ในสัปดาห์ที่ผ่านมา Subaru ได้ยื่นรายงานกับทางการของประเทศญี่ปุ่น เพื่อยอมรับว่าบริษัทได้บิดเบือนอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง และค่ามลพิษจริง โดยปรากฏหลักฐานว่าเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2012 แต่มีผลกระทบต่อรถยนต์หลักร้อยคัน และ ไม่จำเป็นต้องเรียกรถยนต์เหล่านั้นกลับมาตรวจสอบ เนื่องจากความบกพร่องในครั้งนี้ ไม่ส่งผลเสียต่อเรื่องคุณภาพของรถยนต์

ในวันที่ 28 เมษายนที่ผ่านมา Yasuyuki Yoshinaga ประธานของ Subaru ได้ยื่นรายงานให้กับ Tetsuya Okuda ตัวแทนจากกระทรวงขนส่งประเทศญี่ปุ่น โดยมีใจความว่า บริษัทตรวจพบการบิดเบือนตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง และค่ามลพิษระหว่างขั้นตอนสุ่มตรวจรถยนต์ผลิตใหม่ 9 รุ่น รวมไปถึง Toyota 86 ที่ Subaru ผลิตให้ด้วย

รายงานยังระบุด้วยว่า ข้อบกพร่องดังกล่าวส่งผลกระทบต่อรถยนต์จำนวน 903 คัน ทั้งหมดผลิตขึ้นที่โรงงานใน Gunma ระหว่างเดือนธันวาคม 2012 – พฤศจิกายน 2017 ทั้งนี้ Subaru ยอมรับว่าไม่พบข้อมูลของการสุ่มตรวจรถยนต์ที่ผลิตก่อนปี 2012 ทำให้มีความเป็นไปได้สูงที่ข้อบกพร่องนี้ อาจจะเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2002

อย่างไรก็ตาม Subaru ระบุว่า ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเรียกรถยนต์ที่ได้รับผลกระทบทั้งหมด กลับมาตรวจสอบใหม่ เนื่องจากไม่มีผลกระทบต่อคุณภาพ นอกจากนั้น Subaru ยังเปิดเผยด้วยว่า มีความเป็นไปได้ 3 แนวทางที่นำไปสู่การบิดเบือนตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง และค่ามลพิษ ดังรายละเอียดต่อไปนี้

  • ผู้ตรวจสอบอาวุโสสั่งการให้ผู้ตรวจสอบรายอื่น บิดเบือนตัวเลขของรถยนต์สุ่มตรวจ คันที่ไม่ผ่านมาตรฐาน
  • ผู้ตรวจสอบตั้งใจบิดเบือนตัวเลข หรือปรับปัจจัยที่เกี่ยวข้อง จนได้ค่าตัวเลขตามต้องการ เพื่อที่จะไม่ต้องตอบคำถามผู้ที่มีตำแหน่งสูงกว่าว่า เหตุใดถึงพบปัญหาไม่ผ่านมาตรฐาน
  • ผู้ตรวจสอบไม่ได้รับการอบรมอย่างเพียงพอ ทำให้กระบวนการตรวจสอบเป็นไปอย่างไม่ถูกต้อง จนส่งผลให้ตัวเลขผิดเพี้ยนจากความเป็นจริง

Yoshinaga ประธานของ Subaru ได้แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งยังขออภัยต่อลูกค้า หุ้นส่วน และผู้ถือหุ้นทุกราย ที่ทำให้เกิดความไม่สบายใจในครั้งนี้ และบริษัทจะหามาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้อีก เนื่องจากข้อบกพร่องดังกล่าว ถือว่าละเมิดหลักปฏิบัติอย่างร้ายแรง

 

ที่มา: carscoops, japantimes