วันนี้ (18 มีนาคม 2014) Mazda ประเทศไทยก็เพิ่งสร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับวงการ C-Segment เมืองไทยให้เขย่า
ตลาดเมืองไทยอีกครั้งด้วยการเปิดตัว All New Mazda 3 ที่ติดตั้งเทคโนโลยี SkyActiv ใหม่หมดจดทั้งคันตามหลัง CX-5
ไปได้ไม่นานนัก ไฮไลต์สำคัญคงไม่ได้อยู่ที่ความสวยหรือเทคโนโลยีการขับขี่อันเป็นหัวใจหลัก แต่ Mazda กล้าแก้เกมส์
ใหม่ด้วยการจับเครื่องยนต์ 2.0 ลิตรมาหั่นออพชั่นพร้อมกับปรับราคาลงมาสู้กับคู่แข่ง C-Segment เครื่องยนต์ 1.6 – 1.8
ลิตรโดยตรง มาในราคาเริ่มต้นเพียง 833,000 บาท (อ่านไม่ผิดหรอกครับ ราคาแปดแสนกว่าก็ได้เครื่อง 2.0 ลิตรกันแล้ว
แถมเป็นเกียร์อัตโนมัติลูกใหม่ด้วย)

นายโชอิชิ ยูกิ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “รถยนต์นั่งสปอร์ตคอมแพ็ค
Mazda3 ใหม่ นับเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่งของมาสด้า เพราะได้รับ การกล่าวขวัญว่าเป็นรถญี่ปุ่นที่มีคุณภาพ
เหนือกว่ารถยุโรปชั้นนำหลายรุ่น โดยประสบความสำเร็จ ด้านยอดขายและคว้ารางวัลมาแล้วทั่วโลก รวมถึงเป็นรถยนต์
จากญี่ปุ่นเพียงรายเดียวที่สามารถเข้าไปติด 1 ใน 3 สำหรับรางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมของโลก และการเข้าชิงรถยนต์ที่มีการ
ออกแบบยอดเยี่ยมของโลก ซึ่งการเปิดตัว Mazda3 เป็นครั้งแรกในเมืองไทยนี้ เชื่อมั่นว่าจะประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี
เพราะเป็นรถที่คุณภาพเหนือกว่าคู่แข่งในทุกๆ ด้าน และถือเป็นรถยนต์คุณภาพที่ผู้บริโภครอคอยมากที่สุด ผมเชื่อมั่นว่า
มาสด้า3 ใหม่จะเป็นส่วนสำคัญในการสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์มาสด้าในประเทศไทย อีกทั้งเป็นกำลังขับ
เคลื่อนที่สำคัญสำหรับธุรกิจในอนาคตของมาสด้า”

Mazda 3 โฉมใหม่ถือเป็นการพลิกหน้าประวัติศาสตร์ C-Segment เพราะ Mazda เล่นฉีกขนบธรรมเนียมของตลาด
C-Segment ให้ป่นปี้ด้วยการนำเครื่องยนต์ SkyActiv 2.0 ลิตร ที่เหนือชั้นทางด้านสมรรถนะกว่า 1.8 ลิตร และที่สำคัญ
Mazda ก็มั่นใจว่าเครื่องยนต์ 2.0 ลิตรของตนจะสมรรถนะดีกว่าและ “ประหยัดน้ำมัน” กว่าเครื่องยนต์ 1.6 ลิตรของคู่แข่ง

Mazda ยังกล่าวว่า ลูกค้ามีความต้องการรถยนต์ที่สามารถตอบสนองได้ทั้งสมรรถนะการขับขี่ที่สมบูรณ์แบบ ขนาดของ
ห้องโดยสารที่เหมาะสม อัตราการประหยัดน้ำมัน รวมทั้งสะท้อนภาพลักษณ์ของ ผู้ขับขี่ ทั้งนี้ ตลาดนี้เป็นตลาดขนาด
ใหญ่มีฐานลูกค้าที่กว้างและมีประวัติศาสตร์ยาวนาน และมีการแข่งขันสูง

และด้วยความโดดเด่นของ All New Mazda 3 ใหม่ที่สามารถตอบโจทย์ตลาดตามวัตถุประสงค์ดังกล่าวจึงทำให้ Mazda
กล้าตั้งยอดขายในรอบ 1 ปีสูงถึง 13,000 คัน ถือเป็นเป้ายอดขาย C-Segment สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Mazda
เมืองไทย

นางสาวสุรีทิพย์ ละอองทอง โฉมทองดี รองประธานกรรมการบริหารฝ่ายการตลาด กล่าวว่า สำหรับมาสด้า3 ใหม่นี้
มาสด้าได้วางกลยุทธ์ตำแหน่งผลิตภัณฑ์ ให้เป็นรถสปอร์ตระดับพรีเมียมคาร์ ที่โดดเด่นด้วยดีไซน์ล้ำสมัย ให้สมรรถนะ
พลังแรง ให้ความปลอดภัยสูงสุดและประหยัดน้ำมันเลิศ สะท้อนภาพลักษณ์ของผู้ขับขี่ ถือเป็นการอุดช่องว่างความ
ต้องการของลูกค้าในปัจจุบันที่มีความต้องการใช้รถยนต์ญี่ปุ่นที่มีความหรูหรา ซึ่งรถมาสด้า3 ใหม่ เป็นรถยนต์นั่งขนาด
กลางที่เหมาะสมกับลูกค้าที่กำลังมองหารถญี่ปุ่นที่มีสเปคสูง เป็นทางเลือกที่ลงตัวระหว่างรุ่นท็อปของรถญี่ปุ่นและรุ่น
เริ่มต้นของรถยุโรป

All New Mazda 3 ใหม่ถูกออกแบบภายใต้แนวคิด Kodo Design ที่มาพร้อมกระจังหน้าที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ
Signature Wing ทรง 5 เหลี่ยม ที่ลากเส้นยาวไปถึงไฟหน้าทั้งสองข้าง จากการขึ้นรูปตัวถังและพื้นผิวด้านข้างที่ดูมีความ
โฉบเฉี่ยวแต่แข็งแรง ตั้งแต่โป่งล้อด้านหน้าจรดไฟท้ายที่สอดรับกับเส้นสายด้านข้าง ตัวถังให้ความปราดเปรียวคล่องแคล่ว
และมีพลังซ่อนเร้น โดดเด่นด้วยล้ออัลลอยด์ขนาด 16” และ 18”

All New Mazda 3 ใหม่เป็นรถรุ่นแรกที่ติดตั้งระบบแสดงข้อมูลการขับขี่แบบใหม่ล่าสุดของ Mazda : Active Driving
Display ที่แสดงผลด้วยจอเปิด-ปิด อัตโนมัติที่จัดวางอยู่ในตำแหน่งเหนือมาตรวัดมาตรฐาน โดยจะแสดงข้อมูลความเร็ว
รถ ข้อมูลการนำทาง และข้อมูลการขับขี่อื่นๆ ที่สำคัญ สามารถแสดงข้อมูลที่จำเป็นในการขับขี่อย่างง่ายดายและสะดวก
ปลอดภัย โดยข้อมูลที่แสดงบนจอจะอยู่ในระดับสายตาของผู้ขับขี่อย่างเป็นธรรมชาติ จอแสดงผลแบบใหม่นี้จะถูกพับเก็บ
โดยอัตโนมัติเมื่อดับเครื่องยนต์

การออกแบบมาตรวัดการขับขี่ด้วยการวางตำแหน่งมาตรวัดแบบอนาล็อค (Analogue) ตรงกึ่งกลาง และมีมาตรวัดแบบ
ดิจิตอลแบบปีกอยู่ด้านข้างทั้งสองด้าน เข็มแสดงผลของมาตรวัดตรงกลางถูกรายล้อมด้วยลักษณะตัวเลขแบบสามมิติที่
สร้างความน่าสนใจในรายละเอียด วงแหวนด้วยแสงสีแดงรอบมาตรวัดจะปรากฏขึ้นทันทีที่ปิดประตูรถ ส่งสัญญาณถึง
ความสปอร์ตอย่างแท้จริง แผงอุปกรณ์ควบคุมและคอนโซลที่ตกแต่งด้วยวัสดุซาตินสีเงินจากมาตรวัดแสดงข้อมูลการขับขี่
การตกแต่งด้วยวัสดุสีดำเงาเปียโนช่วยให้คอนโซลกลางและแผงประตูด้านหน้าดูมีมิติสวยงาม

ระบบเชื่อมต่อโลกออนไลน์ MZD Connect จะเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่านบลูทูธ (Bluetooth) สามารถอัพเดทโปรแกรม
ได้อย่างง่ายดายเพื่อให้แน่ใจว่าผู้ใช้สามารถได้รับบริการเวอร์ชั่นล่าสุด ในส่วนของระบบเครื่องเสียง การรับฟังทางวิทยุ
AM/FM CD USB และ AUX ยังเป็นช่องทางที่มีไว้ให้เลือกอย่างครบครัน นอกเหนือจากนั้น สามารถเล่นแอบพลิเคชั่นบน
อินเตอร์เน็ทได้นั่นคือ Aha™ โดย HARMAN

อีกทั้งระบบสามารถอ่านข้อความสั้น SMS ที่ได้รับเป็นภาษาอังกฤษให้ผู้ใช้ได้รับฟังโดยผ่านเทคโนโลยี Text-to-voice
ในขณะที่รถเคลื่อนที่ ยิ่งไปกว่านั้นระบบสามารถรับและส่งข้อความสั้น SMS ผ่านการแสดงผลบนหน้าจอระบบสัมผัส การ
เขียนปรับแต่งข้อความที่จะส่งสามารถทำได้บนหน้าจอ รวมทั้งสามารถเลือกใช้หรือตั้งค่าข้อความหรือวลีที่ใช้บ่อยได้เพื่อ
ความสะดวกรวดเร็ว ระบบสั่งงานด้วยเสียงด้วยภาษาอังกฤษสามารถสั่งให้เล่นเพลงซ้ำหรือเลือกเพลงให้แบบสุ่มเลือกหรือ
แบบ Shuffle รวมถึงการสั่งให้ค้นหาหรือเลือกอัลบั้มเพลง ในขณะที่ระบบเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน ผู้ใช้สามารถเพลินเพลิด
กับการเล่น เฟสบุ๊ค (Facebook) โดยสามารถเลือกให้ระบบอ่านข้อความภาษาอังกฤษที่ได้รับให้ฟังได้ และสามารถส่ง
ข้อความเสียงผ่านระบบ Shout นอกเหนือจากนั้นผู้ใช้สามารถค้นหาตำแหน่งสถานที่ผ่านอินเตอร์เน็ทเพื่อหาแผนที่นำทาง
ระบบนำทาง (Navigation) ผ่าน SD card เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรุ่น Mazda3 2.0 SP Sports และเป็นอุปกรณ์เสริม
ให้เลือกในรุ่นอื่น

ขุมพลังเครื่องยนต์ Skyactiv-G 2.0 ยกมาจาก CX-5 ปรับให้รองรับ E85 ให้กำลัง 165 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ และให้
แรงบิดสูงสุด 210 Nm ที่ 4,000 รอบ แรงว่าเครื่องเดิม แถมประหยัดขึ้นอีก 20% ถ่ายกำลังลงสู่ล้อคู่หน้า ด้วยเกียร์
Skyactiv 6 Speed

เทคโนโลยี SKYACTIV-BODY และ SKYACTIV-CHASSIS ช่วยให้ ตัวรถมีการกระจายน้ำหนักที่สมดุลมีเสถียรภาพในการ
ทรงตัวทำให้เกิดสมรรถนะการขับขี่ที่ดี เกาะถนน ที่ผู้ขับขี่สามารถรู้สึกถึงความสมดุลนี้ได้ SKYACTIV-BODY ช่วยเพิ่ม
ความแข็งแกร่งของโครงสร้างตัวถังมากขึ้น 30% เมื่อเทียบกับรถมาสด้า3 เจนเนอเรชั่นที่แล้วในขณะที่มีน้ำหนักน้อยลง
ด้วย

พื้นผิวสัมผัสของหน้ายางกับพื้นถนนได้พัฒนาเพิ่มมากขึ้นเป็นอย่างมากด้วยการปรับแต่งระบบช่วงล่าง ชุดสปริง ระบบ
รองรับการสะเทือน เหล็กกันโคลง กับเทคโนโลยีระบบบังคับเลี้ยวใหม่ผ่อนแรงด้วยกำลังไฟฟ้า Mazda Mechatronic
Column-type Electric Power Assist Steering System ที่มีกลไกที่กะทัดรัดและมีน้ำหนักเบาด้วยอัตราทด 14.1:1
ระบบเบรกที่ตอบสนองแม่นยำมากขึ้นทำให้เกิดการควบคุมรถที่ดีเยี่ยมสามารถรู้สึกได้ ระยะเบรกรถดีที่สุดเมื่อเทียบกับรถ
ในระดับเดียวกัน การพัฒนาดังกล่าวทำให้ช่วยลดแรงต้านและการโคลงตัวของรถ รวมทั้งช่วยให้ประหยัดน้ำมันมากยิ่งขึ้น

เทคโนโลยีใหม่ i-ACTIVSENSE ซึ่งประกอบไปด้วย
• ระบบเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดที่สายตาผู้ขับมองไม่เห็น Rear Vehicle Monitoring (RVM)
ระบบจะช่วยเตือนภัยจากวัตถุที่เคลื่อนเข้ามาจากด้านหลังและด้านข้างที่เป็นจุดบอดจากการมองเห็นในขณะขับขี่
• ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติ Smart City Brake Support (SCBS)
ในขณะขับขี่ที่ความเร็ว 4-30 กม/ชม ระบบ SCBS จะช่วยป้องกันโอกาสในการชนปะทะ โดยเมื่อชุดเลเซอร์เซนเซอร์
ด้านหน้าตรวจจับวัตถุสิ่งกีดขวาง ระบบจะทำการคำนวณความเสี่ยงในการเกิดการชนปะทะ และจะสั่งการไปที่แป้นเบรก
ให้กดตัวลงในทันทีเพื่อทำการหยุดรถเมื่อผู้ขับขี่มิได้มีการบังคับหยุดรถเพื่อหลีกเลี่ยงการชนปะทะในขณะนั้น

All New Mazda 3 มีสีให้เลือก 7 สี ได้แก่

สีแดง โซลเรด
สีน้ำตาล ไททาเนียมแฟลช
สีฟ้า กันเมทัลบลู
สีเงิน อลูมินัม เมทัลลิก
สีดำ แบล็กไมก้า
สีขาวมุก สโนว์เฟลค ไวท์เพิร์ล
สีเทา เมโทรโพลิทัลเกรย์

ราคาจำหน่าย All New Mazda 3 อย่างเป็นทางการ

Mazda3 รุ่น E Sedan 4 ประตู เกียร์อัตโนมัติ ราคาจำหน่าย 8.33 แสนบาท
Mazda3 รุ่น C Sedan 4 ประตู เกียร์อัตโนมัติ ราคาจำหน่าย 9.14 แสนบาท
Mazda3 รุ่น S Sedan 4 ประตู เกียร์อัตโนมัติ ราคาจำหน่าย 9.74 แสนบาท
Mazda3 รุ่น E Sports Hatchback 5 ประตู เกียร์อัตโนมัติ ราคาจำหน่าย 8.33 แสนบาท
Mazda3 รุ่น C Sports Hatchback 5 ประตู เกียร์อัตโนมัติ ราคาจำหน่าย 9.14 แสนบาท
Mazda3 รุ่น S Sports Hatchback 5 ประตู เกียร์อัตโนมัติ ราคาจำหน่าย 9.74 แสนบาท
Mazda3 รุ่น SP Sports Hatchback 5 ประตู เกียร์อัตโนมัติ ราคาจำหน่าย 1.094 ล้านบาท

ลูกค้าสามารถเยี่ยมชมและทดลองขับ All New Mazda 3 ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป