ณ เวลานี้น่าจะเป็นช่วงที่ BMW ขาขึ้นมากที่สุดในประวัติศาสตร์ยานยนต์เพราะรถยนต์รุ่นใหม่หลายรุ่นล้วนทำตลาด
อย่างประสบความสำเร็จแทบทั้งนั้น โดยเฉพาะครอสโอเวอร์เอสยูวีที่น่าจะเป็นตลาดหลักสำคัญที่เชิดหน้าชูตายอดขาย
รวมและผลกำไรของ BMW ไปไม่น้อย
วันนี้ เราก็มาเปิดเผยแผนการเปิดตัวรถยนต์ BMW ในอนาคตพอสังเขปกัน เบื้องต้น BMW ก็ได้ซุ่มพัฒนาแพลทฟอร์ม
ขับเคลื่อนล้อหลังใหม่ล่าสุดที่ BMW เรียกกันว่า 35Up platform (มองเผิน ๆ ก็นึกว่าแพลทฟอร์มสำหรับคนอายุ 35 ปี
ขึ้น!) เหมาะสำหรับรถยนต์ BMW ตั้งแต่ 3, 5, 6, 7-Series โดยเฉพาะ
รถยนต์คันแรกที่ได้ใช้ 35Up Platform ก็คือ All New 7-Series ที่จะเปิดตัวในปี 2015 แล้วหลังจากนั้นอีก 18 เดือนเรา
ก็จะได้เห็น 5-Series และ 5-Series GT โฉมใหม่กัน
สำหรับ BMW 5-Series โฉมใหม่ที่ใช้แพลทฟอร์มใหม่ 35Up จะมีจุดเด่นทางด้านงานวิศวกรรมด้วยการใช้วัสดุโลหะทน
ต่อการบิดตัวสูง, คาร์บอนไฟเบอร์และชิ้นส่วนอลูมิเนียม และที่สำคัญ BMW จะติดตั้งระบบขับขี่กึ่งอัตโนมัติที่ถ่ายทอด
เทคโนโลยีมาจาก 7-Series รุ่นใหม่ ส่วน 5-Series GT ตัวต่อไปก็จะมีสไตล์ที่ไหลลื่นใกล้เคียงกับ 3-Series GT
พอประมาณ
BMW 7-Series โฉมใหม่จะต้องอัพเกรดเรือนร่างให้ล้ำสมัยขึ้นด้วยการใช้วัสดุตัวถังตั้งแต่โลหะหลากชนิดจนถึงวัสดุ
คาร์บอนไฟเบอร์เพื่อช่วยลดน้ำหนักและปรับปรุงประสิทธิภาพการขับขี่ นอกจากนี้ยังติดตั้งระบบขับขี่กึ่งอัตโนมัติ ตั้งแต่
ระบบช่วยจอดและ Cruise Control ช่วยกะระยะรถคันหน้าได้
สำหรับรถรุ่นอื่นของ BMW ก็มีคิวเปิดตัวรอกันอย่างบ้าระห่ำ ได้แก่ i5 รถไฟฟ้าที่นำ i3 มาต่อขยายให้กลายเป็นรถ 5
ประตูเปิดได้ตามปกติ 5 ที่นั่งที่จะมาในปี 2017, 1-Series Sedan ที่เกิดมาเพื่อต่อกรกับ Audi A3 Sedan และ
Mercedes-Benz CLA โดยตรง ตัวรถถูกสร้างบนพื้นตัวถังขับเคลื่อนล้อหน้าใหม่
BMW X1 โฉมใหม่ก็หันมาใช้พื้นตัวถังขับเคลื่อนล้อหน้า UKL1 ที่จะเปิดตัวด่วนทันใจภายในปีหน้า สิ่งที่น่าสนใจคือขนาด
ตัวถังของ X1 จะเล็กลงแต่ยังคงรักษาเนื้อที่ภายในห้องโดยสารให้เท่ากับรุ่นปัจจุบันเอาไว้ได้
BMW Z4 รุ่นต่อไปอาจจะพัฒนาร่วมกับ Toyota เพียงแต่ยังไม่ยืนยันว่า Z4 ใหม่จะมาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อและ
Hybrid ด้วยหรือไม่ กำหนดการเปิดตัวเจอกันในปี 2017, BMW X7 ครอสโอเวอร์ 7 ที่นั่งที่มาท้าดวลกับ Range Rover
เตรียมเปิดตัวในช่วงปี 2017-2018
ทั้งหมดนี้คือแผนการคร่าว ๆ ในอนาคตของ BMW
ที่มา : Autonews