เสียงของป้าคนหนึ่ง ตะโกนเรียกหน้าบ้าน ระหว่างที่ผมกำลังนั่งเขียน
บทความเที่ยวญี่ปุ่น ให้คุณๆได้อ่านกันอยู่ ในเช้าวันเสาร์อันเงียบสงบ
เป็นเสียงของคุณป้าคนหนึ่ง บอกให้ไปรับถุงยังชีพ
ได้ฟังดังนั้น อารมณ์ของไอ้จิมมี่ อันเป็นชื่อผู้เขียน ที่ยังดีอยู่ กลับมาพุ่งปรี๊ด อย่างฉับพลัน…
วันน้ำท่วม 13 ตุลาคม…วันนี้ 31 ตุลาคม 2009…ดูดู๊ดู ดูเธอทำ!!!
คุณพ่อก็เลยตะโกนเรียกผม ให้ลงจากที่นอน ละวางจากโน้ตบุ๊ค
ที่กำลังเต็มไปด้วยข้อความมากมาย ให้คว้าบัตรประชาชน
เดินออกไปหน้าปากซอย ไปรับ “ถุงยังชีพ” กับเขาด้วย ทั้งที่ใจผม
ไม่ได้อยากจะรับถุงนี้กับเขาเล้ยยย มันควรถูกเอาไปช่วยผู้ที่เดือดร้อนกว่าผม
แต่ที่ตัดสินใจ ลงชื่อรับมาหนะ ก็เพราะ จะต้องรับเพื่อ เอามาเขียนให้คุณๆ
ได้อ่านกันนี่ไงละครับ!!
ผมรับมา ด้วยอารมณ์ ฉุนกึก แต่ฉุกคิดว่า ถ้าจะด่าหนะ บรรดาคุณลุงคุณป้า
ที่อาสามาช่วยแจกถุงยังชีพเหล่านี้ ไม่ควรโดนผมด่า เพราะ พวกเขาทำตามหน้าที่
และ ก็เหนื่อยล้ามาพอสมควรแล้ว แต่ละถุงที่แบกกันมา ก็หนักอึ้งไม่ใช่เล่น
ขนาดผมแบกเอง มันก็ยังหนักเลย แต่จะหนักด้วยอะไรข้างในนั้น
ผมบอกตามตรง ผมไม่รู้ครับ เพราะผมยังไม่ได้แกะดู
ไม่กล้าแกะดูด้วยว่า ข้างใน มีอะไรซุกซ่อนไว้หรือเปล่า
เลยปล่อยทิ้งไว้บนโต๊ะกินข้าว ที่เพิ่งโดนน้ำท่วมเสียจนขาโต๊ะเริ่มร่อน นั่นแหละ
แทนที่จะแก้ข้าวของข้างในออกมา ใช้ “ยังชีพ” ผมกลับ อยากจะเอาถุงทั้งหมดนี้
แบกยกขึ้นหิ้งเอาไว้ กราบไหว้สักการะบูชา ถึงคุณงามความดีของภาครัฐ ที่เห็นใจ
ในชะตากรรมของผู้คนในย่านบางนา เสียจนแทบจะเอาสิบนิ้วประนมกร ยกมือวันทา
ก้มลงไปกราบที่แทบตัก เสียให้รู้แล้วรู้รอด!
ระหว่างนั้น ก็จะจุดธูป..สามดอก…ไม่สิ ดอกเดียวพอ แล้วก็ส่งคำอธิษฐานเชิงถามไถ่
ไปยังหน่วยงานราชการของไทยกันสักหน่อยว่า
พี่ครับ ไม่ทราบว่า พี่แพ็คถุงยังชีพ ใส่หลัง “หอยทาก” คลานเป็นขบวนพาเหรด
ออกจากกระทรวงมหาดไทย ไปอ้อมทะเลทรายซาฮาร่า แล้วไปวกเข้า แหลม กู๊ดโฮป
ลอดช่องแคบสิงค์โปร์ แล้วข้ามทะเลไปเลี้ยวกลับที่เทพีสันติภาพในนิวยอร์ก ก่อนจะให้
ว่ายน้ำผ่านกระแสน้ำอุ่น ข้ามทะเล กลับมาขึ้นบกที่สัตหีบ ก่อน ถึงจะมาส่งให้ผมเหรอครับเพ่??
เพ่เอามาให้ทำ(ห่าน)อะไรเวลานี้ครับ?
ไม่รอให้น้ำท่วมโลก ปี 2012 จบลงซะก่อนเลยละ ถึงค่อยมาส่ง เนี่ย!!
พี่คิดดูสิ บ้านผม น้ำท่วม เข้าบ้านครึ่งแข้ง 1 สัปดาห์เต็ม รถบ้านผม
ชิบหายวายป่วงไปทั้ง 2 คัน คันนึง ถึงขั้นเปลี่ยนแหวนลูกสูบ เสียตังค์ไป
2 หมื่นกว่าบาท แพงพอกับเปลี่ยนเครื่องเก่าจาญี่ปุ่นเลย รอจนน้ำลด ได้ระดับนึง
ยังไม่ถึงกับแห้งนัก ผมก็ต้องขึ้นเครื่องบิน ไปดูงาน และทำงานที่ญี่ปุ่น
1 สัปดาห์ให้หลัง บินกลับมา ปั่นบทความไป 2 เรื่อง ทำข้อตกลง โฆษณา
ลงบนเว็บเราไปได้ 2 รายเรียบร้อย ประชุมทีมงานเว็บทั้งหมดผ่านพ้นไป
พวกพี่เพิ่งจะส่งถุงยังชีพมาให้บ้านผมเนี่ย!!!!!!!
ไม่รอให้เมียผมคลอดลูกซะก่อน แล้วค่อยเอามาให้กันเลยละ?
ไม่ต้องถามนะ ว่าเมียผมเป็นใคร เพราะผมยังไม่มีเมีย
และไม่คิดจะหาเมียด้วย อยู่เป็นโสดไปแบบนี้ดีกว่า
จะได้ไม่ต้องมีลูกหาน เกิดมารับชะตากรรม แบบผม
ไม่ต้องทนดูความฮาขี้แตก จากความล่าช้าอืดอาดของหน่วยงานราชการไทย!
หรืออีกนัยหนึ่ง ผมกำลังจะบอกว่า พี่ไม่รอให้ถึงชาติหน้าก่อนละครับ ค่อยมาส่ง?
เวลาที่น้ำ ซึ่งท่วมขังในบ้านผม ระดับครึ่งแข้ง มันลดระดับลงจนแห้งเหือดหายไปแล้ว
เวลาที่สถานการณ์มันกลับสู่สภาวะปกติแล้ว ต้องผ่านไปถึง 2 สัปดาห์ ถุงยังชีพ ถึงจะโผล่มาจ๊ะเอ๋!
พี่คิดดู! Honda City บ้านผมเนี่ย น้ำท่วมเข้าพรม จนต้องให้ ศูนย์ Honda บางพลี
ถอดพรม ซักตากไว้จนแห้ง แถมเจ้าหน้าที่ศูนย์เฮงซวย ก็ดันทำรถผม
เป็นรอยถลอกเสียอีก โดนผมวีนแตก ด่าเทศนาไป 1 กัณฑ์
พอกลับจากญี่ปุ่น พรมก็ยังไม่แห้งดี ต้องรออีก 1 สัปดาห์
เนี่ย พอดี ว่า พรมแห้งปุ๊บ ถุงยังชีพ ของพี่ก็มาถึงพอดี
พี่กะจะให้ผม ต้มมาม่า ยังชีพ กันในรถผมเลยใช่ไหมคร้าบเพ่? หา?
(หน้าตาของถุงยังชีพ ขอหันด้านหลังให้ชมกัน ไม่อยากหันด้านหน้า ซึ่งมีชื่อ คนแจกแปะหราอยู่ ไม่อยากให้ใครออกจากงาน)
นี่ขนาด สมุทรปราการ บ้านใกล้เรือนเคียง ความเจริญของกรุงเทพมหานคร
ความช่วยเหลือจากภาครัฐยังชักช้าขนาดนี้ แล้วนับประสาอะไรกับคุณตาคุณยาย
ในจังหวัดอันธุระกันดาร กว่าบ้านผมเยอะมากกันละเนี่ย? หา?
อยากจะบอกให้เอาบุญว่า ถุงยังชีพพระราชทาน จากในหลวงท่าน
ยังมาถึงเร็วก่อนพวกคุณเลย!!! ท่าน ไม่เคยทิ้งประชาชน จริงๆ !!
แม้ว่าบ้านผมจะไมได้รับถุงยังชีพพระราชทาน
แต่เพียงแค่ได้ยินเท่านี้ พวกเราก็ทราบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ ของพระองค์ท่าน
ที่ท่านทรงเมตตา ประชาชนของท่าน และช่วยเหลือในเบื้องต้น อย่างทันท่วงที
ในแทบทุกครั้งที่พสกนิกรของท่านต้องเจอชะตากรรมที่ไม่ตั้งใจให้เกิด
ผมดีใจมาก ที่เกิดมาเป็นราษฎรในใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทของท่าน
แต่ แอบเซ็งนิดหน่อย ที่เกิดมา แล้วต้องมาร่วมชะตากรรม กับ ระบบราชการของไทย
ไม่สิ ต้องบอกว่า เซ็งมากสุดๆ ในระดับ เซ็งเป็ด!
ดูพวกคุณเข้าสิ จะช่วยเหลือประชาชนทั้งที อนุมัติอะไรกันแต่ละที
ชักช้ายึดยาด อึดอาดไม่ทันการณ์ อยากจะบอกให้รู้เอาไว้ด้วยว่า
คนในหมู่บ้านรัตนธานี หนะ เค้าทนรอความช่วยเหลือจากคุณไม่ไหว
โดนไฟช็อต ตายไปคนนึงแล้ว ในวันที่น้ำท่วมนั่นแหละ!
ผ่านมา 2 สัปดาห์ ถุงยังชีพ พึ่งจะมาถึง! โอย ตูจะบ้า! มีอะไรฮาขี้แตกกว่านี้อีกไหม???
แล้วไอ้สาเหตุที่น้ำท่วมงวดนี้ ไม่ใช่เพราะสนามบินสุวรรณภูมิหรอกเหรอ
ที่สูบน้ำในสนามบินของตน ในวันฝนตกบ้าคลั่ง มาทิ้งไว้เรี่ยราดรอบละแวกสนามบิน
จนพวกเราเดือดร้อนกันถ้วนหน้า ไม่ว่ายากดีมีจน ยังได้ยินว่า
คุณสุทธิชัย หยุ่น เอง ก็ถึงขั้นต้องจอดรถไว้หน้าหมู่บ้าน
เดินขึ้นรถอีแต๋น ไปพร้อมกับคนอื่นๆเขาเลย
นี่ก็ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้น โดยคนของภาครัฐอีกเช่นกัน…..
นี่แหละครับ ระบบราชการไทย ทำงานชักช้ายืดยาดหาสวรรค์วิมาณรำไร ได้ใจไพร่ฟ้าปากหมาอย่างผมจริงๆ!!
———————————————
ปล. น้องๆในเว็บ ฝากบอกมาว่า
“ไม่รอให้ถึงปีใหม่ แล้วค่อย แต่งชุดซานตาครอส ผูกโบว์ คาดริบบิ้น ที่ปากถุง มาส่งให้ ซะเลยละ?”
———————————————–///—————————————————-
J!MMY
สงวนลิขสิทธิ์ ทั้งภาพและบทความ
ภาพถ่าย เป็นภาพของบ้านผู้เขียน ถ่ายเมื่อ 13 ตุลาคม 2009 เวลา น่าจะราวๆ ก่อนเที่ยงนิดหน่อย
เผยแพร่ครั้งแรกใน www.headlightmag.com
31 ตุลาคม 2009
หลังรับ “ถุงยังชีพ” มาได้ ไม่เกิน 1 ชั่วโมง!!