Volkswagen ก่อเรื่องฉาวอีกระลอก ซึ่งถือเป็นบทใหม่แยกจากมหากาพย์ดีเซลฉาวก่อนหน้านี้ โดยบริษัทได้นำรถยนต์ Pre-Production จำนวนหลายพันคันมาลักลอบขายให้ลูกค้าในหลายประเทศ ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วรถยนต์เหล่านี้ต้องทำลายทิ้ง เนื่องจากถือว่ายังเป็นผลิตภัณฑ์ ที่อยู่ในขั้นตอนทดสอบการผลิตเท่านั้น
ความผิดในครั้งนี้ถูกเปิดเผยหลัง Volkswagen ออกมายอมรับเองว่า ตนได้นำรถยนต์ Pre-Production มาจำหน่ายให้ลูกค้าในยุโรป และ อเมริกาเหนือ ตั้งแต่ปี 2006 – 2018 คิดเป็นจำนวนราว 6,700 คัน ทั้งในรูปแบบของรถยนต์ใหม่ และ รถยนต์ใช้แล้ว ทั้งนี้เรื่องดังกล่าวถือว่าทำได้ หากมีการแจ้งให้ทางการ ผู้จำหน่าย และ ลูกค้า ทราบเงื่อนไขการผลิตพร้อมแจกแจงว่า มีอะไรบ้างที่แตกต่างจากรถยนต์ผลิตจริง
แน่นอนว่า Volkswagen ไม่ได้ทำตามกระบวนการดังกล่าว แต่สื่อสัญชาติเยอรมันอย่าง Handelsblatt รายงานว่าได้ตรวจพบรถยนต์ VW ที่มีประวัติการผลิตไม่ชัดเจนอีกราว 9,000 คัน ซึ่งเมื่อรวมกับตัวเลขที่บริษัทออกมายอมรับ นั่นหมายความว่าอาจมีรถยนต์ Pre-Production หลุดออกมาเป็นจำนวนสูงถึง 15,000 คัน
สาเหตุที่ต้องทำลายรถยนต์ Pre-Production ทิ้ง เนื่องจากรถยนต์เหล่านี้ถูกผลิตขึ้นโดยมีมาตรฐานที่ไม่สมบูรณ์ ไม่ว่าจะด้วยเรื่องของขั้นตอนการประกอบ หรือชิ้นส่วนที่ใส่มาให้ ทำให้มีผลต่อความปลอดภัย และ หนึ่งในปัญหาของ Volkswagen คือบริษัทเองก็ไม่มีข้อมูลที่แน่ชัดว่า มีส่วนใดบ้างในรถยนต์ Pre-Production เหล่านี้ที่ไม่สมบูรณ์ เมื่อเทียบกับรถยนต์ผลิตจริง
บริษัทจึงอยู่ระหว่างการพิจารณาคืนเงินให้ลูกค้า แทนที่จะเรียกรถยนต์กลับมาตรวจสอบ เพราะถึงทำอย่างหลัง ก็อาจตรวจไม่เจอว่าต้องเปลี่ยนชิ้นใดบ้างให้สมบูรณ์แบบ ส่วนทางการของเยอรมณีได้รับทราบวีรกรรมบทใหม่ของ Volkswagen แล้วและอยู่ระหว่างการสืบสวนว่า จะดำเนินการลงโทษบริษัทนี้อย่างไรต่อดี ซึ่งผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร ต้องติดตามชมตอนต่อไป