ใครที่ยังรู้สึกไม่คุ้นชินหรือรับไม่ได้ที่ BMW จะทำรถยนต์ขับเคลื่อนล้อหน้าบ้าง? ถ้าจะให้พูดตรง ๆ เราก็คงไม่สามารถ
ปลอบประโลมผู้ที่ผิดหวังได้หรอก กลับกันเราควรจะต้องยอมรับความจริงว่าธุรกิจรถยนต์ต้องมีการพัฒนาและมีการ
แข่งขันที่สูงมาก (บางครั้งสูงจนเกินไปด้วยซ้ำ) ก็ทำให้ค่ายรถต้องไม่หยุดนิ่งอยู่กับที่เพื่อสนองความต้องการของผู้บริโภคที่
เปลี่ยนไปทุกวัน
BMW ก็เหมือนค่ายรถอื่น ๆ ที่ต้องเน้นการทำตลาดรถระดับคอมแพคท์มากขึ้น แต่ถ้ามัวยึดติดว่ารถเล็กของ BMW ต้อง
ขับเคลื่อนล้อหลังเท่านั้น เห็นทีคงไม่ทันกิน เพราะรถเล็กระดับนี้อาจไม่จำเป็นจะต้องขับหลังเพื่อให้เปลืองต้นทุนและ
เปลืองเนื้อที่ห้องโดยสารก็ได้ กลับกันประหยัดงบเอาไว้เพื่อทำรถให้มันดีมาก ๆ และชดเชยด้วยการปรับปรุงคุณภาพการ
ขับขี่ตามเอกลักษณ์ของแบรนด์น่าจะดีกว่า
Kai Lichte โฆษกประจำหน่วยประสานงานองค์กรและภาครัฐจาก BMW ได้เปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์ BMW Group
ภายในปี 2020 จะต้องมาจากรถยนต์ขับเคลื่อนล้อหน้าในสัดส่วนมากกว่า 40% โดยรถยนต์ขับเคลื่อนล้อหน้าทั้งหมด
จะต้องถูกพัฒนาขึ้นบนแพลทฟอร์ม UKL1 ที่รองรับการพัฒนารถยนต์ที่มีความยาวระหว่าง 3.8 เมตรจนถึง 4.5 เมตร
สำหรับรถยนต์ BMW รุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าทั้งหมดจะต้องเป็นรถตระกูลที่เล็กกว่า 3-Series เท่านั้น และมีความเป็นไปได้
ว่ารถขับเคลื่อนล้อหน้าจาก BMW จะมีให้เลือกมากถึง 12 รุ่นส่วน Mini มีให้เลือก 10 รุ่น
แผนการเบื้องต้นของ BMW คือการเปิดตัว BMW 2-Series Active Tourer รถขับเคลื่อนล้อหน้าคันแรกจาก BMW
ต่อจากนั้นก็จะถึงคิวของ X1 และ 1-Series โฉมใหม่ ถัดจากนั้นก็จะเปิดตัว X2 เวอร์ชันสปอร์ตของ X1 และ 0-Series ซับ
คอมแพคท์คันใหม่ที่มีขนาดเดียวกับ Mini
เหตุผลสำคัญที่ทำให้บรรดารถเล็กจาก BMW สามารถเปลี่ยนมาใช้แพลทฟอร์มขับเคลื่อนล้อหน้าโดยไม่ต้องคิดมากก็คือ
ลูกค้าที่ซื้อ 1-Series ส่วนใหญ่ไม่ได้แคร์เรื่องคุณภาพการขับขี่เป็นหลัก แต่จะแคร์เรื่องเนื้อที่ภายในห้องโดยสารมากกว่า
นอกจากรถขับเคลื่อนล้อหน้าก็มีอัตราการปล่อยค่าไอเสียต่ำกว่ารถ BMW ที่ขายโดยส่วนใหญ่ก็ทำให้มีโอกาสเก็บเกี่ยว
ลูกค้าด้วยเหตุผลจุดนี้
ส่วนใครที่ฝันว่าอยากจะเห็น BMW 3-Series ตัวต่อไปแบบขับเคลื่อนล้อหน้า เห็นทีจะต้องฝันสลายเพราะ BMW มองว่า
3-Series มีภาพพจน์แบรนด์ด้านสมรรถนะที่แข็งแรง การใช้พื้นตัวถังขับเคลื่อนล้อหลังมันก็เกี่ยวข้องกับภาพลักษณ์และ
สมรรถนะการขับขี่โดยตรง
และข่าวถัดมา BMW คิดจะเฉลิมฉลองครบรอบแบรนด์ 100 ปีด้วยการออกรถยนต์ตระกูล I รุ่นใหม่ที่ไม่เคยมีที่ไหนมา
ก่อน อาจจะเป็น i9 รถ HyperCar ที่นำขุมพลังจาก i8 มาโมดิฟายด์ใหม่ให้แรงสะใจขึ้นมากโดยได้รับอิทธิพลการพัฒนา
มาจาก M1 ส่วน i5 หรือ i3 เวอร์ชันเจาะตลาดครอบครัวก็พอมีโอกาสเป็นรถฉลองครบรอบแบรนด์ได้เช่นกัน
ที่มา : Car Advice/ motoring.com.au