xในที่สุด Mercedes-Benz ก็ได้อวดโฉมหน้าใหม่ของ CLS Minorchange ออกมาอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว
หลังจากปล่อยทีเซอร์แค่เพียงไม่กี่วันเท่านั้น งานนี้ก็มีจุดขายหลักอยู่ที่โคมไฟหน้าอัจฉริยะ Multibeam LED ประกอบไป
ด้วยหลอด LED ที่ทำงานอิสระถึง 24 ดวงที่ควบคุมการทำงานจากการจับภาพจากกล้องและเซนเซอร์ 4 จุดที่รับภาพและ
ตรวจสอบสิ่งแวดล้อมได้ถึง 100 ครั้งต่อวินาที เพื่อให้แน่ใจว่าดวงไฟหน้า CLS Minorchange จะสามารถเปล่งประกาย
ในทุกสภาพการจราจรโดยไม่แยงสายตาผู้ขับขี่สวนทางกันมา นอกจากนี้ Mercedes-Benz ยังกล้าบอกอีกว่าไฟสูงของ
CLS Minorchange สามารถเปิดใช้งานได้ตลอดเวลาโดยไม่รบกวนต่อใช้รถใช้ถนนเลย

ยังไม่หมด กล้องยังสามารถตรวจจับภาพถนนโค้งหักศอกล่วงหน้าและเปล่งแสงก่อนที่จะถึงถนนโค้งหักศอก เคล็ดลับของ
ระบบการทำงานนี้จะต้องใช้ข้อมูลจากระบบนำทางเข้ามาช่วยวิเคราะห์ให้การส่องแสงเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงที่สุด
ทั้งหมดก็เป็นเทคโนโลยีที่ Mercedes-Benz เคลมไว้ว่ามันคือเทคโนโลยีการปรับกระจายแสงไฟหน้าอย่างเหมาะสม
อัตโนมัติที่แม่นยำกว่าที่เคยเป็นมา

งานออกแบบภายนอกที่มีความเปลี่ยนแปลงชัดมากที่สุดคือดีไซน์ด้านหน้าที่ดูหรูอัญมณีด้วยการออกแบบบานเกล็ด
กระจังหน้าให้มีการสะท้อนแสงเหมือนเครื่องเพชร, กันชนหน้าใหม่ที่มีช่องดักลมหน้าขนาดใหญ่ขึ้น

นอกจากจะมีการปรับโฉมภายนอกกันแล้ว Mercedes-Benz ก็ยังได้ลงทุนปรับโฉมภายในห้องโดยสารด้วย ที่แน่ ๆ เราก็
ได้เห็นเอกลักษณ์ใหม่ของรถยุคนี้คือความพยายามในการเอาชุดหน้าจอสัมผัสมาแปะยื่นออกจากแผงคอนโซลให้ได้มาก
ที่สุด แต่งานนี้ยอมลงทุนใช้จอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว เพื่อให้รู้สึกใช้งานง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังมีการเปลี่ยนลายไม้ที่ดูสวยหรูล้ำ
สมัยขึ้น

Mercedes-Benz CLS Minorchange มีรุ่นเครื่องยนต์ให้เลือกหลากรุ่นได้แก่ CLS 220 BlueTEC 4 สูบ เทอร์โบดีเซล
170 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร หากอยากจะแรงกว่านี้ก็ต้องเลือกรุ่น CLS 250 BlueTEC ที่ใช้เครื่องบล็อก
เดียวกันแต่ให้กำลัง 204 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร

CLS 350 BlueTEC จะติดตั้งเครื่องยนต์ V6 3.0 ลิตร เทอร์โบดีเซล 258 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 620 แรงม้า, CLS 400
(ตัวแทน CLS 350 CGI) ติดตั้งเครื่องยนต์ V6 3.0 ลิตร เทอร์โบคู่ ให้กำลัง 333 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 480 นิวตันเมตร,
CLS 500 ก็จะให้กำลัง 408 แรงม้า แรงบิด 600 นิวตันเมตร

CLS AMG จะยังใช้เครื่องยนต์ V8 5.5 ลิตร เทอร์โบคู่ 557 แรงม้า แรงบิด 720 นิวตัน ส่วน S-Model จะแรงถึง 585
แรงม้า แรงบิดสูงสุด 800 นิวตันเมตร สำหรับรุ่น CLS 220 BlueTEC, CLS 250 BlueTEC, CLS 350 BlueTEC และ CLS
500 จะสามารถออพชั่นเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ 9G-Tronic ให้เลือกใช้อีกด้วย โดยเกียร์ชุดนี้มีจุดเด่นด้านการยกระดับ
อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง, การขับขี่และความคล่องตัว

ระบบความปลอดภัยก็ถือเป็นสิ่งสำคัญมากใน Mercedes-Benz CLS Minorchange ด้วยการติดตั้งระบบ COLLISION
PREVENTION ASSIST PLUS ระบบเบรกอัตโนมัติหากรถจะชนท้าย นอกจากนี้ยังนำออพชั่นความปลอดภัยจาก
S-Class มาติดตั้งในรถคันนี้อย่างเพียบ ได้แก่ DISTRONIC PLUS พร้อม Steering Assist และ Stop&Go Pilot, BAS
PLUS พร้อม Cross-Traffic Assist, PRE-SAFE®Brake พร้อมระบบป้องกันการชนคนเดินทางเท้า, PRE-SAFE®PLUS,
Active Blind Spot Assist, Active Lane Keeping Assist, Traffic Sign Assist, Active Parking Assist
with PARKTRONIC ที่สามารถจอดแบบคู่ขนานได้ และกล้อง 360°

ทั้งหมดนี้คาดว่าเศรษฐีทั่วโลกน่าจะได้สัมผัสกัน

ที่มา : Worldcarfans