คุณผู้อ่านคงจะได้เห็นทั้งภาพสปายช็อตรอบแล้วรอบเล่า ไปจนถึงภาพคันจริงที่ได้มีการเผยโฉมออกมา
ก่อนหน้านี้ไปแล้ว สำหรับรถยนต์สี่ประตูคูเป้จากค่ายดาวสามแฉกอย่าง Mercedes-Benz CLS ที่มาคราวนี้
ก็ได้ปล่อยภาพออกมาเพิ่มเติม รวมทั้งประกาศราคาอย่างเป็นทางการอีกด้วย
สำหรับ Mercedes-Benz CLS โฉมล่าสุด ถือเป็นการปรับโฉมแบบ Full Modelchange ทั้งคันจากรุ่นที่แล้ว
ในด้านการออกแบบ ยังเน้นความหรูหราเช่นเดิม อันเป็นเอกลักษณ์ของ Mercedes-Benz แต่ในขณะเดียวกัน
ก็มีความสปอร์ตแฝงอยู่ในตัว ในด้านการตกแต่งภายใน มีสีของห้องโดยสารภายในให้เลือกมากถึง 5 สี
และรูปแบบของเบาะหนังให้เลือกถึง 3 แบบด้วยกัน
ในส่วนของขุมพลัง Mercedes-Benz CLS ใหม่ มาพร้อมกับเครื่องยนต์ทั้งหมด 4 แบบ แบ่งเป็นเครื่องยนต์
ดีเซล 2 แบบได้แก่ ในรุ่น CLS250 CDI BlueEFFICIENCY ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 2,143 ซีซี ให้พละกำลัง
204 แรงม้า และให้อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ประหยัดสูงถึง 19.6 กิโลเมตร/ลิตร และในรุ่น CLS350 CDI
BlueEFFICIENCY ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบ DOHC 2,987 ซีซี ให้พละกำลัง 265 แรงม้า นอกจากนี้ ยังมี
เครื่องยนต์เบนซินอีกหนึ่งรุ่น ได้แก่รุ่น CLS350 BlueEFFICIENCY ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบ 3,498 ซีซี
ให้พละกำลังมากถึง 306 แรงม้าเลยทีเดียว โดยในช่วงแรกที่ทำตลาด จะทำตลาดในรุ่น CLS350 BlueEFFICIENCY
และรุ่น CLS350 CDI BlueEFFICIENCY และภายในอีกสองเดือน จึงจะนำรุ่น CLS250 CDI BlueEFFICIENCY
ทำตลาดต่อไป
และสำหรับรุ่นที่เรียกได้ว่าเป็น Top of the line ของ Mercedes-Benz CLS ก็คือ Mercedes-Benz CLS 500
BlueEFFICIENCY ซึ่งจะใช้เครื่องยนต์เบนซิน V8 ที่ให้พละกำลังมากมายมหาศาลถึง 408 แรงม้าเลยทีเดียว
ส่วนกำหนดทำตลาดของรถรุ่นนี้จะอยู่ในช่วงเดือนธันวาม 2010 และที่สำคัญ ในทุกรุ่นเครื่องยนต์ทั้งหมด 4 รุ่น
จะพ่วงด้วยเกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ “7G-TRONIC PLUS” และระบบ ECO start/stop เป็นอุปกรณ์มาตรฐานใน
ทุกรุ่น เพื่อเพิ่มความประหยัดน้ำมัน
ในด้านระบบพวงมาลัย เป็นระบบพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้าแบบ electromechanical Direct-Steer system
ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ให้มีความแม่นยำในขณะเลี้ยวมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีระบบ Active Parking Assist
หรือระบบช่วยถอยจอดอัตโนมัติ ซึ่งระบบนี้ ไม่เพียงแต่จะช่วยในการหาที่จอดรถที่ว่างเท่านั้น แต่ยังสามารถ
ช่วยถอยรถเข้าที่จอดให้ด้วย โดยจะว่าไปแล้ว ระบบนี้ก็เหมือนกับระบบช่วยจอดใน Toyota Prius นั่นเอง
ด้านระบบความปลอดภัย ก็ยังคงใส่มาให้แบบเต็มพิกัด ได้แก่ ระบบ Active Blind Spot Assist ที่ช่วยเตือน
ในกรณีที่รถยนต์ด้านข้างวิ่งขึ้นมาแล้วอยู่ในมุมอับซึ่งผู้ขับขี่ไม่สามารถมองเห็นได้ และยังมีระบบ Active Lane
Keeping Assist ที่ช่วยเตือนผู้ขับขี่ให้รักษาตัวรถให้อยู่ในช่องการจราจร ส่วนระบบที่จัดเป็นมาตรฐานของ
Mercedes-Benz ไปแล้วคือ ระบบ PRE SAFE ซึ่งเป็นระบบที่ช่วยปกป้องผู้ขับขี่ก่อนการเกิดอุบัติเหตุในช่วง
เวลาแค่เสี้ยววินาที กระจกหน้าต่างจะปิดขึ้นอย่างรวดเร็ว พนักพิงปรับระดับให้พร้อมกับการปะทะ เข็มขัดนิรภัย
รัดตรึงตัวของผู้ขับขี่และผู้โดยสารเอาไว้ เพื่อเตรียมพร้อมกับการชน โดยจะช่วยให้เกิดการบาดเจ็บแก่ผู้ขับขี่
และผู้โดยสารให้น้อยที่สุด
และอีกหนึ่งความปลอดภัยที่มีการปรับปรุงเล็กน้อยคือในส่วนของไฟหน้า ไฟหน้าแบบ Daytime Running Light
จะใช้เป็นแบบ LED เพื่อความปลอดภัยและให้เพื่อนร่วมทางได้เห็นชัดเจน ส่วนของไฟหน้าปกติ จะเป็นแบบ
Bi-Xenon แบบโคมโปรเจกเตอร์ และยังมีไฟ LED ล้อมรอบอีกทั้งหมด 71 ดวง เพื่อความปลอดภัยและเพิ่มความ
ชัดเจนของทัศนวิสัยที่ดี
สำหรับราคาที่ได้เคาะออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้วในรุ่น CLS250 CDI BlueEFFICIENCY ราคาอยู่ที่ 59,857 ยูโร
หรือราวๆ 2.4 ล้านบาท ในรุ่น CLS 350 CDI BlueEfficiency ราคาอยู่ที่ 63,427 ยูโร หรือราวๆ 2.54 ล้านบาท
ในรุ่น CLS 350 BlueEfficiency ราคาอยู่ที่ 64,617 ยูโร หรือราวๆ 2.59 ล้านบาท และถ้าหากใครที่คิดว่ารถของ
ตนยังสวยไม่พอ ทาง Mercedes-Benz ก็ขอภูมิใจเสนอแพ็คเกจตกแต่งรถในชื่อ “Edition 1” ซึ่งตัวรถจะเป็น
สีเทา Manganite แบบด้าน (Manganite เป็นชื่อของแร่ชนิดหนึ่งที่มีส่วนประกอบคือ manganese oxide-hydroxide)
เบาะหนังเป็นแบบสีมุกเมทัลลิก แป้นเหยียบคันเร่งและเบรคอลูมิเนียม และพรมปูพื้นแบบพิเศษ ทั้งหมดนี้ เพิ่มเงิน
เพียงแค่ 6,664 ยูโร หรือราว 2.66 แสนบาทเท่านั้น และถ้าหากอัพเกรดขึ้นไปเป็นชุดแต่ง AMG Carbon ก็เพิ่มเงิน
อีก 10,115 ยูโร หรือราวๆ 4.05 แสนบาท
สำหรับกำหนดวางจำหน่ายคือเดือนมกราคม ปี 2011 และกำหนดส่งมอบรถให้กับลูกค้าล็อตแรกคือเดือนเมษายนปีเดียวกัน
ใครเป็นที่แฟนพันธุ์แท้ Mercedes-Benz เตรียมเก็บเงินรอได้เลย
———————————————-//———————————————-
source:Daimler AG