เราก็ไม่รู้ว่า Renault เป็นอะไรหรือฝังใจกับ Renault 5 กันมากนัก เพราะนอกจาก Renault จะนำอิทธิพลจาก Renault
5 ไปต่อยอดจนกลายเป็น Renault Twingo โฉมใหม่สุดเจ๋งแล้ว Renault ก็ยังคิดจะปัดฝุ่นความสำเร็จดั้งเดิมของ
Renault 5 มาสานต่อจนกลายเป็นรถโมเดลใหม่ที่คิดจะทำตลาดเคียงคู่กับ Renault Clio อีกด้วย
ก่อนอื่นเราก็ต้องยอมรับว่า Renault 5 มันคือรถเล็กที่มีคนสนใจและจดจำมากที่สุดในประวัติของ Renault และดู
เหมือนว่า Renault ยังฝังใจกับ Renault 5 เป็นอย่างมากจนถึงขั้นแอบซุ่มพัฒนารถรุ่นใหม่ที่เป็นตัวตายตัวแทนจิต
วิญญาณของ Renault 5 กันเลยทีเดียว
เว็บไซต์นิตยสาร AutoExpress ได้มีโอกาสเป็นภาพรถโปรโตไทป์ที่อยู่ในโครงการ Value-Up Concept แต่ด้วยความที่
ถูกสั่งมิให้ถ่ายภาพ ดังนั้น AutoExpress จึงขออธิบายรูปทรงตัวรถว่ามันจะเป็นรถที่มีในการใช้สีทูโทนแบบแปลก ๆ ,
สัดส่วนตัวถังได้แรงบันดาลใจจาก Renault 5
Renault ตั้งโจทย์เอาไว้ว่าจะต้องใช้งบประมาณในการพัฒนารถเท่ากับ Clio ดังนั้น รถตัวตายตัวแทนจิตวิญญาณของ
Renault 5 ภายใต้ชื่อโครงการ Value-Up Concept จะต้องมีการพลิกแพลงการใช้งบประมาณที่แตกต่างจาก Clio ด้วย
การหันมาใช้พื้นตัวถังราคาประหยัด A-Entry Platform และ ใช้เครื่องยนต์กำลังต่ำ เพื่อนำต้นทุนที่ลดลงมาได้ไปลงทุน
พัฒนาห้องโดยสารให้มีความไฮเทค
ตัวรถอาจมีน้ำหนักประมาณ 830 กิโลกรัม อาจจะติดตั้งเครื่องยนต์ 3 สูบ 1.0 ลิตร ที่ปล่อยค่าไอเสีย CO2 ต่ำกว่า 100
กรัมต่อกิโลเมตร ส่วนรุ่น Plug-in Hybrid ก็จะประหยัดน้ำมันมากถึง 134 MPG ปล่อยค่าไอเสีย CO2 ต่ำเพียงแค่ 45
กรัมต่อกิโลเมตร
Renault Value-Up Concept จะมีขนาดตัวถังประมาณ 3.8 เมตร ใหญ่กว่า Renault Twingo แต่เล็กกว่า Clio เบาะคู่
หน้าจะติดตั้งม้านั่งยาวเพื่อความสบายของแผ่นหลัง มีการใช้วัสดุธรรมชาติอาทิ แผ่นไม้สำหรับแผงข้างประตูและไม้ไผ่ที่
เสริมความแข็งแกร่งของโครงสร้างตัวถังด้านหน้า
ไฮไลต์สำคัญคือการออกแบบแผงแดชบอร์ดแบบดิจิตอลทั้งหมด อันประกอบไปด้วยหน้าจอสัมผัส LCD ขนาด 7 นิ้ว 2 จอ
หน้าจอแรกจะเป็นจอสำหรับควบคุมอุปกรณ์และอีกหน้าจอหนึ่งไว้ด้านข้างพวงมาลัยผู้ขับขี่, ส่วนแผงมาตรวัดจะใช้
หน้าจอยาวขนาด 15.9 นิ้ว นอกจากนี้ยังมีหน้าจอสำหรับผู้โดยสารด้านหน้าอีก 1 ตำแหน่ง
หน้าจอสัมผัสทั้งหมดจะเป็นแบบตอบสนองการใช้งานได้เต็มพิกัด ตั้งแต่การควบคุมระบบปรับอากาศและแม้แต่การปรับ
กระจกมองข้างซึ่ง Solen Kerleroux นักวิศวกรรมอิเล็กทรอนิคส์ผู้รับผิดชอบการพัฒนาภายในห้องโดยสารดิจิตอลได้
เปิดเผยว่า มันเป็นเทคโนโลยีที่สมบูรณ์แบบ รองรับได้ทั้ง CarPlay และ Android Auto ที่เราจะได้เห็นภายใน 2-3 ปี
ข้างหน้าถ้าหากไฟเขียวให้ผลิต
ฟังแค่นี้ก็รู้สึกว่ามันอลังการเอามาก ๆ เห็นทีจะต้องรอคอยกันจริงว่ามันจะน่าตื่นเต้นแค่ไหน
ที่มา : AutoExpress