วันนี้ (30 กันยายน 2009)เป็นวันที่ค่ายรถญี่ปุ่นชั้นนำต้องปล่อยของดีเรียกน้ำย่อยก่อนวันงานโตเกียวมอเตอร์โชว์ที่ 24 ตุลาคมนี้พร้อมหน้าพร้อมตาโดยมิได้นัดหมายกันมาก่อน (แต่ก็ไม่แน่ ใครจะไปรู้ เผลอ ๆ ผู้ผลิตรถยนต์ทั้งหลายอาจจะตกลงกันลับหลังว่า จะปล่อยข้อมูลพร้อมกันในวันนี้ก็เป็นได้ เพื่อปลุกกระแสของงาน สวนกระแสเศรษฐกิจ)

หลังจากค่าย Mazda,Honda และ Subaru เผยรถต้นแบบสุดล้ำของตนล่วงหน้ากันไปแล้ว คิวต่อไปนี้คือค่าย Mitsubishi ที่ขอนำเสนอรถต้นแบบและรถใหม่กับเขาบ้างครับ

 

 

คันแรก Mitsubishi Concept PX-MIEV รถครอสโอเวอร์เอสยูวี Plug-in Hybrid คันแรกของ Mitsubishi ที่ผสมผสานระบบ Hybrid กับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อเข้าไว้ด้วยกันพร้อมเทคโนโลยีถ่ายทอดกำลังแยกแกนล้อซ้ายและขวาได้

ดีไซน์ภายนอกถูกกำหนดคำนิยาม 3 หลักการได้แก่ดูแข็งแกร่ง,ปลอดภัย และเรียบง่ายถูกถ่ายทอดผ่านรถต้นแบบคันนี้ที่ดูค่อนข้างเรียบ ๆ แต่ดูดี ดูได้นานกว่ารถเอสยูวีทั่วไปที่ใช้เส้นสายแรง ๆ แข็ง ๆ ทำให้รถดูทื่อไปเสีย  ไฟหน้าและไฟท้ายออกแบบมาอย่างเรียบ ๆ แต่มีลูกเล่นไม่ให้จืดตานัก โคมไฟทั้งหมดใช้หลอด LED ที่ให้แสงสว่างและประหยัดพลังงานไปในตัว

 

สีที่ใช้พ่น PX-MIEV เป็นสีเนื้อเหล็กที่ดูล้ำอนาคตดีนอกจากนี้ล้อแมกซ์และดุมล้อถูกรวมเข้าไว้ด้วยกันซึ่งออกแบบลายล้อแมกซ์ให้สามารถดักลมเข้าระบายความร้อนที่ดิสก์เบรคได้ดีขึ้นอีกทั้งช่วยเรื่องสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานได้อีกด้วยครับ

 
 

มิติตัวถังของ PX-MIEV มีความยาว 4,510 มม. ความกว้าง 1,830 มม. ความสูง 1,655 มม. ความยาวฐานล้อ 2,630 มม. ความกว้างระยะฐานล้อคู่หน้า 1,570 มม. ความกว้างระยะฐานล้อคู่หลัง 1,570 มม.

ห้องโดยสารถูกดีไซน์ไม่แตกต่างห้องบังคับควบคุมเครื่องบินแต่อย่างใด แผงมาตรวัดเป็นแบบรวมศูนย์กลางหน้าจอทรงสูงเพื่อให้ผู้ขับขี่ไม่ต้องชายตามองไปไกลจนขาดสมาธิขณะขับขี่ได้ จอมอนิเตอร์ขนาบข้างพวงมาลัยคล้ายปีกนกเครื่องบิน และพวงมาลัย 2 ก้านแบบไม่เต็มวงเสมือนเรากำลังขับอากาศยานอยู่จริง ๆ

 

เบาะนั่งดีไซน์ใหม่โอบกระชับผู้ขับขี่และผู้โดยสารให้ยึดติอยู่กับที่และแผงควบคุมการทำงานอุปกรณ์และแผงข้างประตูใช้หลอดไฟ LED สีอ่อนช่วยประดับและสร้างความสว่างครับ

การสร้างบรรยากาศห้องโดยสาร Mitsubishi เลือกใช้แนวคิด cocochi-interior ที่อธิบายได้ว่าห้องโดยสารอุดมคติจะต้องเป็นห้องโดยสารที่สะอาด ปราศจากความเครียด ปลอดภัย และคลายความกังวล ทั้งหมดส่งผลดีต่อสุขภาพของผู้ใช้รถได้ ทำให้ Mitsubishi ต้องพิถีพิถันในรายละเอียดชิ้นส่วนภายในห้องโดยสารได้แก่ วัสดุหุ้มเบาะจะต้องไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ได้,ลดค่าไอระเหยสารอินทรย์ให้น้อยที่สุด,วัสดุเคลือบสารป้องกันแบคทีเรียอันก่อให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์,กระจกตัดรังสี UV-A อันก่อให้เกิดผิวหมองคล้ำและดูแก่ก่อนวัยอันควรและแอร์ดักจับไอออนสร้างออกซิเจนในตัว

 
 

ระบบส่งกำลังของ PX-MIEV ได้พลังจากเครื่องยนต์เบนซินบล๊อก 4 สูบ DOHC 1,600 ซีซี ระบบวาล์วแปรผัน MIVEC 116 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 12.73 กิโลกรัมเมตร พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าสำหรับล้อคู่หน้าและล้อคู่หน้าแบบแม่เหล็กไฟฟ้าให้พลัง  82 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 200 นิวตันเมตรหรือ 20.38 กิโลกรัมเมตร

หากวิ่งแบบพลังงานไฟฟ้าเดี่ยว ๆ  ภายใต้สภาวะโหมด 10-15 มาตรฐานญี่ปุ่นจะมีระยะทางวิ่งถึง 50 กิโลเมตร หากวิ่งแบบ Hybrid ทดสอบผ่านโหมด 10-15 จะทำอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยถึง 50 กิโลเมตรต่อลิตรเลยทีเดียว เพื่อมิให้กำลังไฟฟ้าขาดตอน ล้อคู่หน้าจึงต้องติดตั้งเจเนเรเตอร์กำเนิดไฟฟ้าไปในตัวเพื่อสร้างประจุไฟฟ้าไปเก็บไว้ที่แบตเตอรี่

ระบบการทำงานทั้งหมด Mitsubishi ลงทุนพัฒนาระบบปฏิบัติการ MIEV OS หรือซอฟท์แวร์ควบคุมการทำงานระบบ Hybrid ของตนเองให้ใช้งานในโหมดต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

 
 

EV Mode
หากคุณขับขี่ PX-MIEV ในย่านความเร็วต่ำถึงปานกลางมอเตอร์แม่เหล็กจะนำพลังงานจากแบตเตอรี่ถ่ายทอดกำลังไปสู่ล้อคู่หน้าอย่างเดียว แต่หากคุณเผชิญความยากลำบากผ่านถนนที่ปกคลุมด้วยหิมะ,พื้นถนนลื่นเพราะฝน หรือถนนขรุขระเล็ก  ๆ ทำให้ล้อคู่หน้าลื่นไถลระบบจะสั่งการให้เซ็นเซอร์ถ่ายเทกำลังไปยังล้อหลังโดยอัตโนมัติ

Parallel Hybrid Mode

หากคุณขับขี่รถยนต์ย่านความเร็วสูงจะถูกใช้พลังงานจากเครื่องยนต์สันดาปภายในอย่างเดียวเท่านั้น แต่หากคุณอยากจะเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ทั้งอัตราเร่งที่เร็วกว่าและการทรงตัวที่ดีกว่าเพียงแค่คุณกดปุ่มขับเคลื่อนสี่ล้อเท่านั้น มอเตอร์ไฟฟ้าด้านหลังจะถ่ายทอดพลังงานสู่ล้อคู่หลังทันที อธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ คือพลังงานจากเครื่องยนต์และจากมอเตอร์ไฟฟ้าช่วยส่งเสริมอัตราเร่งซึ่งกันและกันนั่นเอง

Regenerative Mode

ทุกครั้งที่ชะลอรถหรือลงทางลาดชันนาน ๆ พลังงานจลน์จากกิจกรรมดังกล่าวถูกแปลงให้เป็นกระแสไฟฟ้าเก็บเข้าสู่แบตเตอรี่

Charging Mode

คุณสามารถชาร์จประจุผ่านไฟบ้าน 100 โวลต์ และ 200 โวลต์ หรือชาร์จไฟด่วนจากสถานีตามจุดต่าง ๆ นอกจากนี้ยังรองรับการชาร์จแบบไร้สาย และตั้งค่าเริ่มต้นให้ชาร์จเมื่อไรและตั้งค่าเปิดแอร์ตอนไหนก่อนจะออกใช้งาน

Powersupply Mode

Mitsubishi คงมองเห็นแล้วว่าในเมื่อเป็นรถที่มีแบตเตอรี่เก็บประจุไฟฟ้าขนาดเขื่องทำไมถึงไม่ตัวเป็นตัวจ่ายกระแสไฟฟ้าใช้งานสำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าล่ะ PX-MIEV จึงจัดให้ตามต้องการแต่มีข้อแม้ว่าต้องเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้กระแสไฟ 100 โวลต์เท่านั้น

Mitsubishi ยังแนะนำแทคติคประหยัดค่าไฟบ้านให้คุณอีกด้วยเพียงแค่คุณชาร์จไฟเจ้า PX-MIEV ในตอนกลางคืนซึ่งส่วนใหญ่คิดค่าไฟไม่แพงนักและในตอนกลางวันหากอยากจะทำกับข้าวก็ขอยืมใช้ไฟจาก PX-MIEV ไม่ต้องเสียบปลั๊กไฟบ้านให้เสียค่าไฟแพงกว่าครับ

และข้อดีอีกอย่างหนึ่งของโหมดนี้คือคุณสามารถใช้พลังงานไฟฟ้าได้แม้เกิดภัยพิบัติทำให้กระแสไฟฟ้าในบ้านขัดข้อง คงจะมีเพียงภัยพิบัติเดียวที่เป็นข้อยกเว้นคือน้ำท่วมมิดตัวรถครับ

 
 

ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อถ่ายทอดสมดุลระหว่างล้อคู่หน้าและล้อคู่หลังของ PX-MIEV ชื่อว่า S-AWD ทำงานด้วยไฟฟ้ากระจายแรงบิดตามความเหมาะสม เพื่อให้การทำงานสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นจึงติดตั้งระบบ E-AYC (Electric-powered Active Yaw Control) กระจายแรงบิดแยกล้อซ้ายและล้อขวาของล้อคู่หลังได้ด้วย

Mitsubishi PX-MIEV บรรจุเทคโนโลยีความปลอดภัยชั้นนำได้แก่ ติดตั้งกล้องรอบคันแสดงผลผ่านกระจกหน้ารถยนต์ระดับสายตาผู้ขับขี่,ระบบ DSSS (Driving Safety Support System) ติดต่อหน่วยงานสำนักตำรวจแห่งชาติญี่ปุ่นได้ทันทีหากต้องการความช่วยเหลือด่วน เป็นต้น

 
 

แม้ Mitsubishi จะไม่บอกว่ารถรุ่นนี้เตรียมจำหน่ายเมื่อไร แต่เมื่อพวกเราดูข้อมูลทั้งหมดของรถต้นแบบคันนี้ก็คงคาดเดาได้ไม่ยากว่านี่คือว่าที่ Outlander ตัวต่อไปที่จะมาแทนที่รุ่นปัจจุบันภายในไม่เกิน 3-4 ปีนี้แน่นอน

 
 

รถคันต่อไปเป็นรถที่ใช้งานเชิงพาณิชย์และเตรียมวางจำหน่ายในไม่นานนักคือ Mitsubishi i-MIEV Cargo ที่ดัดแปลง i-MIEV เป็นรถขนของเชิงพาณิชย์พลังงานไฟฟ้าล้วน ๆ รายแรกของญี่ปุ่น รูปร่างหน้าตาครึ่งคันหน้าถอดแบบจาก i-MIEV ร้อยเปอร์เซ็นต์ ยกเว้นตั้งแต่เสา B เป็นต้นไปเริ่มดัดแปลงให้เป็นรถทรงกล่องบรรทุกของครับดูไม่แตกต่างจากพวกรถ Combi ทั้งหลายในยุโรปนัก

 
 

มิติตัวถังยังคงรักษามาตรฐาน K-car ไว้เช่นเดิมทั้งความยาว 3,395 มม. ความกว้าง 1,475 มม. ความสูง 1,860 มม.สูงเสียจนรถมินิแวนบ้างรุ่นคงอายได้ ฐานล้อยาว 2,550 มม.ความกว้างฐานล้อคู่หน้า 1,310 มม. ความกว้างฐานล้อคู่หลัง 1,270 มม.

Mitsubishi เคลมว่าออกแบบขนาดห้องสัมภาระยาวถึง 1,180 มม, ความกว้าง 1,350 มม, ความสูง 1,100 มม. เน้นเอาใจธุรกิจ SME ที่อยากนำรถไปดัดแปลงใช้งานได้อย่างหลากหลาย กันสุดฤทธิ์

ขุมพลัง ไม่ต้องคิดมาก ยกมาจาก i-MIEV เวอร์ชันปกติ ท้งดุ้นกันเลย ด้วยชุดมอเตอร์ไฟฟ้าแบบแม่เหล็ก 64 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 180 นิวตันเมตรหรือ 18.34 กิโลกรัมเมตร ความเร็วสูงสุด 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

รถยนต์ทั้งสองรุ่นจะถูกจัดแสดงกันตั้งแต่รอบสื่อมวลชนของงานโตเกียวมอเตอร์โชว์ ที่มาคุฮาริ เมสเสะ ในจิบะั ชานกรุงโตเกียว วันที่ 21-22 ตุลาคมนี้ ส่วนรอบประชาชน ต้องรอถึงวันที่ 23 ตุลาคมนี้ เป็นต้นไปครับ