แม้โตโยต้าในไทย จะใช้วิธีหยิบเอารถยนต์รุ่นปัจจุบันมาแต่งแอโรพาร์ทให้ดูสปอร์ต พร้อมพะชื่อสำนักแต่ง
‘TRD Sportivo’ ของตน ให้เป็นรุ่นกระตุ้นตลาดเพิ่มความพิเศษ แต่นั่นก็เป็นเพียงกลยุทธ์ที่ใช้ในระดับภูมิภาค
ยังไม่ได้มีการนำไปใช้กับตลาดใหญ่
กระนั้น เมื่อเร็วๆนี้ Akio Toyoda ประธานบริษัทของ Toyota ได้ออกมายอมรับกับ Automotive News แล้วว่า
หลังจากเห็นความสำเร็จจากการส่ง Toyota Camry ลงแข่งขันรายการ NASCAR ในสหรัฐอเมริกา จนภาพลักษณ์
แบรนด์สามห่วงในวงการมอเตอร์สปอร์ตเริ่มแข็งแกร่งขึ้นในแดนมะกัน จึงมีความคิดที่จะส่งเวอร์ชันแต่ง TRD Sportivo
ให้กับรถเก๋งเพื่อขายในสหรัฐอเมริกาบ้าง หลังจากได้ส่งผลิตเวอร์ชันนี้กับรถยนต์กระบะรุ่น Tacoma, Tundra และ 4Runner มาแล้ว ระยะหนึ่ง
งานนี้ มีการคาดเดาว่า Toyota Camry นี่ล่ะ ที่มีความเป็นไปได้สูงที่สุด ที่จะได้รับเวอร์ชันแต่ง TRD Sportivo ขายใน
สหรัฐอเมริกาเป็นเบอร์แรก (คนละเวอร์ชันกับในไทยแน่นอน) เพราะเวอร์ชันนี้ น่าจะช่วยดึงกลุ่มลูกวัยรุ่นให้สนใจ
Toyota Camry ได้ หลังเป็นรถยนต์ครองใจวัยครอบครัวมานาน
ความแตกต่างของรุ่นแต่ง TRD Sportivo จากรถยนต์รุ่นปกติ อยู่ที่ระบบท่อไอเสียซึ่งถูกเพิ่มเสียงอันดุดัน
และน่าจะมีส่วนช่วยด้านสมรรถนะของเครื่องยนต์ด้วย นอกจากนี้ยังมีการเปลี่ยนวงล้ออัลลอยให้ใหญ่ขึ้น
และมีการตกแต่งชุดแอโรพาร์ท TRD อย่างแน่นอน นับว่าเป็นความแตกต่างจากเวอร์ชั่น TRD ในไทย
เพราะในไทยนั้นจะเน้นความเปลี่ยนแปลงทางรูปลักษณ์ ไร้ความเปลี่ยนแปลงด้านสมรรถนะ
เหตุผลที่ Toyota เริ่มมีความมั่นใจจนอยากให้รถเก๋งของตนมีเวอร์ชันแต่ง TRD Sportivo บ้าง เป็นเพราะที่ผ่านมา
การจำหน่ายรถกระบะ Tacoma, Tundra และ 4Runner ในเวอร์ชัน TRD นี้ ต่างขายดีในหมู่วัยรุ่น ทั้งๆที่มีป้ายราคา
แพงกว่ารุ่นปกติด้วยซ้ำ อีกทั้งในปัจจุบันลูกค้า Camry มีอายุเฉลี่ยอยู่ที่ 57 ปี ซึ่งโตโยต้าอยากให้ลูกค้ารถยนต์กลุ่มนี้
มีวัยรุ่นมากกว่านี้นั่นเอง
ปัจจุบัน Toyota พยายามปรับกลยุทธ์การตลาด ด้วยการเปิดตัวรถยนต์ 2 อารมณ์ในรุ่นเดียวกัน ตัวอย่างเช่น
Toyota Camry จะมีเกรด LE และ SE เพื่อขายความหรูหรา แต่จะมีรุ่น XSE เน้นการตกแต่งแบบสปอร์ตเพื่อเอาใจ
ลูกค้าที่ต้องการความโฉบเฉี่ยว ซึ่งล่าสุดได้ถูกนำมาใช้กับ Corolla เช่นกัน แต่นั่นก็ยังไม่จูงใจให้วัยรุ่นเข้ามาซื้อรถ
ของตนได้มากพอ
แม้กลยุทธ์เวอร์ชันตกแต่ง TRD Sportivo ในไทย จะได้รับความนิยมระดับหนึ่ง แต่ไม่ถึงกับหวือหวา ต้องรอดูกันต่อไปว่า
แล้วในกลุ่มชาวมะกัน จะต้อนรับรถยนต์เวอร์ชันพิเศษนี้ขนาดไหน เพราะหากเป็นการปรับปรุงสมรรถนะนอกเหนือจากรูปลักษณ์แล้ว
น่าจะได้รับความสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว
ที่มา : Automotive News