Nissan Maxima และ Murano รุ่นปัจจุบันถือเป็นรถยนต์รุ่นแรก ๆ ที่ Nissan ได้พลิกโฉมการออกแบบ Design Language แบบใหม่ล่าสุด อันประกอบไปด้วย กระจังหน้า V-Motion, เส้นสายด้านข้างแบบสปอร์ต, Floating Roof และไฟรอบคันทรงบูมเมอแรง
ผลลัพธ์เมื่อมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางในช่วงปี 2014-2015 ก็พบว่าทั้งสองรุ่นต่างก็สามารถยอดขายเฉลี่ยดีขึ้นกว่าโฉมที่แล้วในระดับหนึ่ง แต่เมื่อ Nissan ส่งรถทั้งสองรุ่นไปทำตลาดในจีน กลับกลายเป็นว่าประสบความล้มเหลวพอสมควร (ยอดขาย Nissan Maxima ในจีนทำได้แค่เพียง 33 คันในเดือนกุมภาพันธ์ 2018 ส่วน Murano มียอดขาย 2,027 คันในเดือนเดียวกัน) นี่อาจจะเป็นโอกาสอีกครั้งที่ Nissan จะต้องทำการบ้านอย่างหนัก
ขณะนี้ Nissan กำลังซุ่มทดสอบ Maxima และ Murano Minorchange ที่คาดว่าน่าจะมีการปรับปรุงให้สอดคล้องกับรถต้นแบบ Vmotion 2.0 Concept คือมีการปรับปรุงใบหน้าและบั้นท้ายให้ลงตัวและดูสง่างามขึ้น เพราะในรุ่นปัจจุบันถึงแม้จะดูออกสปอร์ตแต่ก็ยังขาดบุคลิกความสง่างามในท่วงท่าซึ่งเป็นบุคลิกที่เคยประสบความสำเร็จมาก่อนหน้านั้น
Nissan Maxima Minorchange จะมีการปรับปรุงกระจังหน้าใหม่ให้มีขนาดใหญ่ขึ้น, เปลี่ยนไฟหน้าใหม่โดยเปลี่ยนทรง DRL LED แบบใหม่ ที่ไม่แน่ใจว่าจะมีการเปลี่ยนทรงโคมไฟหน้าให้ดูคล้ายกับ Vmotion 2.0 Concept หรือไม่ แต่สำหรับบั้นท้ายนั้นได้รับอิทธิพลจาก Vmotion 2.0 Concept แน่นอน
คาดว่า Nissan Maxima Minorchange จะติดตั้งเทคโนโลยีระบบขับขี่กึ่งอัตโนมัติ ProPilot ให้เป็นทางเลือกใหม่ และมีการปรับปรุงหน้าจอสัมผัส Infotainment ใหม่
ส่วนขุมพลัง Hybrid หรือ e-Power อาจจะยังไม่มีให้เห็น แต่น่าจะยังยืนยันที่จะใช้เครื่องยนต์เบนซิน V6 3.5 ลิตร 300 แรงม้า
สำหรับ Nissan Murano Minorchange ก็ยังคงรูปลักษณ์หรือเส้นสายตัวถังไว้เช่นเดิม แต่มีการปรับปรุงดีไซน์ไฟหน้าที่เน้นไฟ DRL LED ให้คมสว่างอย่างเห็นได้ชัด, ปรับปรุงกระจังหน้าใหม่ แบบลายรังผึ้งปกติ ส่วนด้านท้ายมีการปรับปรุงไฟท้าย LED ใหม่ แต่แน่นอนว่ายังไร้เงาขุมพลัง e-Power
Nissan จะเปิดตัว Maxima และ Murano Minorchange ภายในไตรมาส 3 และ 4 ของปีนี้ตามลำดับ