เราขอเรียนตามตรงว่านี่ขนาด Mazda อวดโฉมเจ้า Mazda 2 SkyActiv ล่วงหน้าไปแล้วในงาน Motor Expo 2014
เมื่อช่วงสิ้นปีก่อน มันก็ยังมีประเด็นจับกระแสได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะเรื่อง “ราคา” ที่ทุกคนอยากรู้กันมากถึงมากที่สุด
ขนาดมีใบราคาอย่างไม่เป็นทางการหลุดออกมาเพียงแค่ใบเดียว ก็ถึงขั้นทำให้แฟนเพจ Headlightmag.com คึกคักกัน
มากพอสมควร แต่สุดท้ายแล้วเราก็ควรตั้งสติและรอดูราคา “อย่างเป็นทางการ” กันเสียทีในวันนี้และตอนนี้
วันที่ 15 มกราคม 2558 บริษัท Mazda เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้เปิดตัวAll New Mazda 2 SkyActiv อย่างเป็น
ทางการ เป็นรถที่ใช้เทคโนโลยี SkyActiv รุ่นที่ 3 ที่แนะนำสู่ตลาดประเทศไทย ต่อจาก Mazda CX-5 และ Mazda 3 ที่มา
พร้อมกับธีม การออกแบบของรถ Mazda เจเนอเรชั่นใหม่ Kodo Design ที่สวยงามเทียบเท่ารถยุโรป
จุดเด่นของ Mazda 2 SkyActiv มาพร้อมเครื่องยนต์คลีนดีเซล ขนาด 1500 ซีซี เทอร์โบแปรผันอินเตอร์คูลเลอร์ ครั้งแรก
ของประเทศไทยที่มาสด้านำเอาเครื่องยนต์ดีเซลขนาดคอมแพ็คเข้ามาใส่ไว้ในรถยนต์นั่ง ให้อัตราการประหยัดน้ำมันสูงสุด
ถึง 26.3 กิโลเมตรต่อลิตร มาพร้อมระบบความปลอดภัยรอบคัน เชื่อมต่อกับโลกโซเชียลด้วยระบบ MZD Connect เพื่อ
สร้างมาตรฐานใหม่กับตลาดรถยนต์บี-คาร์ และอีโคคาร์
กลุ่มเป้าหมายของ Mazda 2 SkyActiv จะเป็นลูกค้ากลุ่มโพสต์โมเดิร์นที่ใช้ชีวิตอย่างมีไลฟ์สไตล์ บ่งบอกสถานะทาง
สังคม มีความหรูหรา และชอบเข้าสังคม จน Mazda ขอประกาศขึ้นแท่นผู้นำรถยนต์นั่งขนาดเล็กระดับพรีเมียม วางราคา
ขายเริ่มต้น 6 แสนกว่าบาท พร้อมตั้งเป้าการขายสูง 30,000 คัน
นายฮิเดสึเกะ ทาเกสึเอะ ประธานบริหาร มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย กล่าว การเปิดตัวMazda 2 SkyActiv ใหม่ ใน
ครั้งนี้ ถือเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับตลาดรถยนต์นั่งขนาดเล็ก ที่จะเปลี่ยนมุมมองของผู้บริโภคจาก
ความเชื่อแบบเดิมๆ ไปจนหมดสิ้น ด้วยการนำเอาเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยเฉพาะ
เทคโนโลยี สกายแอคทีฟ ที่ให้ประสิทธิภาพทั้งความแรงและความประหยัด ด้วยเครื่องยนต์สกายแอคทีฟ-
ดี คลีนดีเซลขนาด 1500 ซีซี. ซึ่งให้พลังแรงบิดเทียบเท่าเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2500 ซีซี เกียร์อัตโนมัติ
สกายแอคทีฟ-ไดร์ฟ 6 สปีด ที่รวบเอาจุดแข็งของเกียร์ทุกระบบเข้าไว้ด้วยกัน โครงสร้างตัวถังสกายแอค
ทีฟ-บอดี้ ที่พัฒนาเพื่อให้ได้น้ำหนักลดลงแต่ให้ความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น และระบบช่วงล่างและระบบ
บังคับเลี้ยวสกายแอคทีฟ-แชสซี ให้ความนุ่มนวลและเกาะถนนมากยิ่งขึ้นควบคุมทุกการเข้าโค้งได้อย่าง
แม่นยำ
นายฮิเดสึเกะ กล่าวเพิ่มเติมว่า มาสด้ามีความตั้งใจที่จะแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของมาสด้าที่มีต่อ
ประเทศไทยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามกาลเวลา โดยเฉพาะการลงทุนในโรงงานออโต้อัลลายแอนซ์เพื่อทำการผลิต
รถยนต์ Mazda 2 SkyActiv ภายใต้โครงการรถยนต์รถประหยัดพลังงานมาตรฐานสากลระยะที่2 หรือ
โครงการอีโคคาร์ เฟส 2 เป็นรายแรกของประเทศ ด้วยเงินลงทุนกว่า 12,000 ล้านบาท มาสด้ายังได้เพิ่มกำลัง
การผลิตรถยนต์นั่งที่โรงงานเอเอทีเป็น 120,000 คันต่อปี และชิ้นส่วนประกอบหรือ CKD อีกจำนวน 38,000
คัน โดยในปัจจุบันโรงงานแห่งนี้มีกำลังการผลิตสูงสุดสำหรับรถยนต์สำเร็จรูปหรือ CBU อยู่ที่ประมาณ
260,000 คันต่อปี นอกจากนี้มาสด้ายังลงทุนในโรงงานผลิตเกียร์อัตโนมัติสกายแอคทีฟนอกประเทศญี่ปุ่น
เป็นครั้งแรกด้วยมูลค่าการลงทุนสูงถึง 11,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นโรงงานผลิตระบบเกียร์อัตโนมัติที่ทันสมัยที่สุด
แห่งหนึ่งของMazda โดยเริ่มทำการผลิตในวันที่ 13 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งจะผลิตเพื่อป้อนให้กับโรงงานเอเอที
และโรงงานอื่นๆ ทั่วโลก และล่าสุดมาสด้าได้ลงทุนเพื่อสร้างโรงงานผลิตเครื่องยนต์สกายแอคทีฟ มูลค่าเกือบ
3,000 ล้านบาท เพื่อรองรับโครงการอีโคคาร์อีกด้วย
เครื่องยนต์สกายแอคทีฟคลีนดีเซล SKYACTIV-D เจนเนอเรชั่นใหม่ของมาสด้าขนาด 1500 ซีซี มาพร้อม
เทอร์โบแปรผันที่มีน้ำหนักเบา เครื่องเดินเงียบ และคงคุณสมบัติของเครื่องดีเซลที่แข็งแกร่ง ทนทานสูง ดูแล
รักษาง่าย มีอัตราส่วนการอัดต่ำเพียง 14.8:1 จึงเผาไหม้สมบูรณ์กว่า ให้แรงม้าสูงถึง 105 แรงม้า และให้
แรงบิดสูง 250 นิวตัน-เมตร เทียบเท่าเครื่องยนต์เบนซินขนาดใหญ่ 2500 ซีซี อีกทั้งยังเป็นมิตรต่อ
สิ่งแวดล้อม ด้วยการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ต่ำเพียง100 กรัมต่อกิโลเมตร สามารถผ่าน
มาตรฐานข้อบังคับมลพิษของยุโรปที่เข้มงวดที่สุดในระดับ 5 (Euro 5)
นางสาวสุรีทิพย์ ละอองทอง โฉมทองดี รองประธานบริหารฝ่ายการตลาด กล่าวว่า ตลาดรถยนต์นั่งขนาด
B Car และ Eco Car ซึ่งเป็นเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร และ ขนาด 1.3 ลิตร เป็นกลุ่มรถยนต์ที่มี
ยอดการจำหน่ายมากเป็นอันดับที่สองรองจากตลาดปิกอัพ รถยนต์ในกลุ่มนี้มีการแข่งขันสูงมากทั้งในด้าน
ราคาและการพัฒนาคุณภาพของผลิตภัณฑ์เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า ซึ่งเคยทำสถิติยอดขาย
สูงสุดเมื่อปี 2555 อยู่ที่เกือบ 470,000 คัน โดยกลุ่มลูกค้าเป้าหมายในกลุ่มนี้มีความต้องการชัดเจนในเรื่อง
ของการใช้งานที่มีความคล่องตัวสูง มีอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดี และใช้งานในเมืองเป็นสำคัญ
การเปิดตัว Mazda 2 SkyActiv เจนเนอเรชั่นใหม่ ในครั้งนี้จะสามารถเปลี่ยนมุมมองและความเชื่อแบบเดิมๆ
ของลูกค้าไปจนหมดสิ้น เป็นการตอบสนองความต้องการของลูกค้าในทุกกลุ่มเป้าหมาย มาสด้าวางกลยุทธ์
ของผลิตภัณฑ์โดยใช้เครื่องยนต์คลีนดีเซลขนาด 1500 ซีซี พร้อมเทอร์โบแปรผัน เป็นรายแรกในประเทศไทย
ที่ให้พลังแรงบิดเทียบเท่ากับเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2500 ซีซี และยิ่งไปกว่านั้นคือให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ในระดับสากล ด้วยการปล่อยไอเสียต่ำเพียง 100 กรัมต่อกิโลเมตร
สุรีทิพย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า Mazda 2 SkyActiv ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 6 รุ่น ประกอบด้วยแฮตช์แบค 5
ประตู 3 รุ่น และซีดาน 4 ประตู 3 รุ่น
สีใหม่ที่มาสด้านำนวัตกรรมและเทคโนโลยีการพัฒนาแบบใหม่ที่มีลักษณะเฉพาะของสีที่มีความ
งดงาม เงาวาวเป็นประกายเมทัลลิค ดูมีมิติเชิงลึก คือ สีแดง โซลเรด รถยนต์นั่ง Mazda 2 SkyActiv ใหม่ มี
ให้เลือกทั้งหมด 8 สี ประกอบด้วย สีแดง โซลเรด ซึ่งเป็นสีใหม่และเป็นสีสำหรับการเปิดตัว สีขาวมุก สโนว์
เฟค ไวท์ เพิร์ล, สีน้ำตาล ไททาเนียมแฟลช, ฟ้า ไดนามิก บลู, สีเงิน อลูมินัม เมทัลลิก, สีดำ แบล็กไมก้า, สี
ขาว อาคติค ไวท์ และสีเทา เมโทรโพลิทัน
และอีกย่อหน้าสุดท้ายที่ทุกคนรอคอย Mazda 2 SkyActiv ใหม่ลงสู่ตลาดด้วยราคาเริ่มต้นที่ 6 แสนกลางๆ
ในขณะที่รุ่นท็อป ซึ่งทั้งภายนอก ภายใน และชุดเสริมความสปอร์ตที่เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ราคาที่ต่ำกว่า
8 แสนบาท
ราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการ
ตัวถังแบบ Sedan 4 ประตู
1.5 Skyactiv-D XD 675,000
1.5 Skyactiv-D XD High 735,000
1.5 Skyactiv-D XD High Plus+ 790,000
ตัวถังแบบ Hatchback Sport 5 ประตู
1.5 Skyactiv-D XD 675,000
1.5 Skyactiv-D XD High 735,000
1.5 Skyactiv-D XD High Plus+ 790,000
——————————————-