ก็ไม่รู้ว่าทำไมการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ของ Honda ในช่วง 10 ปีมานี้มักจะต้องพ้องกับเหตุการณ์สำคัญในบ้านเมืองเรา
อยู่เสมอ ที่จำติดตาได้คือการเปิดตัว Honda Jazz เจเนเรชั่นแรกรุ่น Minorchange ที่สาดสีเหลืองเข้ากับเหตุการณ์ปี
2006 ล่าสุด All New Honda Jazz เจเนเรชั่นที่ก็ดันเปิดตัวในช่วงที่บ้านเมืองเราออกกฎอัยการศึกพอดี แต่สิ่งที่ความเป็น
มืออาชีพจะต้องมีและจะต้องเป็นก็คือ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นทุกสิ่งทุกอย่างก็ต้องดำเนินต่อไปหรือภาษาอังกฤษจะพูดว่า
The Show Must Go On
บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศเปิดตัวรถยนต์ All New Honda Jazz เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม
2014 ที่เน้นการสื่อสารการตลาดไปยังกลุ่ม GEN ME ที่มีไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย เป็นคนรุ่นใหม่ยุคดิจิตอลที่เน้นการ
สื่อสารออนไลน์ Honda Jazz โฉมใหม่
ตัวรถมีการพัฒนาและออกแบบใหม่สไตล์สปอร์ตตั้งแต่กระจังหน้าหน้าจรดไฟท้ายแบบ LED เหมือนกับเวอร์ชันญี่ปุ่น
ภายในห้องโดยสารกว้างขวางสะดวกสบาย และรองรับการใช้งานที่หลากหลายด้วยเบาะนั่งปรับพับได้แบบ Ultra Seat
อันเป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่นของ Honda Jazz มาพร้อมกับเครื่องยนต์ i-VTEC 1.5 ลิตร 117 แรงม้า ผสานเกียร์ CVT
ใหม่ ที่พัฒนาภายใต้เทคโนโลยี Earth Dream พร้อมระบบช่วยขับขี่แบบประหยัดน้ำมัน Eco Assist และรองรับพลังงาน
ทางเลือก E85
Honda Jazz โฉมใหม่ มี 6 รุ่น ราคาตั้งแต่ 555,000 – 754,000 บาท ทั้งยังมี 2 สีใหม่ ให้เลือก ได้แก่ สีเหลืองแอทแทรค
(มุก) ใหม่ และน้ำเงินบริลเลียนท์ สปอร์ตตี้ (เมทัลลิก) ตั้งเป้าการจำหน่าย 20,000 คัน ภายในหนึ่งปี
นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า
“ฮอนด้า ได้ริเริ่มนำรถรุ่น Honda Jazz ซึ่งเป็นรถยนต์แฮทช์แบ็ก 5 ประตูเข้ามาในประเทศไทย เมื่อปี 2546 โดย Honda
Jazzได้สร้างกระแสความนิยม และพลิกโฉมความต้องการใช้รถยนต์ของตลาดในประเทศด้วยดีไซน์แปลกใหม่ การขับขี่
คล่องตัว มากด้วยประโยชน์ใช้สอย จวบจนปัจจุบัน Honda Jazz ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องทั้ง 2 เจนเนอเรชั่น ด้วย
ยอดขายสะสมในประเทศไทยกว่า 205,000 คัน และเป็นรถที่ครองใจลูกค้าทั่วโลกด้วยยอดขายสะสมรวม 5.2 ล้านคัน
สำหรับ Honda Jazz ใหม่ เจนเนอเรชั่นที่ 3 นี้ ฮอนด้าได้วิจัยและพัฒนาเพื่อให้มีความโดดเด่นทันสมัยเพิ่มมากขึ้นในทุก
มิติ ทั้งนี้เพื่อให้ Honda Jazz ใหม่ สามารถเติมเต็มทุกมิติ ไลฟ์สไตล์ ตอบสนองการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ในยุคดิจิตอลได้
เป็นอย่างดี สมกับเป็นนิยามใหม่ของรถยนต์แฮทช์แบ็กอย่างแท้จริง”
Honda Jazz โฉมใหม่ มีความโดดเด่น 4 ด้าน ได้แก่
1.การใช้งานแบบมัลติฟังก์ชั่น (Multi-Function) ด้วยระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว แบบ Advanced
Touch รองรับการเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย รองรับการเชื่อมต่อภาพและเสียงผ่าน HDMI รองรับระบบสั่งการด้วย
เสียง Siri Eyes Free Mode (สำหรับ iPhone 4s ขึ้นไป) รองรับการเชื่อมต่อ HondaLink Application (เฉพาะ Smart
Phone บางรุ่น) จอแสดงผลอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง ระบบปรับอากาศอัตโนมัติพร้อมแผงควบคุมแบบสัมผัส ระบบ
สตาร์ทเครื่องยนต์แบบอัจฉริยะ สะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วยพวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่นที่ให้การควบคุมง่ายเพียงปลายนิ้ว
ด้วยสวิตซ์ควบคุมเครื่องเสียงและปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์บนพวงมาลัย
2.การขับขี่ที่สนุก (Multi-Drive) เครื่องยนต์ i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว ขนาด 1.5 ลิตร ผสานระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT ใหม่
ให้กำลังสูงสุด 117 แรงม้า ด้วยแรงบิดสูงสุดที่ 146 นิวตัน-เมตรที่ 4,700 รอบต่อนาที ตอบสนองทุกการขับขี่ที่สนุกยิ่งขึ้น
ด้วยระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยแบบ 7 สปีด สะดวกสบายกับระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ
นอกจากนี้ยังมี Eco Coaching ระบบแสดงผลการขับขี่แบบประหยัดน้ำมัน รวมทั้งปุ่ม Econ Mode เป็นระบบที่ช่วยลด
การใช้พลังงานที่สิ้นเปลือง โดยจะปรับการทำงานของเครื่องยนต์และเกียร์ให้ทำงานสัมพันธ์กัน รวมทั้งปรับการทำงานของ
ระบบปรับอากาศและการหมุนเวียนอากาศภายในห้องโดยสารให้เหมาะสมกับอุณหภูมิภายนอกรถ เพื่อช่วยควบคุมการ
ใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และสามารถรองรับพลังงานทางเลือก E85
3. มาตรฐานความปลอดภัย (Multi-Safety) ด้วยโครงสร้างตัวถังแบบ G-Force Control (G-CON) ระบบเบรกป้องกัน
ล้อล็อก (ABS) พร้อมระบบกระจายแรงเบรก (EBD) ระบบควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (VSA) ระบบช่วยการออกตัว
ขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA) และสัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS) ซึ่งมีอยู่ใน Honda Jazz ใหม่
ทุกรุ่น นอกจากนี้ยังเพิ่มความปลอดภัยยิ่งขึ้นด้วยกล้องส่องภาพด้านหลัง ปรับมุมมองได้ 3 ระดับ และเทคโนโลยีความ
ปลอดภัยของรถระดับพรีเมียม อาทิ ระบบถุงลม 6 ตำแหน่ง ได้แก่ ถุงลมคู่หน้า (Dual SRS) ถุงลมด้านข้างคู่หน้า
แบบอัจฉริยะ (i-Side Airbag) พร้อมม่านถุงลมด้านข้าง (Side Curtain Airbags)
4.ตอบรับทุกการใช้งานที่หลากหลาย (Multi-Utility) ด้วยเบาะนั่งอัลตร้า ซีทที่ปรับเปลี่ยนได้ถึง 4 โหมด ได้แก่ Utility
Mode, Long Mode, Tall Mode และเพิ่มโหมดใหม่ล่าสุด Refresh Mode ที่สามารถพับเบาะด้านหน้าเชื่อมต่อเบาะ
ด้านหลัง สร้างพื้นที่ผ่อนคลายสะดวกสบายสูงสุด ตอบสนองได้ทุกไลฟ์สไตล์ พร้อมที่วางแก้วน้ำมากสุด 9 ตำแหน่ง ที่วาง
โทรศัพท์มือถือ และกล่องเก็บแท็บเล็ต
ฮอนด้า แจ๊ซ ใหม่ มีให้เลือก 6 รุ่น ได่แก่ รุ่น S MT ราคา 555,000 บาท, S AT ราคา 594,000 บาท, V ราคา 654,000 บาท,
V+ ราคา 694,000 บาท, SV ราคา 739,000 บาท และรุ่น SV+ ราคา 754,000 บาท โดยมีให้เลือก 6 สี ได้แก่ สีเทาโมเดิร์น
สตีล (เมทัลลิก) สีเงินอลาบาสเตอร์ (เมทัลลิก) สีดำคริสตัล (มุก) และสีขาวทาฟเฟต้า และ 2 สีใหม่ ได้แก่ สีเหลืองแอท
แทรค (มุก) สีน้ำเงินบริลเลียนท์ สปอร์ตตี้ (เมทัลลิก) (สำหรับสีมุกเพิ่ม 6,000 บาท) ส่วนภายในห้องโดยสารทุกรุ่นเป็นสี
ดำ รุ่น S, V และ V+ เป็นเบาะผ้าสีดำ และรุ่น SV และ SV+ เป็นเบาะผ้าสีดำแบบสปอร์ต
Honda Jazz เน้นการสื่อสารการตลาดไปยังกลุ่ม GEN ME ซึ่งสนุกกับชีวิตที่เป็นได้มากกว่าหนึ่งเป็นตัวแทนของกลุ่ม
ลูกค้าเป้าหมาย เพราะสะท้อนความเป็น Honda Jazz ใหม่ ที่สามารถตอบสนองได้ทุกไลฟ์สไตล์ โดยทางฮอนด้าได้เริ่ม
สร้างกระแสแคมเปญในสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อให้ GEN ME ได้ลองนิยามความเป็นตัวของตัวเอง หรือ
NEWDEFINITIONOFME ของแต่ละคน ผ่าน Instagram หรือ facebook โดยมีผู้เข้าร่วมจำนวนมาก และตั้งแต่วันนี้
เป็นต้นไปจะมีการเผยแพร่ภาพยนตร์โฆษณา #NEWDEFINITIONOFHATCHBACK ซึ่งสื่อสารภายใต้แนวคิด Life is
never too much เพื่อสะท้อนความเป็นรถยนต์แฮทซ์แบ็กที่ตอบสนองความต้องการในการใช้งานที่หลากหลายได้อย่าง
ลงตัว
นอกจากนี้ยังจัดกิจกรรมพิเศษ #MULTIFUNLIFE with All-new Honda Jazz เพื่อเชิญชวนประชาชนทั่วไปสร้างสรรค์
คลิปวีดีโอภายใต้คอนเซ็ปต์ New Definition of Me ความยาวไม่เกิน 1 นาที โดยส่งคลิปวีดีโอเข้าร่วมประกวดได้ที่
www.honda.co.th/jazz ตั้งแต่วันที่ 1 – 30 มิถุนายน ศกนี้ โดยผู้ชนะเลิศ จะได้รับรางวัลรถยนต์ฮอนด้าแจ๊ซ รุ่น SV
มูลค่า xxx,xxx บาท จำนวน 1 คัน และรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย ติดตามความเคลื่อนไหว และรายละเอียดของกิจกรรมได้
ที่ www.honda.co.th/jazz
ผู้สนใจ สามารถเยี่ยมชมฮอนด้า แจ๊ซ ใหม่ ได้ที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศหรือ www.honda.co.th/jazz และสำหรับท่าน
สื่อมวลชนสามารถติดตามความเคลื่อนไหวหรือดาวน์โหลดข้อมูลข่าวสารของฮอนด้าเพิ่มเติมได้ที่
www.honda.co.th/media