น่าจะเป็นผลการศึกษาที่น่าตกใจไม่น้อย เมื่อกรมทางหลวงสหรัฐอเมริกา หรือ
National Highway Traffic Safety Administration (NHTSA) ได้ออกมาแถลงว่า
การสูบกัญชานั้นมีส่วนเพิ่มอุบัติเหตุน้อยกว่าการดื่มแอลกอฮอล์เสียอีก

alt

ข้อสรุปนี้ มาจากการศึกษาที่ใช้เวลา 20 เดือน จากผู้ขับขี่กว่า 10,800 ราย บริเวณหาด Virginia
โดยทำการศึกษาเปรียบเทียบจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นว่า ในเวลาเดียวกัน บริเวณเดียวกันนั้น อุบัติเหตุที่เกิดขึ้น
มาจากการเล่นยาเสพติด/ดื่มแอลกอฮอล์หรือเปล่า และศึกษากลุ่มคนที่มีอายุ เพศที่เหมือนกัน แต่ไม่ได้ก่ออุบัติเหตุ
ว่ามีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร จนพบว่าการสูบกัญชา ไม่ได้มีส่วนเพิ่มอุบัติเหตุ”มากอย่างที่คิดกัน”

อย่างไรก็ตาม ไม่ได้แปลว่าการสูบกัญชาเป็นเรื่องที่เหมาะสมการขับขี่ เพราะ NHTSA ชี้ข้อมูลที่น่าสนใจ
อีกชิ้นหนึ่งว่า ผู้ขับขี่ที่มีสติไม่เต็มที่ระหว่างขับรถ สามารถเพิ่มโอกาสในการเกิดอุบัติเหตุได้มากถึง 25%
(ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มวัยรุ่นซึ่งนิยมสูบกัญชามากกว่า) และยังพบอีกว่า ผู้ชาย กลายเป็นเพศที่ก่ออุบัติเหตุ
มากกว่าผู้หญิง

นอกจากนี้ ยังพบว่าผู้สูบกัญชา มีส่วนเพิ่มอุบัติเหตุบนท้องถนนมากกว่าผู้ขับขี่ที่เพิ่งสร่างเมา และพบว่าผู้ที่มี
แอลกอฮอล์ในกระแสเลือดที่ถูกบันทึกว่ามีส่วนก่ออุบัติเหตุมากที่สุด อย่างไรก็ตาม ผลการศึกษานี้น่าจะชี้ให้เห็น
ถึงความน่ากลัวของการเมาแล้วขับ ว่ามีอิทธิพลต่อสติและนำไปสู่อุบัติเหตุมากที่สุด แต่ก็ไม่ควรสรุปกันว่า
การสูบกัญชาเป็นเรื่องที่เหมาะสมและควรทำระหว่างขับรถ เพราะท้ายที่สุดเมื่อเราอยู่หลังพวงมาลัยแล้ว
‘สติที่ครบถ้วน’คือเรื่องสำคัญที่สุดที่ผู้ขับขี่ทุกคนต้องมี

ที่มา : Car & Driver