เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย เปิดตัวรถยนต์ใหม่ของตนอย่างฉับไวอีกครั้ง ด้วย CLS-Class รุ่นปรับโฉม
หรือ The New Generation CLS ทั้งรุ่นคูเป้ 4 ประตู และรุ่น Shooting Brake ไปแล้ววันนี้ (4 กันยายน 2557)
ทำราคาเริ่มต้นเย้ายวนใจ 4.49 ล้านบาท ต่ำกว่ารุ่นก่อนปรับโฉมพอสมควรทีเดียว

alt

ความเปลี่ยนแปลงหลักอยู่ที่รูปลักษณ์ด้านหน้า ด้วยการเปลี่ยนกระจังหน้าที่ออกแบบใหม่ในสไตล์เพชร Diamond Grille
ที่โดดเด่นมาตั้งแต่การเปิดตัวใน A-Class รวมไปถึงการเปลี่ยนโคมไฟหน้าเทคโนโลยีล่าสุดที่ค่ายดาวสามแฉก
ขอเคลมว่าดีที่สุดในปัจจุบัน ‘Multibeam LED’ มาไว้ในรถยนต์ของตน โดย Mercedes-Benz กล่าวว่า
เป็นความมุ่งมั่นที่ต้องการมอบ “สิ่งที่ดีที่สุด” ให้แก่ลูกค้า เพื่อสะท้อนคุณค่าของแบรนด์ทั้งในด้านความหลงใหล
และความสมบูรณ์แบบ

alt

มร.ไมเคิล เกรเว่ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “The CLS-Class เป็นรถยนต์ในกลุ่ม Dream Car
ที่มีรูปลักษณ์อันโดดเด่นล้ำสมัยด้วยรูปทรงแบบคูเป้ 4 ประตู โดยเมอร์เซเดส-เบนซ์เป็นแบรนด์รถยนต์แบรนด์แรกที่ได้ออกแบบรถยนต์รูปทรงนี้
ขึ้นมาด้วยการผสานความสง่างามและปราดเปรียวสไตล์รถคูเป้เข้ากับความสะดวกสบายและประโยชน์ใช้สอยของรถซาลูนเข้าไว้ด้วยกัน”

ส่วนภายในห้องโดยสารมีความเปลี่ยนแปลงเช่นกัน โดยเปิดตัวหน้าจอแสดงผลระบบอินโฟเทนเมนต์ COMAND
แบบใหม่ ขนาด 8 นิ้ว โดยติดตั้งแบบลอยตัว อย่างที่เคยเห็นกันใน A-, CLA-, GLA- และ C-Class ใหม่ มาแล้ว

alt

สำหรับหลักการทำงานของเทคโนโลยีไฟส่องสว่าง MULTIBEAM LED ที่ทางเมอร์เซเดส-เบนซ์ได้คิดค้นพัฒนาขึ้นเพื่อให้สามารถปรับลักษณะ
การกระจายแสงให้อยู่ในรูปแบบที่เหมาะสมกับทุกสภาพการขับขี่และสภาพการจราจรอย่างอัตโนมัติ โดยจะมีระบบ Adaptive Highbeam Assist Plus
ที่อาศัยกล้องเป็นตัวช่วยในการส่งข้อมูลสนับสนุนการทำงานของไฟส่องสว่าง ซึ่งหากระบบตรวจพบแสงจากรถที่ขับขี่สวนทางมาหรือรถยนต์ที่ขับขี่อยู่ด้านหน้า
ระบบควบคุมแหล่งกำเนิดแสงจะทำการแบ่งพื้นที่ พร้อมสั่งงานให้ไฟหน้าแบบ LED ที่บรรจุอยู่ในไฟหน้าด้านละ 24 ดวงสามารถทำงานแยกกันแบบอิสระ
เพื่อส่องสว่างไปยังพื้นที่บางส่วนของถนน และเว้นระยะของลำแสงหลักเพื่อให้มีช่องว่างแคบที่สุด เพื่อไม่ให้รบกวนสายตาผู้ขับขี่ของรถคันอื่นๆ รอบตัว
แต่ยังสามารถมองเห็นเส้นทางได้อย่างชัดเจน

Mercedes-Benz CLS-Class ใหม่ ที่จำหน่ายในไทย จะมีเพียงเครื่องยนต์เพียงแบบเดียว ได้แก่รุ่น 250 CDI
เครื่องยนต์ดีเซล แบบ 4 สูบเรียง พร้อมเทอร์โบ ขนาด 2.2 ลิตร ให้กำลัง 204 แรงม้าที่ 3,800 รตน.
และแรงบิดสูงสุด 500 นิวตัน-เมตรตั้งแต่รอบ 1,600-1,800 รตน.

alt
alt

โดยรุ่น CLS 250 CDI Exclusive จะสนนราคาเริ่มต้นที่ 4.49 ล้านบาท CLS 250 CDI พร้อมชุดแต่ง AMG Premium
สนนราคาที่ 4.99 ล้านบาท และรุ่น CLS 250 CDI Shooting Brake AMG Premium จะมีราคาที่ 5.09 ล้านบาท
โดยสามารถจับจองเป็นเจ้าของกันได้แล้ว ณ โชว์รูมเมอร์เซเดส เบนซ์ อย่างเป็นทางการทั่วประเทศ โดยจะเริ่ม
ส่งมอบให้กับลูกค้าได้ตั้งแต่เดือนตุลาคมเป็นต้นไป