสามารถปรับโหมดขับขี่จาก 2 ล้อ เป็น 4 ล้อ ได้อย่างง่ายดายในขณะขับขี่ที่ความเร็วไม่เกิน
100 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง โดยสามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้ทั้งแบบขับเคลื่อน 2 ล้อ 2H สำหรับเส้นทางปกติใช้ความเร็ว
สูงได้หรือขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ 4H สำหรับเส้นทางสมบุกสมบันใช้ความเร็วสูงได้ และ 4L สำหรับเส้นทางออฟโรดใช้
ความเร็วต่ำ
สำหรับรุ่นดับเบิ้ลแค็บขับเคลื่อน 4 ล้อ เกียร์อัตโนมัติ โดยมาพร้อมความปลอดภัยยิ่งขึ้นด้วยการเสริมระบบต่างๆ ดังนี้
• ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ASTC (Active Stability & Traction Control) ซึ่งประสานการทำงาน
ของระบบ ASC ควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวในสภาวะที่รถเสียสมดุลเพื่อป้องกันการลื่นไถลออกนอกเส้นทาง และ ATC
ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถลช่วยควบคุมการหมุนของล้อทั้ง 4 อย่างสมดุล
• ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HSA (Hill Start Assist) เพื่อป้องกันการลื่นไหลในกรณีที่ต้องเบรกรถบนทาง
ชันและต้องออกตัวอีกครั้ง
• ระบบเสริมแรงเบรก BA (Brake-Assist) ช่วยเพิ่มแรงดันน้ำมันเบรกเมื่อเหยียบเบรกกะทันหันช่วยให้การหยุด
รถเป็นไปอย่างรวดเร็วขึ้น
ระบบอำนวยความสะดวกและปลอดภัยตามแบบฉบับของมิตซูบิชิ ETACS (Electronic Time and Alarm Control
System)
• ระบบตัดการทำงานของไฟหน้ารถโดยอัตโนมัติ โดยไฟหน้ารถจะดับเองอัตโนมัติ หลังจากดับเครื่องยนต์ แล้ว
เปิดประตูช่วยประหยัดไฟในแบตเตอรี่
• ใบปัดน้ำฝนปรับความเร็วอัตโนมัติ ในกรณีที่ฝนตกและผู้ขับเปิดที่ปัดน้ำฝนในตำแหน่งปัดเป็นจังหวะเมื่อรถใช้
ความเร็วเกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ที่ปัดน้ำฝนจะเปลี่ยนเป็นจังหวะที่ 1 ให้โดยอัตโนมัติ และจะกลับมาที่ตำแหน่งปัดเป็น
จังหวะเหมือนเดิมเมื่อความเร็วลงหรือหยุดรถ
• สัญญานเตือนลืมปิดไฟหรี่หน้า ในกรณีที่ผู้ขับขี่ลืมปิดไฟหรี่หน้าหลังจากดับเครื่องแล้วเปิดประตูจะมีเสียง
สัญญาณเตือนดังขึ้น
• ระบบล็อคเซ็นทรัลล็อก สามารถเปิดหรือปิดล็อกประตูทุกบานด้วยปุ่มควบคุมที่ประตูด้านคนขับ
• ระบบสัญญาณไฟเลี้ยวเพื่อเปลี่ยนเลนเพียงขยับก้านไฟเลี้ยวเพียงเล็กน้อยสัญญาณไฟเลี้ยวและสัญญาณไฟ
เตือนในหน้าปัดจะกระพริบ 3 ครั้ง
• กุญแจรีโมทพร้อมระบบควบคุมการพับและกางกระจกมองข้างอัตโนมัติเพื่อป้องกันความเสียหายจากการจอด
รถในที่แคบ
• ระบบหน่วงเวลาปิดไฟในห้องโดยสาร เพื่อความสะดวกในการตรวจสอบสัมภาระภายในรถ
• ระบบหน่วงเวลาเปิด-ปิดกระจกไฟฟ้าหลังจากดับเครื่องยนต์กระจกไฟฟ้าจะยังสามารถเปิด-ปิดได้ต่อไปอีก 30
วินาที
• สัญญาณเสียงและไฟกระพริบเตือนเมื่อประตูปิดไม่สนิท โดยไฟกระพริบเตือนจะแสดงบนหน้าปัดเมื่อมีการออก
รถในขณะที่ประตูรถปิดไม่สนิท
5) ชุดตกแต่งแท้จากบริษัทแม่
มิตซูบิชิ “ไทรทัน ใหม่” มาพร้อมอุปกรณ์ตกแต่งคุณภาพที่ได้รับการออกแบบเฉพาะจากนักออกแบบของมิตซูบิชิ
มอเตอร์ส โดยมีให้เลือกทั้งชุดตกแต่งภายนอกและชุดตกแต่งภายใน สำหรับลูกค้าที่ชื่นชอบความโดดเด่นไม่เหมือนใคร
ซึ่งจากประสบการณ์ในการพัฒนาอุปกรณ์ตกแต่งอย่างมืออาชีพทำให้ลูกค้ามั่นใจได้ถึงคุณภาพที่ได้มาตรฐาน ยิ่งไปกว่า
นั้นยังมาพร้อมการรับประกันอุปกรณ์ตกแต่งนาน 3 ปี หรือ 60,000 กิโลเมตร (แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน) นอกเหนือไปจาก
การรับประกันคุณภาพรถยนต์ 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร อีกด้วย ด้วยแหตุนี้ทุกครั้งที่ต้องการจะติดตั้งอุปกรณ์ตกแต่ง
ให้กับรถจึงควรติดตั้งอุปกรณ์ตกแต่งของแท้จากศูนย์บริการมิตซูบิชิ มอเตอร์ส เท่านั้นเพื่อประโยชน์สูงสุดของลูกค้าทุก
ท่าน สำหรับอุปกรณ์ตกแต่งของ มิตซูบิชิ “ไทรทัน ใหม่” ในช่วงแรกประกอบด้วย
• ฝาครอบโครเมียมใต้กันชนหน้า
• คิ้วกันกระแทกประตูแบบโครเมียม
• คิ้วกันสาด
• กันแมลงฝากระโปรงหน้า
• ฝาปิดถังน้ำมัน
• ฝาครอบบันไดสแตนเลส
• หัวเกียร์สีเงินและหนัง
• พื้นปูกะบะ
• พรมปูพื้น และผ้ายางปูพื้น แบบเรียบและแบบมีขอบ
• ชุดติดตั้งแผนที่นำทางเพื่ออัพเกรดเครื่องเสียง (สำหรับรุ่น Double Cab Plus GLS)
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เลือก “ติ๊ก เจษฎาภรณ์ ผลดี” นักแสดงชั้นนำของไทยมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ของมิตซูบิชิ “ไทรทัน ใหม่”
เนื่องจากมีไลฟ์สไตล์และบุคคลิกที่สอดคล้องกับรถรุ่นนี้ โดยตลอดระยะเวลา 1 ปีของสัญญานั้น นอกเหนือจากการเป็นพรีเซ็นเตอร์
สำหรับภาพยนตร์โฆษณา และสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ แล้ว “ติ๊ก” ยังจะได้ร่วมทำกิจกรรมของบริษัทฯ ในโอกาสต่างๆ อีกด้วย
1. ข้อเสนอพิเศษช่วงเปิดตัว
รับข้อเสนอพิเศษช่วงเปิดตัวพร้อมฟรีประกันภัยชั้น 1 สำหรับลูกค้าที่จองรถยนต์มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ ในระหว่างวันที่ 18
พฤศจิกายน – 31 ธันวาคม 2557
2. กิจกรรมการขายและการตลาด
เฉพาะรุ่นดับเบิ้ล แค็บ พลัส และดับเบิ้ล แค็บ ขับเคลื่อน 4 ล้อ
o เปิดจำหน่ายที่โชว์รูมรถยนต์มิตซูบิชิทั่วประเทศ 18 พฤศจิกายน เป็นต้นไป
o เปิดตัวต่อสาธารณชนในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม
o กิจกรรมโรดโชว์ในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด 9 ธันวาคม เป็นต้นไป
o เริ่มส่งมอบรถ กลางเดือนธันวาคม เป็นต้นไป
——————————————————-