ถึงแม้ชื่อชั้นของ Audi A1 จะไม่เป็นที่รู้จักในบ้านเรามากนัก แต่สำหรับยุโรปแล้วชื่อของ Audi A1 คือประวัติศาสตร์ “หน้า
ใหม่” ของวงการรถยนต์ระดับหรูเพราะนี่คือรถพรีเมี่ยมเล็กคันแรกที่ “ปลดแอ็ก” ความเชื่อดั้งเดิมของรถยนต์ระดับหรูใน
อดีตทิ้งไปชนิดไม่เหลือคราบ (กลุ่มคนซื้อสมัยก่อนยังรับไม่ได้กับรถหรูขนาดเล็กแบบนี้) เพราะนับตั้งแต่ Audi A1 เปิดตัว
ครั้งแรกในปี 2009 และนับจากเริ่มส่งมอบภายในปี 2010 มันก็มียอดผลิตครบ 100,000 คันอย่างรวดเร็วภายในปี 2011
นั่นก็ทำให้ Audi A1 กลายเป็นพาสปอร์ตเบิกทางความสำเร็จให้แก่รถเล็กหรูค่ายอื่นให้ประสบความสำเร็จตามได้

2014 11 15 Audi A1 MC 1 2014 11 15 Audi A1 MC 2

วันนี้ Audi ก็ได้เผยโฉม Audi A1 และ S1 รุ่น Minorchange ทั้งตัวถัง 3 ประตูและ 5 ประตู Sportback ที่ปรับหน้าตา
ให้บึ้งตึงน้อยลงจนกลายมาเป็นมิตรกับเพื่อนร่วมถนนมากยิ่งขึ้น แต่ก็ยังเพิ่มความสปอร์ตขึ้นด้วยการเปลี่ยนไฟหน้าทรง
ใหม่ที่มีรอยหยักตื้นขึ้นที่มีการเปลี่ยนรายละเอียดไฟ LED ใหม่, เปลี่ยนลวดลายกระจังหน้าใหม่และสร้างความเก๋ไก๋ด้วย
ช่องดักลมบริเวณไฟตัดหมอกหน้าใหม่ที่ดูเฟี้ยวกว่าเดิม

Audi A1/S1 Minorchange ก็มีการเพิ่มความยาวตัวถังอีก 2 เซนติเมตรที่คุณสามารถสาดสีเสา A-C ให้เป็นสีทูโทนได้
เฉพาะรุ่น 3 ประตู หรือจะสาดสีทั้งหลังคาได้เฉพาะรุ่น Sportback

2014 11 15 Audi A1 MC 3

ส่วนภายในห้องโดยสารมองเผิน ๆ ก็อาจจะนึกว่าไม่มีความเปลี่ยนแปลงแต่อันที่จริง Audi ก็ได้พยายามเปลี่ยน
รายละเอียดบางอย่างให้รู้สึกว่ามันหรูขึ้น (บ้าง) แต่ไฮไลต์สำคัญคงจะหนีไม่พ้นลูกค้า Audi A1/S1 สามารถเลือกการ
ตกแต่งภายในได้ตามใจชอบ อาทิ การเปลี่ยนสีช่องแอร์เพื่อให้เข้ากับตัวถังภายนอก เป็นต้น

หน้าจอสัมผัส MMI ก็มาพร้อมกับหน่วยความจำภายในขนาดใหญ่และระบบสั่งงานด้วยเสียงอัจฉริยะ สามารถใช้งาน
Audi Connect ผ่านการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่าน Wi-Fi HotSpot

2014 11 15 Audi A1 MC 4

Audi A1/S1 มีการปรับปรุงประสิทธิภาพการขับขี่ให้ดีขึ้นด้วยการเปลี่ยนพวงมาลัยไฟฟ้ากึ่งกลไกซึ่งการันตีได้เลยว่าจะ
ช่วยสนับสนุนการขับขี่ทุกสภาพถนนได้ ระบบช่วยกำลังจะลดการทำงานเมื่อวิ่งด้วยความเร็วสูงขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมทั้งมีการ
ปรับจูนช่วงล่างให้แข็งขึ้นแต่ก็มีความสะดวกสบายในการขับขี่เพิ่มขึ้นด้วย และเพื่อความเพลิดเพลินในการขับขี่ Audi S1
จะติดตั้งระบบตัวช่วยการขับขี่ที่ทำให้ผู้ขับขี่สามารถเรียกบุคลิกการขับขี่ของเครื่องยนต์ตามต้องการ นอกจากนี้ยังมีปรับ
บุคลิกของเกียร์ S Tronic และช๊อคอับให้รองรับการขับขี่ 3 โหมดได้แก่ อัตโนมัติ, เน้นประสิทธิภาพและสปอร์ต

เครื่องยนต์กลไกของ Audi A1 จะมีเครื่องรุ่นเล็กสุดบล็อก 3 สูบ 1.0 ลิตร TFSI ให้กำลัง 90 แรงม้า (HP) มีอัตรา
สิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 4.3 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ปล่อยค่าไอเสีย CO2 ต่ำเพียงแค่ 99 กรัมต่อกิโลเมตร แต่ถ้าอยากได้อะไร
ที่ประหยัดกว่านี้ก็จงเลือกเครื่องดีเซล 3 สูบ 1.4 ลิตร TDI 90 แรงม้า (HP) มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเพียงแค่ 3.4 ลิตรต่อ
100 กิโลเมตร ปล่อยค่าไอเสีย CO2 เพียงแค่ 89 กรัมต่อกิโลเมตร

2014 11 15 Audi A1 MC 5 2014 11 15 Audi A1 MC 6

สำหรับ Audi S1 ก็จะติดตั้งเครื่องแรงอย่างบล็อก 2.0 ลิตร TFSI ให้กำลัง 231 แรงม้า (HP) แรงบิด 370 นิวตันเมตร แรง
จี๊ดจาก 0 – 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 5.9 วินาที ทำความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ที่มาพร้อมกับระบบ
ขับเคลื่อนสี่ล้อ Quattro ที่ส่งกำลังขับเคลื่อนอย่างสนุกสนาน

สำหรับกำหนดการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ Audi ยังไม่ได้ประกาศ แต่คาดว่าคงอดใจรอไม่นานนี้

ที่มา : Worldcarfans