Honda ประเทศไทยมักเป็นเสือปืนไวในการนำรถรุ่นใหม่เข้ามาประกอบตามหลังตลาดโลกเสมอ ๆ ทิ้งห่างคู่แข่งที่ต้วมเตี้ยมไปไกล และเป็นเหตุผลสำคัญที่แบรนด์ Honda นั้นสดใสใหม่อยู่เสมอเพราะเราได้ใช้รถใหม่พร้อมกับตลาดโลก ไม่ดองค้างปีเหมือนบางค่าย

เราก็ต้องขอขอบคุณ Honda Motor ประเทศญี่ปุ่นที่มอบนโยบาล Global Honda ที่เร่งเตรียมงานกันในหลายประเทศทำให้ได้ใช้รถกันเร็ว ๆ หลายรุ่น (แต่ถ้าใส่ใจขั้นตอนการประกอบให้ดีกว่านี้จะประเสริฐยิ่งขึ้นครับ)

 
 

Honda CR-V เจเนเรชั่นที่ 3 ก็เข้ากฏเกณฑ์นี้เช่นกันเพราะมันเปิดตัวครั้งแรกในเดือนพฤศจิกายน 2006 ตามหลังตลาดโลกแค่ 2 เดือนเท่านั้น รีบเปิดตัวเร็วขนาดนี้แต่ Honda ก็พยายามควบคุมคุณภาพจนถึงที่สุดเพื่อมิให้เกิดปัญหาเหมือนเจเนเรชั่นที่ 2 อันลือลั่น

เมื่อกาลเวลาผ่านไปนานถึง 3 ปี CR-V ก็ถึงกาลสมควรแต่งหน้าทาปากเสียใหม่แล้วครับ Honda จึงเปิดตัว CR-V Minorchange อัพเดทให้ดูดีและคุ้มราคามากขึ้นภายในงาน Motor Expo 2009 ตามหลังตลาดโลกแค่ 2 เดือนตามเคย

ความเปลี่ยนแปลงภายนอกของ CR-V Minorchange ที่เด่นชัดคือชุดกระจังหน้าและกันชนหน้าที่ดูสปอร์ต แผงความหรูหราและแข็งแกร่งมากขึ้นพร้อมไฟตัดหมอก (โดยส่วนตัวผมว่ากระจังหน้าใหม่มันทำให้รถดูดีขึ้นนะครับ) กันชนท้ายที่ดูดีขึ้นเล็กน้อย  และเปลี่ยนลายล้อแมกซ์ใหม่ขนาด 17 นิ้ว รุ่น 2.0 จะได้ลาย 7 ก้าน ส่วนรุ่น 2.4 จะได้ลาย 5 ก้าน

ขนาดตัวถังยังคงไม่แตกต่างจากของเดิมนักด้วย ความยาว 4,565 มม. ความกว้าง 1,820 มม. ความสูง 1,680 มม. ฐานล้อยาว 2,620 มม. ความสูงใต้ท้องรถ 185 มม. น้ำหนักตัวรถระหว่าง 1,505 – 1,606 มม.แล้วแต่รุ่นย่อย

 
 

ส่วนภายในทุกรุ่นย่อยก็ถูกปรับปรุงดีไซน์ใหม่เล็กน้อยด้วยมือจับเปิดประตูคู่หน้าดีไซน์ใหม่ ระบบเครื่องเสียงดีไซน์ใหม่ ภายในก็มีทั้งสีดำและสีเบจตามแต่สีตัวถังภายนอกครับ

งานวิศวกรรมยังคงไว้เช่นเคยด้วยเครื่องยนต์ R20A บล๊อก 4 สูบ SOHC 16 วาล์ว 1,997 ซีซี วาล์วแปรผัน i-VTEC 150 แรงม้า (PS) ที่ 6,200 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 19.4 กิโลกรัมเมตรที่ 4,200 รอบต่อนาที

ถ้าอยากจะแรงขึ้นอีกนิดก็เลือกเครื่องยนต์ K24A บล๊อก 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 2,354 ซีซี วาล์วแปรผัน i-vtec 170 แรงม้า (PS) ที่ 5,800 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 22.4 กิโลกรัมเมตรที่ 4,200 รอบต่อนาที

เครื่องยนต์ทั้งคู่ถูกจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิคส์ Grade Logic Control พร้อม D3 Mode

ระบบบังคับควบคุมในรุ่นเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร พวงมาลัยพาวเวอร์แบบไฟฟ้า (EPS) ส่วนรุ่นเครื่องยนต์ 2.4 ลิตร พวงมาลัยพาวเวอร์แบบไฮดรอลิค

ระบบกันสะเทือนหน้าแบบแมคเฟอสันสตรัทพร้อมเหล็กกันโคลง ระบบกันสะเทือนหลังแบบดับเบิ้ลวิชโบน พร้อมเหล็กกันโคลง

 
 

ออพชั่น CR-V Minorchange ก็มีให้จุใจเช่นกัน

รุ่น 2.0 S ขับเคลื่อน 2 ล้อหน้า ราคา 1,130,000 บาท
-ไฟหน้าโปรเจคเตอร์
-ชายล่างกันชน/กาบข้างประตู/ยางกันชนหลังเป็นสีดำ
-ระบบ Cruise Control
-กุญแจรีโมต และกุญแจนิรภัย พร้อมสัญญาณกันขโมย
-วิทยุ ซีดี แบบ 6 แผ่น
-ช่อง AUX
-ลำโพง 4 จุด
-ถุงลมนิรภัยคู่หน้า
-ABS,EBD
-กระจกไฟฟ้านิรภัยด้านคนขับ

รุ่น 2.0 E ขับเคลื่อน 4 ล้ออัตโนมัติ ราคา 1,244,000 บาท
สิ่งที่เพิ่มเติมจากรุ่น 2.0 S มีดังนี้
-ชายล่างกันชน/กาบข้างประตู/ยางกันโคลน สีเทาเมทัลลิค
-ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone
-เบาะนั่งปรับไฟฟ้า 8 ทิศทางพร้อมปุ่มดันหลัง
-ระบบ Bluetooth
-ระบบควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย
-ช่องเชื่อมต่อ USB
-สัญญาณกะระยะหลัง

-รุ่น 2.4 EL 2WD ขับเคลื่อนล้อหน้า ราคา 1,424,000 บาท
ซึ่งเป็นรุ่นย่อยใหม่ที่ Honda เพิ่งจะมีใน CR-V Minorchange
สิ่งที่เพิ่มเติมและแตกต่างจากรุ่นเครื่องยนต์ 2.0 E มีดังนี้
-ไฟหน้าแบบ HID
-ระบบเปิด ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
-ไฟหน้าปรับระดับอัตโนมัติ
-มือจับประตูโครเมี่ยม
-ระบบปัดน้ำฝนด้านหน้าแบบอัตโนมัติ
-ระบบนำทาง Navigator
-เครื่องเล่น DVD วิทยุ ซีดี MP3 แบบ 1 แผ่น (แต่ตัดช่องเชื่อมต่อ USB ออก)
-ลำโพง 4 จุดพร้อม ทวีตเตอร์อีก 2 จุด
-ถุงลมนิรภัยด้านข้างคู่อัจฉริยะ
-ระบบควบคุมการทรงตัว VSA
-กล้องส่องภาพด้านหลัง
-กระจกมองข้างลดการเกาะตัวของน้ำ
-กระจกหน้าต่างคู่หน้าลดการเกาะตัวของน้ำ

รุ่นสุดท้าย 2.4 EL ระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัตโนมัติ ราคา 1,513,000 บาท
มีอุปกรณ์ที่เพิ่มเติมจากรุ่น 2.4 EL 2WD ได้แก่
-เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง

 
 

การปรับโฉมครั้งนี้ดูเหมือนว่า Honda เน้นความคุ้มค่าในรุ่น 2.0 ลิตรเป็นอย่างมากราคาที่เพิ่มขึ้นมาเล็กน้อยแต่ก็ให้อุปกรณ์ขึ้นด้วยเหมือนกัน ตามปัจจัยด้านยอดขายที่โตมากกว่า ส่วนรุ่น 2.4 ลิตรกลายเป็นว่านำอุปกรณ์บางชิ้นจากรุ่น Prestige เมื่อปลายปีที่แล้วมาจับใส่เป็นรุ่นมาตรฐานและกระโดดราคาไปสู่ระดับบนเต็มตัว

ถ้าท่านชื่นชอบและชื่นชม CR-V อยู่เป็นทุนเดิม ขณะนี้ Honda CR-V Minorchange กำลังอวดโฉมอยู่ในงาน Motor Expo 2009 และโชว์รูม Honda ทั่วประเทศไทย  คุณก็ลองเดินเข้าไปแวะและเปรียบเทียบราคาความคุ้มค่าตามใจชอบได้เลยครับ