มันก็น่าเสียดายอย่างมากว่าที่ Renault Koleos แทบจะไม่ได้รับโอกาสความสำเร็จเหมือนพันธมิตรอย่าง Nissan
Qashqai หากมองถึงช่วงเวลาของการเปิดตัวในปี 2007 ก็ถือว่าจังหวะสวย เพราะมันเป็นจังหวะแห่งการเริ่มเดินเครื่อง
ตลาดครอสโอเวอร์อย่างจริงจัง แต่อย่างน้อยก็โชคดีที่ Renault สามารถกอบกู้ศักดิ์ศรีด้วยการส่ง Captur หรือ Clio ยก
สูงเวอร์ชันดัดแปลงมาทำตลาด
ล่าสุด Renault พยายามสานต่อความสำเร็จจาก Captur ด้วยการเปิดตัว Renault Kadjar ว่าง่าย ๆ มันคือการจับนำ
Nissan Qashqai มา Re-Engineering ใหม่ ให้กลายเป็นรถแบบฉบับ Renault พันธุ์ใหม่อย่างสมบูรณ์
ที่มาความประหลาดชื่อ Renault Kadjar นั้นมันเกิดจากการนำคำ 2 คำมาสนธิกัน ได้แก่ KAD ได้แรงบันดาลใจจาก
คำภาษาอังกฤษ ‘QUAD’ แปลว่า “สี่” หมายถึงความเป็นรถยนต์ขับเคลื่อนสี่ล้อ และ JAR ภาษาฝรั่งเศสที่แปลว่า
“คล่องแคล่ว” เมื่อสนธิรวมกันแล้วมันก็ก่อให้เกิดความรู้สึก Exotic ซึ่งทำให้นึกถึงรถยนต์ที่สามารถตะลุยไปแดนไกลได้
เหตุผลสำคัญที่ Renault อยากอินดี้แปลงคำว่า Quad ให้กลายเป็นคำว่า Kad ขึ้นด้วยตัวอักษร K ก็เพราะว่าคำว่าตัว K
มันสะท้อนถึงความสมบุกสมบันได้
Renault Kadjar เป็น C-Segment Crossover คันแรกที่เกิดมาในช่วงตลาดครอสโอเวอร์เติบโตไวและได้รับความนิยม
สูงสุด Kadjar จะเป็นบทบาทใหม่ให้ Renault ได้ก้าวเดินในระดับสากล เราก็จะได้เห็น Renault Kadjar ในยุโรป,
หลายประเทศในอาฟริกาและแถบเมดิเตอเรเนียน ตามมาด้วยจีน (ยกเว้นไทย)
แนวคิดการออกแบบตัวถังภายนอกของ Renault Kadjar คือ การบุกเบิก หรือ ‘Explore’ อันเป็นแนวคิดเดียวกับ
Captur ซึ่งมันประกาศให้โลกรู้ว่ารถคันนี้เต็มเปี่ยมทั้ง ความปราดเปรียว, แข็งแกร่งและกล้าผจญ ในขณะที่มีกลิ่นอาย
แนวคิด ‘Love’ จากรถต้นแบบ Dezir ที่เผยสายตาที่น่าปรารถนา, สัมผัสน่าเย้ายวนใจ
เบื้องหลังงานออกแบบที่เอาชนะวิธีคิดดั้งเดิมคือ นำวัตถุดิบความคิดจากเครือข่ายศูนย์ออกแบบ Renault ทั่วโลกเข้า
กระบวนการตกผลึกทางความคิดที่ห้องปฏิบัติการนวัตกรรมสหกรณ์ (Cooperative Innovation Laboratory : LCI)
และศูนย์งานออกแบบยุโรปตอนกลางของ Renault
สิ่งที่เพิ่มความสวยงามถึงขีดสุดคือไฟหน้า Full LED คู่ ที่เรียกกันว่า Pure Vision ที่ให้ทั้งความสว่างและแสงที่คมชัดกว่า
ไฟหน้าฮาโลเจนถึง 20%
ภายในห้องโดยสารเป็นตัวดึงจุดความสนใจให้ลูกค้าทั่วไปด้วยการใช้งานที่ดูชาญฉลาด, สะดวกสบายและมีการออกแบบ
ดูเป็นคู่ขนานกับภายนอกที่ดูตราตรึง แผงหน้าปัดอยู่ในสายตาผู้ขับขี่ตามธรรมชาติ แผงแดชบอร์ดดูมีคุณภาพสูงด้วยการ
บุพื้นโฟมรองเอาไว้
แผงหน้าจอสัมผัส Renault R-Link 2 แบบเดียวที่เคยเห็นใน Renault Espace รองรับการออกคำสั่งด้วยเสียงจนไปถึง
การควบคุมระบบนำทาง, โทรศัพท์, แอพฯและวิทยุที่ใช้งานง่ายและปลอดภัย
ส่วนอุปกรณ์มาตรฐานอื่น ๆ ที่น่าสนใจก็ได้แก่ ระบบเบรกฉุกเฉิน, ระบบเตือนการเปลี่ยนเลน, ระบบจับป้ายเตือนความเร็ว
และกล้องส่องหลัง
Renault Kadjar เตรียมเปิดตัวครั้งแรกที่งาน Geneva Motorshow 2015 นี้
ที่มา : Worldcarfans