กลายเป็นว่าวันนี้ (7 พฤษภาคม 2014) เป็นวันที่ผู้สื่อข่าวมวลชนในระดับโลก (ยกเว้นเมืองไทย) ต่างก็พากันฮือฮากับแผน
ธุรกิจใหม่ระยะกลางของบริษัท Fiat Chrysler Automobiles (FCA) ในระยะเวลา 5 ปีข้างหน้าที่เรียกว่าเป็นการ
ประกาศแสนยานุภาพของบริษัทใหม่อย่างเป็นทางเพื่อมิให้มาสบปรามาสได้ว่ารวมกันแล้วย่อมไม่แคล้วล่มจมนั่นเอง
เริ่มเปิดกลยุทธ์ใหม่กันที่แบรนด์ Fiat ก่อนดีกว่า พวกเขาก็พร้อมระดมสรรพาวุธเปิดตัวครบทุกภูมิภาคเริ่มจาก
ตลาดละตินอเมริกาที่พวกเขาจะต้องเปิดตัวรถรุ่นใหม่ดังนี้
ปี 2014 มีเพียงแค่ New Uno FL
ปี 2015
-เปิดตัว A-Segment รุ่นใหม่
-รถกระบะขนาดคอมแพคท์
ปี 2016
-New Punto
-B-CUV
-New Grand Siena
ปี 2017
-New Palio
หันมาดูฝั่งเอเชียแปซิฟิกกันบ้าง Fiat เองก็ให้ความสำคัญกับตลาดภูมิภาคมากขึ้น โดยเฉพาะตลาดเกิดใหม่อย่างอินเดีย
และจีนก็ต้องยิ่งให้ความสำคัญ แต่น่าเสียดายว่า Fiat ยังไม่ได้วางกลยุทธ์การเติบโตในตลาดอาเซียนแม้แต่น้อย และนี่ก็
คือแผนการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ดังต่อไป
ปี 2014
-Avventura
-Ottimo
-Punto
ปี 2015
-Ottimo Cross
ปี 2016
-D-Segment Sedan (ที่ไม่แน่ใจว่าจะนำรถรุ่นไหนมาทำ)
ปี 2017
-New Avventura
-New Grand Siena
-New Punto
ปี 2018
-Compact CUV
ตลาดอเมริกาเหนือจะมีรถรุ่นใหม่เพียงแค่ 500x ในปี 2015 และรถแบบ Speciality ในปี 2016 ที่ว่ากันว่ามันคือรถ
สปอร์ตที่สร้างขึ้นบนพื้นเดียวกับ Mazda MX-5 โฉมใหม่
สำหรับตลาดยุโรปนั้นดูเหมือน Fiat จะจัดเต็มกว่าภูมิภาคอื่นมากเพราะว่า Fiat ลงทุนพัฒนารถรุ่นใหม่สำหรับตลาดนี้
โดยเฉพาะ ถึงแม้ว่า Fiat 500x จะเปิดตัวในปีนี้ แต่หลังจากนั้นก็กลับกลายเป็นรถยนต์ที่พัฒนาขึ้นสำหรับยุโรปโดยตรง
เริ่มจากรถ Compact Sedan และรถ Speciality ในปี 2015, Compact Hatch/SW และ B-Segment คันใหม่ที่จะมา
แทน Punto ก็จะเปิดตัวในปี 2016
ส่วนในปี 2017 ก็จะเปิดตัว Compact SUV ที่จะต้องส่งขายในเอเชียและในปี 2018 ก็จะเปิดตัว Panda รุ่นเปลี่ยนโฉม
ส่วนแบรนด์ที่เคยอยู่ภายใต้อาณัติของ Fiat ก็มีกลยุทธ์ที่แตกต่างกันไปตามสถานการณ์ เริ่มจาก Alfa Romeo ที่จะพลิก
แบรนด์ไปสู่จิตวิญญาณ “รถเพื่อการแข่งขันสนาม” อันเป็นมรดกตกทอดจากอดีตสู่ปัจจุบัน นั่นจึงทำให้ Alfa Romeo
ต้องทำรถที่เน้นเครื่องยนต์ที่ล้ำหน้า, มีการกระจายน้ำหนักอัตราส่วน 50 ต่อ 50, พละกำลังกับน้ำหนักที่สัมพันธ์กัน และที่
ขาดไม่ได้คือการออกแบบที่แหวกและโดดเด่นในสไตล์อิตาลี
สิ่งที่น่าสนใจเอามาก ๆ คือ FCA ต้องการให้ Alfa Romeo เป็นฐานทัพโปรเจคท์ขนาดเล็ก “Skunk Works” แต่สุดยอดที่
จะรวมพลคนเก่งเข้ามาทำงานหรือปฏิบัติการวันต่อวัน ไม่ว่าจะเป็นผู้บริหารระดับสูงจาก Ferrari, ว่าจ้างวิศวกรระดับสูงที่
ไม่เกี่ยวข้องใด ๆ กับ Fiat-Chrysler เลย
ความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้ก็จะช่วยทำให้รถยนต์ Alfa Romeo กลายเป็นรถยนต์ขับเคลื่อนล้อหลังและขับเคลื่อนสี่ล้อที่
ดีสุดจากผู้ผลิตรถยนต์อิตาลีจริง ๆ
Alfa Romeo ก็มีแผนการเปิดตัวรถรุ่นใหม่พอสมควร ในปี 2015 พวกเขาก็จะเปิดตัวรถขนาดกลาง Giulia พร้อมกับยุติ
การทำตลาด Mito และ Giulietta ในตลาดโลก
ในระหว่างปี 2016-2018 ก็จะระดมเปิดตัวรถรุ่นใหม่เยอะมาก ตั้งแต่รถ Compact 2 รุ่น, Mid Size 1 รุ่น, Full Size 1,
รถอเนกประสงค์ 2 รุ่น พร้อมทั้งเฉดรถสปอร์ต 4C ออกจากสายการผลิตและแนะนำรถสปอร์ตรุ่นใหม่มาแทนที่
Maserati ยนตรกรรมสุดหรูที่หลายคนฝันถึง ก็แน่นอนว่าพวกเขามีคิวเปิดตัวรถรุ่นใหม่กันพอสมควรเริ่มจากในปี 2015 ก็
จะมีการเปิดตัว Lavente เอสยูวีใหม่, ปี 2016 ก็จะเปิดตัว Alferia Coupe, ปี 2017 เปิดตัว Alferia Cabrio, ปี 2018
จะเปิดตัว Granturismo โฉมใหม่ ส่วน Grancabrio โฉมใหม่ไม่ได้อยู่ในแผนนี้
Ferrari ก็จะมีการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ “ทุกปี” ที่มีอายุทางการตลาดเพียงแค่ 4 ปีและมาเติมเต็มรถระดับสมรรถนะสูงด้วย
เครื่องยนต์ V8 และ V12 และอาจจะแนะนำรถในกลุ่มตระกูลพิเศษสำหรับรถรุ่นสมรรถนะสูง อย่างไรก็ดี FCA ก็มีการ
จำนวนการผลิตไว้เพียงแค่ปีละ 7,000 คันเท่านั้นเพื่อรักษาเอกลักษณ์ของแบรนด์ ในอนาคตอาจจะขยายเป็น 10,000
คันสำหรับเพิ่มผลกำไรในกลุ่มตลาดเติบโตเร็ว
ส่วนแบรนด์ Lancia นั้น “คุณไม่ได้ไปต่อครับ” นั่นเป็นเพราะ FCA ได้ตัดสินใจให้แบรนด์ Lancia เป็นรถที่ขายในอิตาลี
สถานเดียว แต่ใช่ว่าแบรนด์ Lancia จะมีอนาคตแต่อย่างใด เพราะ Lancia จะหยุดขาย Ypsilon เป็นรุ่นสุดท้ายในปี
2018 ก็มีความเป็นไปได้สูงว่าเมื่อถึงเวลานั้นชื่อของ Lancia ต้องหายจากโลกแน่
คราวนี้มาดูแบรนด์แม่ทัพรายต่อมานั่นก็คือ Chrysler ที่พวกเขาตั้งเป้าว่าอยากจะขายรถให้ได้ 800,000 คันภายในปี
2018 สิ่งที่น่าสนใจคือคราวนี้ Chrysler ก็อยากจะลงเล่นตลาด C-Segment อีกครั้งในชื่อ Chrysler 100 ฟังแค่ชื่อก็
พอจะบอกถึงตำแหน่งทางการตลาดได้แต่ FCA กลับไม่อยากยืนยันว่ามันจะเป็นรถคอมแพคท์ที่สู้กับ Toyota Corolla
บอกได้แค่เพียงมันมีดีไซน์ที่โดดเด่น, มีความประณีตและสมรรถนะดี
ในปี 2016 Chrysler ก็จะเตรียมถล่มวงการมินิแวนขนาด E-Segment ด้วย All New Chrysler Town&Country ที่มี
ให้เลือกทั้งเครื่องปกติและ Plug-in Hybrid!!
ปี 2017 ก็จะเปิดตัวรถ Full Size Crossover ที่มีให้เลือกทั้งเครื่องปกติและ Plug-in Hybrid และในปี 2018 ก็จะเปิดตัว
Mid-Size Crossover และ 300c Sedan โฉมใหม่
Dodge ก็จะถูกวางให้เป็นแบรนด์เน้นสมรรถนะเพื่อให้แตกต่างจากแบรนด์ Chrysler พร้อมทั้งออกโปสเตอร์กัด VW
Passat เล็กน้อยเพื่อตอกย้ำแบรนด์ Dodge เท่ห์และแรงจริง เริ่มจากเปิดตัว Challenger ปรับโฉมและ Charger โฉม
ใหม่ในปีนี้, ปี 2015 จะเปิดตัว Viper รุ่นปรับโฉม, ปี 2016 ก็จะเปิดตัว Dart, D-CUV โฉมใหม่, ปี 2017 ก็จะเปิดตัว
Durango และปี 2018 ก็เปิดตัว B-Sedan/Hatch, E-Sedan, E-Coupe
Jeep ก็ถือว่ารุกหนักมาตั้งแต่ปีที่แล้วด้วยการเปิดตัว All New Cherokee ที่มาพร้อมหน้าตาสะเทือนโลก ในปีนี้ก็จะ
เปิดตัว Renegade ส่วนในปี 2015 อาจจะเหงาหน่อยเพราะมีเพียงแค่ Grand Cherokee Minorchange เท่านั้น
แต่สำหรับปี 2016 ถือเป็นปีครบรอบ 75 ปีของแบรนด์ Jeep ก็ต้องมีอะไรพิเศษด้วยการเปิตดัว All New Patriot และ
Compass พร้อมกัน ยังไม่พอยังจะมี C-SUV เข้ามาอีกคัน และยังมีการปรับโฉมให้แก่ Cherokee อีกด้วย
ในปี 2017 จะเปิดตัว Wrangler และ Grand Cherokee โฉมใหม่ รวมทั้ง Renegade ปรับโฉม ส่วนปี 2018 ก็จะถึงคิว
Grand Wagoneer เอสยูวีรุ่นเดอะสุด ๆ
RAM แบรนด์รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ก็คาดหวังยอดขายระดับ 180,000 คันภายในปี 2018 หลัก ๆ ก็เน้นการปรับโฉม
และเปลี่ยนโฉม แต่งานนี้ไร้เงาเสียงของ Dakota โฉมใหม่แน่นอน
นี่คือแผนการทั้งหมดของ Fiat Chrysler Automobiles ที่แสดงวิสัยทัศน์ใหม่ภายใน 5 ปีข้างหน้า