ความเปลี่ยนแปลงของงานออกแบบรถยนต์ Hyundai เริ่มเดินทางมาถึงแล้วเมื่อ Hyundai ได้เปิดตัว Lafesta รถยนต์ Sedan สไตล์ Coupe ที่งาน Auto China 2018 ที่กล้าประกาศชัดเจนเลยว่ารถคันนี้จะจับกลุ่มลูกค้าวัยหนุ่มสาวในตลาดจีนมากขึ้น
ความจริงที่น่าแปลกใจคือ ชื่อ Lafesta นั้นมันเคยเป็นชื่อรถ Compact MPV รุ่นหนึ่งของ Nissan ที่ทำตลาดในญี่ปุ่นมาตั้งแต่ปี 2004 ในฐานะคู่แข่งของ Toyota Wish และ Honda Stream หยุดการผลิตไปในปี 2012 เพื่อหลีกทางให้ Nissan Serena ทำตลาดได้อย่างเต็มที่ คาดว่าหลังจาก Nissan ได้ยุติการผลิต Lafesta ลงไปแล้ว Nissan ก็ไม่จำเป็นต้องต่ออายุทะเบียนเครื่องหมายทางการค้าอีกต่อไป จึงทำให้ Hyundai สามารถนำชื่อนี้ไปใช้ได้อย่างถูกต้อง
Lafesta เป็นคำภาษาอิตาลี ที่หมายถึงงานเทศกาล งานรื่นเริง ‘Festival’ ที่จะสื่อถึงรถยนต์ที่มีดีไซน์ปราดเปรียว น่าลุ่มหลง สะท้อนถึงความเป็นรถยนต์ที่มีสมรรถนะสูง จับกลุ่มลูกค้าที่เกิดอยู่ในช่วงยุค 80s ถึง 90s
สิ่งที่น่าสนใจคือ Hyundai Lafesta เป็นรถยนต์คันแรกที่ได้ใช้ New Design Language แบบใหม่ล่าสุด ‘Sensuous Sportiness’ มีความอ่อนช้อย โดยไม่ทิ้งลายความสปอร์ต นั่นก็ทำให้รถคันนี้มีเส้นสายที่ดูใกล้เคียงกับรถต้นแบบ Hyundai Le Fil Rouge Concept ในระดับหนึ่ง
เหตุผลสำคัญที่ทำให้ Hyundai ต้องรีบเปิดตัวรถรุ่นใหม่ด้วยทิศทางการออกแบบสำหรับตลาดจีนเป็นที่แรกในโลก ก็เพราะว่าจีนเป็นประเทศที่พัฒนาอย่างรวดเร็วไปพร้อมกับทัศนคติของคนในชาติ พวกเขามีความมั่นใจในตนเอง, มองในแง่บวกและมีความคิดสร้างสรรค์ ดังนั้น Hyundai Lafesta จึงสามารถสอดรับกับบุคลิกของคนจีนยุคใหม่ได้
จุดเด่นของการออกแบบคือการเป็นรถ Sedan สไตล์ Coupe ดีไซน์ปราดเปรียว ดูเผิน ๆ เหมือนนำ Hyundai i40 มาปรับแต่งใหม่ แต่เมื่อมองกันแบบเจาะลึกจะพบว่าโครงสร้างตัวถังด้านและบานประตูคู่หน้าของ Hyundai Lafesta มีตำแหน่งผิดเพี้ยนไป จึงมีความเป็นไปได้ว่า Hyundai Lafesta น่าจะถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐานเดียวกับ Elantra รุ่นปัจจุบัน
ด้วยเหตุผลของการวางตำแหน่งให้ Hyundai Lafesta เป็นรถยนต์แห่งสมรรถนะสูง จึงทำให้ต้องติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร Turbo จับคู่เกียร์อัตโนมัติ Dual Clutch 7 จังหวะ รวมทั้งมีการออกแบบภายในห้องโดยสารให้เน้นการใช้งานสำหรับผู้ขับขี่เป็นหลัก โดยที่ยังใส่ใจกับรายละเอียดการใช้งานและคุณภาพของวัสดุ
รายละเอียดทั้งหมดจะเผยได้ในช่วงปลายปี 2018 นี้
ที่มา : Motor1
รูปภาพเพิ่มเติม : Autohome