เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2014 BMW ก็ได้ประกาศแต่งตั้งให้ Harald Krueger เตรียมดำรงตำแหน่งประธานคนใหม่
แทนที่ Norbert Reithofer ภายในเดือนพฤษภาคมปี 2015 ซึ่ง Stefan Quandt ประธานคณะกรรมการบอร์ดบริหาร
ได้ให้เหตุผลสำคัญที่แต่งตั้งให้ Harald Krueger เป็นประธานคนใหม่ว่า Krueger ยังเป็นคนหนุ่มที่มีอายุแค่เพียง 49 ปี
ถือว่าเป็นผู้บริหารสายอุตสาหกรรมยานยนต์ที่น้อยที่สุดในโลก (ณ เวลานี้) ดังนั้น เขาจึงมีพลังแห่งการสร้างสรรค์ของคน
รุ่นใหม่ที่เป็นประโยชน์ต่อ BMW

Harald Krueger ว่าที่ประธาน BMW คนใหม่คงต้องแบกรับความกดดันไว้อย่างหนักพอดู เพราะ Norbert Reithofer
ประธานคนปัจจุบันสามารถรักษาสถานภาพแบรนด์ BMW ให้เป็นผู้นำรถยนต์ระดับหรูของโลกได้ต่อเนื่องตั้งแต่ที่ขึ้นครอง
แชมป์ในปี 2005 เป็นต้นมา อีกทั้งยังรักษาคุณค่าและยอดขาย 3-Series ให้คงอยู่จนคู่แข่งตีได้ยากและมีการยืดหยุ่นใน
กระบวนการผลิต

2014 12 15 BMW

แต่ดูเหมือนว่า Krueger เองก็ไม่ได้หนักใจอย่างที่คิด หนำซ้ำ Krueger ยังประกาศว่าจะยังคงรักษาจุดแข็งความ
ได้เปรียบของ BMW และที่สำคัญ BMW จะต้องเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่รถยนต์รุ่นหลักและต้องขัดเกลาให้รถใน
กลุ่มตลาดเฉพาะโดดเด่นเฉียบคมขึ้นเพื่อให้สามารถต่อกรกับคู่แข่งได้อย่างกล้าแกร่ง

ปัจจุบัน Krueger จะต้องแข่งขันกับคู่แข่งหลักอย่าง Audi และ Mercedes-Benz ที่ถึงแม้ว่าทั้งสองไม่ได้ลงทุนรถในกลุ่ม
รถไฟฟ้าอย่างหนักเหมือน BMW แต่พวกเขาก็พยายามที่จะสร้างรถเซกเมนต์ใหม่และกลุ่มตลาดเฉพาะมากขึ้น

ขณะนี้ BMW ก็มีปัญหาหลายอย่างที่สามารถสังเกตได้ อาทิ ช่วงนี้ BMW ไม่ได้เน้นชูรถที่มีเทคโนโลยีชั้นสูงเหมือนกับ
Mercedes-Benz อาทิ ระบบความปลอดภัยล้ำสมัย, ระบบช่วยขับขี่และระบบขับขี่กึ่งอัตโนมัติ อีกทั้งยังปล่อยให้
Mercedes-Benz S-Class ตีตลาดอย่างหนักด้วยตัวถังซีดาน, คูเป้, เวอร์ชัน Maybach และเปิดประทุน และยังขาด
แคลนรถขับเคลื่อนล้อหน้าที่จะมาต่อกรกับ Audi A3 Sedan และ Mercedes-Benz CLA และ GLA จนทำให้มีคนวงใน
เอ่ยปากออกมาว่า CLA มันเป็นความ Surprise ที่ผู้บริหาร BMW คาดไม่ถึง

ถึงแม้ว่า BMW ได้เปิดตัว 2-Series Active Tourer แต่ตัวแทนจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาก็ได้ตั้งคำถามว่ามันควรจะ
นำเข้ามาขายดีหรือ? ส่วนแบรนด์ Mini ในตลาดสหรัฐอเมริกาก็กำลังประสบปัญหายอดขายที่หดตัว

อย่างไรก็ตาม Krueger ก็เคยเป็นบุคคลสำคัญที่มีส่วนในการตัดสินใจขยายโรงงาน Spartanburg สหรัฐอเมริกาเพื่อ
ผลิตเอสยูวีรุ่นใหญ่สุด X7 แทนที่จะไปขยายกำลังการผลิตที่โรงงานในเยอรมนี และ Krueger ยังมีบุคลิกนิสัยที่น่าเชยชม
จนผู้ที่ร่วมกับเขาเอ่ยปากชม อาทิ เขาเป็นคนเข้าหาคนง่าย, ชอบเข้าสังคมมาก, อ่อนน้อมถ่อมตนและไม่ถือตัว แถมยัง
สนใจตลาดสหรัฐอเมริกามาก สวนทางกับ Reithofer ประธานคนปัจจุบันที่ไม่เคยแลตลาดสหรัฐอเมริกา ไม่สนใจ
แม้กระทั่งไปปรากฏตัวในงานมอเตอร์โชว์หรือร่วมประชุมดีลเลอร์ในสหรัฐอเมริกาเลย นั่นก็ทำให้ Krueger ดูมีจุดเด่นใน
ด้านแนวคิดการบริหารในระดับสากลมากกว่าประธานคนปัจจุบัน

ความสามารถพิเศษของ Krueger ก็คือการบริหารโรงงานขนาดมหึมาที่ Hams Hall ที่เกือบจะกลายเป็นโรงงานร้าง
หลังจากได้ขายกิจการ Rover ออกไป จนสามารถปรับปรุงและบูรณาการจนกลายเป็นกลุ่มโรงงานผลิตเครื่องสมบูรณ์
แบบที่ยิ่งใหญ่แห่งหนึ่งได้สำเร็จ

ดังนั้น Krueger จึงเป็นได้มากว่าผู้บริหารที่รู้เรื่องมากกว่าแค่เรื่องการผลิต, รุ่นรถหรือแบรนด์

บุคคลวงในได้กล่าวเอาไว้ว่า สำหรับผมสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับ CEO ก็คือการได้รู้บริษัทในทุกแง่มุม คณะกรรมการบอร์ด
จึงเป็นห่วงเรื่องอายุเพราะกลัวจะเป็นข้อจำกัดในการทำงานซึ่ง Reithofer ก็ดำรงตำแหน่งประธานเกือบ 49 ปีแล้วก็ไปได้
ดีเสียด้วย

ที่มา : Automotive News