เมื่อเดือน สิงหาคม 2018 มีความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เกิดขึ้นกับผู้แทนจำหน่าย Lamborghini ในประเทศไทย ได้เปลี่ยนมือจาก Niche Cars (นิชคาร์) มาสู่อ้อมอกของ Renazzo Motor (เรนาสโซ มอเตอร์) ในเครือ Sharich Holdings (ชาริช โฮลดิ้ง) ได้สิทธิ์ ” Lamborghini Bangkok ” จำหน่าย และ ให้บริการหลังการขายรถยนต์ Lamborghini รายเดียวในประเทศไทย

รถยนต์รุ่นแรกที่จะเปิดตัวในนามผู้แทนจำหน่ายรายใหม่ คือ ” Lamborghini URUS ” SUV สมรรถนะสูง ที่เปิดตัวครั้งแรกในโลกไปเมื่อ เดือน ธันวาคม 2017 เตรียมมาเปิดตัวอย่างเป็นทางการในไทย 26 พฤศจิกายน นี้

  • Lamborghini บอกว่า URUS เป็น Super SUV คันแรกของโลก (Supercar ในร่าง SUV)
  • URUS ทำอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ภายใน 3.6 วินาที
  • URUS ทำอัตราเร่ง 0-200 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ภายใน 12.8 วินาที
  • URUS ทำความเร็วสูงสุด Top Speed 305 กิโลเมตร/ชั่วโมง

Dimension มิติตัวรถ

  • ยาว x กว้าง x สูง : 5,112 x 2,016 x 1,638 มิลลิเมตร
  • ระยะฐานล้อ (wheelbase) : 3,003 มิลลิเมตร
  • ระยะต่ำสุดถึงพื้น (ground clearance) : 158 – 248 มิลลิเมตร (ช่วงล่างถุงลมปรับความหนืดได้- Air Suspension)
  • ที่เก็บสัมภาระด้านท้าย : 616 ลิตร (เมื่อพับเบาะหลัง เพิ่มเป็น 1,596 ลิตร)
  • น้ำหนักตัวรถประมาณ 2,200 กิโลกรัม

Engine เครื่องยนต์

เครื่องยนต์เบนซิน V8 ขนาด 4.0 ลิตร 3,996 ซีซี. Bi-Turbo Twin-scroll กำลังสูงสุด 659 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 850 นิวตันเมตร ที่ 2,250 – 4,500 รอบ/นาที (Redline ที่ 6,800 รอบ/นาที) จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ขับเคลื่อน 4 ล้อ (with front differential, center differential แบบ Torsen และ active torque vectoring rear differential) ความจุถังน้ำมัน 85 ลิตร ปล่อย CO2 : 290 g./km.

  • ล้อคู่หน้า ขนาด 21 นิ้ว 9.5 J x 21 นิ้ว ET28 พร้อมยาง 285/45 ZR21
  • ล้อคู่หลัง ขนาด 21 นิ้ว 10.5 J x 21 นิ้ว ET18 พร้อมยาง 315/40 ZR21
  • ระบบเบรกคู่หน้า 10 pots Carbon Ceramic เส้นผ่านศูนย์กลาง 440 มิลลิเมตร ความหนา 40 มิลลิเมตร
  • ระบบเบรกคู่หลัง Carbon Ceramic เส้นผ่านศูนย์กลาง 370 มิลลิเมตร ความหนา 30 มิลลิเมตร

โครงสร้างแชสซีส์

Lamborghini URUS ถูกพัฒนาขึ้นบนแพลตฟอร์ม MLB Evo Platform เช่นเดียวกันกับ Audi Q7 และด้วยความตั้งใจความทีมวิศวกรออกแบบและพัฒนา ที่มุ่งหวังการลดน้ำหนักทั่วทั้งโครงสร้างตัวรถ เพื่อให้มีสมรรถนะการขับขี่โดยรวมที่ดี จึงมีการออกแบบ และเลือกใช้วัสดุโลหะผสม และเหล็กกล้า ทำให้มีน้ำหนักตัวรถต่ำกว่า 2,200 กิโลกรัม

ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ และ torque vectoring

ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ สามารถกระจายกำลังสู่ล้อคู่หน้า และ คู่หลัง 40/60 ในการขับขี่แบบปกติ นอกจากนั้น หากต้องการแรงเสียดทานที่เพลา Differential Lock ก็ยังสามารถกระจายกำลังไปยังล้อคู่หน้า ได้สูงสุด 70% และล้อคู่หลัง ได้สูงสุด 87%

ระบบ Active Torque Vectoring ที่ช่วยกระจายแรงบิดสู่ล้อแต่ละล้อ เพื่อให้สามารถเข้าโค้งได้แม่นยำขึ้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับโหมดการขับขี่แต่ละรูปแบบด้วย เช่น ในโหมด STRADA, TERRA และ NERVE ระบบจะกระจายแรงบิดไปยังล้อด้านนอกมากกว่าด้านใน เพื่อลดอาการ understeer และในโหมด SPORT และ CORSA ระบบจะกระจายแรงบิดไปยังล้อแต่ล้อ เพื่อยอมให้รถมีอาการ oversteer เพิ่มความสนุกสนาน เร้าใจให้ผู้ขับขี่

ระบบบังคับเลี้ยว 4 ล้อ

ระบบบังคับเลี้ยว 4 ล้อ ที่เคยใช้กับ Aventador S ก็ถูกนำมาติดตั้ง URUS ด้วยเช่นกัน โดยจะมีการทำงานแตกต่างกันในช่วงความเร็วต่ำ และ ความเร็วสูง ขึ้นอยู่กับโหมดการขับขี่ ในช่วงความเร็วต่ำ องศาการเลี้ยวของล้อคู่หลังจะแปรผกผัน กับล้อคู่หน้า สูงสุด 3 องศา เพื่อช่วยให้รัศมีวงเลี้ยงแคบลง และในช่วงความเร็วสูง องศาการเลี้ยวของล้อคู่หลังจะแปรผันตรง กับล้อคู่หน้า สูงสุด 3 องศา เพื่อช่วยให้การเข้าโค้งมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น

Tamburo โหมดการขับขี่ 6 รูปแบบ

โหมดการขับขี่ ANIMA สามารถเลือกใช้ตามลักษณะพื้นผิวถนน หรือ รูปแบบการขับขี่ ดังนี้

  • STRADA ใช้ขับแบบปกติ หรือเทียบเท่า Normal-Comfort ของค่ายอื่น ความสูงของตัวรถจะถูกปรับโดยอัตโนมัติ ให้เหมาะสมกับความเร็ว เพื่อเพิ่มความนุ่มสบาย
  • SPORT ความสูงของตัวรถจะถูกปรับลงมาในระดับต่ำสุด เพื่อให้มีเสถียรภาพ และความแม่นยำ ในการบังคับควบคุม
  • CORSA โหมดเล่นแรง สับเกียร์กระชาก ช่วงล่างแข็ง เสียงท่อดัง ระบบควบคุมการทรงตัวจะยอมให้รถเสียอาการเล็กน้อย
  • TERRA (off-road)
  • NEVE (snow)
  • SABBIA (sand)

ในส่วนของโหมดการขับขี่แบบ off-road ทั้ง 3 แบบ (TERRA, NERVE, SABBIA) ตัวรถจะถูกยกสูงขึ้น เพื่อเพิ่มระยะ ground clearance และเพิ่มการทำงานของ anti-roll bar และ เพื่อเอาใจลูกค้าที่ชอบปรับแต่งการตอบสนองของส่วนต่างๆ ในรถตัวเอง ตามแบบที่ตัวเองชอบ ก็สามารถทำได้ในโหมด EGO ระบบกันสะเทือนถูกปรับตั้งมา ให้ damper valve สามารถทำงานร่วมกันได้ เพื่อให้สอดคล้องกับรูปแบบการขับขี่ ทั้งแบบ ANIMA และโหมด EGO

ราคาจำหน่ายเริ่มต้นของ Lamborghini URUS ในประเทศต่างๆมีดังนี้ (ยังไม่รวมภาษีของประเทศไทย)

  • ยุโรป ราคาเริ่มต้น EUR 171,429 (ประมาณ 6,632,000 บาท)
  • อิตาลี ราคาเริ่มต้น EUR 168,852 (ประมาณ 6,532,000 บาท)
  • อังกฤษ ราคาเริ่มต้น GBP 131,500 (ประมาณ 5,771,000 บาท)
  • สหรัฐอเมริกา ราคาเริ่มต้น USD 200,000 (ประมาณ 6,516,000 บาท)
  • จีน ราคาเริ่มต้น RMB 3,130,000 (ประมาณ 15,416,000 บาท)
  • ญี่ปุ่น ราคาเริ่มต้น YEN 25,740,000 (ประมาณ 7,456,000 บาท)

ต้องรอชมกันว่า Renazzo Motor (เรนาสโซ มอเตอร์) ในเครือ Sharich Holdings (ชาริช โฮลดิ้ง) จะวางราคาของ Lamborghini URUS ที่รวมภาษีของประเทศไทยเอาไว้ที่เท่าไหร่ ติดตามชมได้วันจันทร์ที่ 26 พฤศจิกายน นี้


แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่ >> community.headlightmag.com/68238.0