ในที่สุด Mercedes-Benz ก็ปล่อยกระสุนลูกใหม่บุกตลาดเอสยูวีขนาดกลาง M-Class เจเนเรชั่นที่ 3 ในประเทศไทยเมื่อ
วันที่ 6 มีนาคม 2012 ถือเป็นการเปิดตัวครั้งแรกในตลาดอาเซียน Mercedes-Benz เลือกเปิดตัว The new M-Class
รุ่น ML 250 CDI BlueEFFICIENCY 4MATIC เพียงรุ่นเดียวแต่มีให้เลือกรุ่นมาตรฐานและตกแต่งพิเศษ AMG

alt

ดร. อเล็กซานเดอร์ เพาฟเลอร์ ประธานบริหาร บริษัท Mercedes-Benz (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า
 “All New Mercedes-Benz M-Class ใหม่นี้มีรูปลักษณ์ที่สื่อถึงความเป็นสปอร์ต สะท้อนถึงตัวตนที่บ่งบอก
ประสิทธิภาพความแข็งแกร่ง ความทะมัดทะแมง คล่องแคล่ว    ปราดเปรียว แต่แฝงไว้ซึ่งความปลอดภัย มีดีไซน์
และสไตล์เป็นของตนเอง โดยเป็นการรวมกันระหว่างรถซาลูนสำหรับการขับขี่ทั่วไป เข้ากับการขับเคลื่อน 4 ล้อ
แบบออฟโรดได้อย่างลงตัว เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบทั้งการขับขี่บนท้องถนนทั่วไปและสไตล์ออฟโรด ทำให้
เพลิดเพลินในการขับขี่”

Mercedes-Benz M-Class เจเนเรชั่นที่ 3 ติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซล แถวเรียง 4 สูบ เทอร์โบพร้อมอินเตอร์คูลเลอร์
รหัสตัวถัง W166 ความจุกระบอกสูบ 2,143 ซีซี ขุมพลัง 150 กิโลวัตต์/ 204 แรงม้าที่ 4,200 รอบ/นาที มีแรงบิด
สูงสุดที่ 500 นิวตันเมตรที่ 1,600 – 1,800 รอบ/นาที อัตราเร่งจาก 0 – 100 กม./ชม. ภายในระยะเวลา 9 วินาที
ความเร็วสูงสุด 210 กม./ชม. ถ่ายทอดผ่านกำลังเกียร์อัตโนมัติเดินหน้าแบบ 7 จังหวะ 7G-TRONIC PLUS พร้อม
ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบออฟโรด

ดีไซน์ภายนอกถูกออกแบบให้มีความสดใหม่ในสไตล์ SLS DNA เสริมภาพลักษณ์ความแข็งแกร่งในสไตล์อเมริกัน ไล่ตั้งแต่
ชุดกระจังหน้าโครเมียมถูกออกแบบให้มีช่องดักลมขนาดใหญ่และยาวมากขึ้น รวมทั้งกันชนหน้าถูกออกแบบให้มี
ช่องระบายความร้อน พร้อมด้วยไฟ daytime แบบ LED ดีไซน์ใหม่ สำหรับการขับขี่ในเวลากลางวัน ในขณะที่
รูปทรงด้านข้างถูกออกแบบให้โค้งมนสื่อถึงสไตล์สปอร์ตที่เปี่ยมไปด้วยพลัง

ตั้งแต่เส้นโค้งของเสา C-pillar ซึ่งให้ความแตกต่างจากรถยนต์ SUV ทั่วไป ส่วนด้านหลังเพิ่มความหรูหราจากเดิม
โดยออกแบบให้โค้งต่ำลาดเอียงไปกับหลังคาสปอยเลอร์ที่แฝงไฟเบรกดวงที่ 3 พร้อมทั้งกันชนหลังที่ใหญ่และ
ดูแข็งแกร่งมากขึ้นซึ่งมาพร้อมกับไฟท้ายดีไซน์ใหม่แบบ LED ที่ใช้เทคโนโลยีไฟเบอร์ออพติก นอกจากนั้นยังมี
หลังคาแบบ Panoramic sunroof ซึ่งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานเฉพาะรุ่น เพื่อเพิ่มความปลอดโปร่ง ดูดีมีสไตล์
และทันสมัยมากขึ้น

พื้นที่ภายในห้องโดยสารที่กว้างขึ้นกว่ารุ่นก่อน โดยพื้นที่ด้านหน้ากว้างขึ้นอีก 34 มม. ส่วนด้านหลังกว้างขึ้นอีก
25 มม. ซึ่งได้รับการออกแบบตามหลักสรีระศาสตร์ ไฟเรืองแสงรายล้อมรอบลายไม้ รวมทั้งแผงหน้าปัดใหม่
ดูโฉบเฉี่ยว ทันสมัย สะท้อนสายพันธุ์สปอร์ตด้วยวัสดุตกแต่งชั้นดี

แผงคอนโซลกลางถูกออกแบบให้ดูโดดเด่น ง่ายต่อการใช้งาน บวกกับพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบ 4 ก้านหุ้มด้วย
หนัง Nappa และระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Steering-wheel gearshift paddles) อีกทั้งเบาะนั่งที่ให้
ความรู้สึกนุ่มสบาย นอกจากนั้นยังมีระบบมัลติมีเดีย COMAND Online ซึ่งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานเฉพาะรุ่น
เพื่อสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตให้ความเพลิดเพลินบันเทิงใจขณะขับขี่

ระบบความปลอดภัยของ Mercedes-Benz M-Class ก็จัดเต็มไม่แพ้กัน โดยผสานแนวคิดในเชิงป้องกันก่อนเกิดเหตุ
 (active safety) และเชิงปกป้องเมื่อเกิดเหตุ (passive safety) เพื่อให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้รับความปลอดภัย
สูงสุดไม่ว่าจะเป็นระบบปกป้องก่อนเกิดเหตุ PRE-SAFE® ซึ่งมีเพียงแบรนด์เดียวในโลกโปรแกรมควบคุมการ
ทรงตัวอัตโนมัติ ESP (Electronic Stability Program) ที่จะช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถรักษาทิศทางและการทรงตัว
ของรถได้อย่างปลอดภัยในสถานการณ์คับขัน

ระบบควบคุมการยึดเกาะถนนทั้ง 4 ล้อ 4ETS ระบบตั้งความเร็วขณะลงเขา DSR ระบบช่วยเบรก BAS
(Brake Assist) ที่จะทำงานร่วมกับระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ABS  (Anti-lock braking system)
ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่  (ATTENTION ASSIST) ระบบเตือนแรงดันลมยาง  
รวมทั้งระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Adaptive Highbeam Assist) และระบบส่องสว่างอัจฉริยะ
(Intelligent Light System – ILS) ที่สามารถปรับระดับการส่องสว่างโดยอัตโนมัติตามสภาพเส้นทาง

All New Mercedes-Benz M-Class ถูกนำเข้ามาเพียงแค่รุ่นย่อยเดียวคือ ML 250 CDI BlueEFFICIENCY 4MATIC
แต่สามารถแบ่งออกได้เป็นสองเกรดย่อย ได้แก่รุ่นมาตรฐานราคา 4,499,000 บาทและ AMG Version ราคา 5,999,000 บาทซึ่งจะ
ติดตั้งชุดตกแต่ง AMG รอบคัน, ระบบ COMAND Online, หลังคาพาโนรามิคสามารถเลื่อนเปิด-ปิดได้, ระบบกัน
สะเทือนแบบอากาศ, ไฟหน้า Bi-Xenon และไฟส่องสว่างกลางวัน LED  เป็นต้น

นอกจากนี้ Mercedes-Benz ยังได้เปิดตัว Viano โฉมใหม่ ที่มาพร้อมกับดีไซน์ใหม่ทั้งภายในและภายนอก
ตอบรับกับรูปแบบการใช้ชีวิตอันทันสมัย โดยมุ่งเน้นที่ความหรูหรา ความสะดวกสบาย และความปลอดภัย
ช่วยเติมเต็มความสุขให้กับวันทำงานและวันหยุดสุดสัปดาห์ เพียบพร้อมด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานและพื้นที่ใช้สอยที่
สอดคล้องกับทุกความต้องการได้อย่างลงตัว

ภายในห้องโดยสารปลอดโปร่ง ทำให้รู้สึกได้ถึงความนุ่มสบายและผ่อนคลายไม่ว่าจะเป็นการเดินทางใกล้หรือไกล
สามารถปรับเปลี่ยนการจัดวางได้หลากหลายรูปแบบ เหนือระดับด้วยนวัตกรรมล้ำหน้า อาทิ ไฟหน้าแบบไบซีนอน
(bi-xenon) ระบบเพิ่มความส่องสว่างขณะเลี้ยวโค้ง (corner light)  ไฟ daytime แบบ LED สำหรับการขับขี่ในเวลากลางวัน
ซันรูฟแบบกระจกควบคุมด้วยระบบไฟฟ้าสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง ประตูบานเลื่อนทั้งซ้าย-ขวา เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า  
เพิ่มความสะดวกในการเข้า-ออกรถมากยิ่งขึ้นโดดเด่นด้วยระบบกันสะเทือนด้านหลังแบบ  ถุงลม พร้อมระบบควบคุมอุณหภูมิระดับอัตโนมัติที่ทำ
ให้การขับขี่เป็นไปอย่างนุ่มนวล           

Mercedes-Benz Viano มาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซล แถวเรียง 4 สูบ เทอร์โบพร้อมอินเตอร์คูลเลอร์
ความจุกระบอกสูบ 2,143 ซีซี กำลังแรงม้าสูงสุดที่ 110 กิโลวัตต์   
(150 แรงม้า) ที่ 3,800 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 330 นิวตันเมตรที่ 1,600 – 2,400 รอบ/นาที อัตราเร่งจาก 0 – 100
กม./ชม. ภายในระยะเวลา 12.2 วินาที และความเร็วสูงสุด 181 กม./ชม. ผสานการทำงานควบคู่กับเกียร์อัตโนมัติ
เดินหน้า 5 จังหวะ พร้อมแมนนวลโหมด ซึ่งทำงานได้แม่นยำและนุ่มนวลในทุกจังหวะการเปลี่ยนเกียร์

ราคา Mercedes-Benz Viano CDI222 Ambiente สนนราคาที่ 4,119,000 บาท รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว