เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 8 มกราคมนี้เองทางหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯที่ดูแลด้านความปลอดภัย
ของผู้ขับขี่ยานพาหนะได้แถลงข่าวการสั่งปรับ Honda เป็นเงิน 70 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
โดยข้อหาที่ถูกตั้งไว้ก็คือ
1. ไม่รายงานอุบัติเหตุต่างๆที่เกิดขึ้นไปยัง NHTSA- National Highway Traffic Safety
Administration คิดค่าปรับเป็นเงิน 35 ล้านดอลลาร์
2. ไม่รายงานเรื่องการเคลมประกันต่างๆที่เกี่ยวกับตัวรถของ Honda เป็นเงิน 35 ล้าน
ดอลลาร์เช่นกัน
ดังนั้น ถ้าดูจากบันทึกในประวัติศาสตร์ ก็ถือว่าเป็นยอดค่าปรับที่สูงสุดที่รัฐบาลสหรัฐ
เคยตั้งข้อหากับพลเรือนที่เป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่บริษัทอื่นๆ
เพราะบริษัทรถยนต์ทราบดีอยู่แล้วว่ากฎหมายของอเมริกานั้นบังคับให้บริษัทรถยนต์
ต้องเก็บข้อมูลและรายงานจำนวนผู้เสียชีวิต บาดเจ็บ และการเคลมประกันที่เกิดขึ้น
กับรถโมเดลต่างๆภายในสังกัดของตัวเองแล้วส่งข้อมูลให้ NHTSA ประมวลผล
และในกรณีของ Honda ไม่ใช่แค่ขาดการส่งรายงาน 2-3 ชิ้น แต่จากแถลงการณ์ของ
หน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ Honda ไม่ได้รายงานเคสทั้ง 3 ประเภทรวมกันมากถึง
1,729 รายการ และบางเคสก็เก็บดองเอาไว้มานานกว่า 11 ปีแล้ว เรียกได้ว่าถ้าเป็น
ปลาเค็มก็สลายไปกับน้ำเกลือหมด เรียบ ไม่เหลือ
ยิ่งไปกว่านั้นรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมสหรัฐฯ นายแอนโธนี ฟอกส์ยังกล่าวด้วยว่า
เรื่องนี้อาจจะถูกส่งให้กระทรวงยุติธรรมดำเนินการสืบสวนต่อ เพียงแต่กำลังรอการ
ตัดสินใจจากทางกระทรวงยุติธรรมว่าจะทำอย่างนั้นหรือเปล่า เพราะปลายเดือน
ธันวาคมปีที่ผ่านมาทาง Honda เองก็ได้รับผิดและได้ทำข้อตกลงกับหน่วยงานรัฐ
ยินยอมให้เข้าตรวจสอบหลักฐานต่างๆในบริษัทด้วยความเต็มใจ
สาเหตุที่สหรัฐอเมริกาดูจะซีเรียสกับเรื่องเหล่านี้มากแม้เหมือนว่าจะไม่ได้สลักสำคัญ
อะไรนัก ก็เพราะว่าตัวเลขจากการรายงานผู้เสียชีวิต บาดเจ็บ และการเคลมวารันตี
นั้นจะต้องถูกนำไปประมวลผลรวมกับค่ายอื่นๆและใช้ในการคาดคะเนความปลอดภัย
บนท้องถนน รวมถึงแนวโน้มในการเกิดอุบัติเหตุต่างๆและความบกพร่องที่เกี่ยวกับ
ตัวรถยนต์ ดังนั้นการไม่รายงานตามที่กฎหมายกำหนดเป็นจำนวนหลายกรณีนั้น
อาจส่งผลให้การคาดคะเนค่าต่างๆผิดเพี้ยนไปจากความเป็นจริงได้มากและส่งผล
กระทบอย่างใหญ่หลวงสะสมต่อเนื่องมานานกว่าทศวรรษ
ที่มา:Autoblog