หากให้ทายชื่อเมืองหลวงที่ขึ้นชื่อด้านมลพิษอากาศที่ย่ำแย่ติดอันดับโลก ก็คงต้องนับเมืองกรุงเทพมหานครเข้าไปด้วย
เพราะมันใกล้ตัวและเห็นภาพมากที่สุด แต่ถ้าใครไม่เคยไปบ้านเมืองอื่นเลยก็คงไม่รู้เลยว่าเมืองปารีส ประเทศฝรั่งเศสก็เข้า
ข่ายมลภาวะทางอากาศย่ำแย่แทบจะที่สุดในโลกเสียด้วยซ้ำ 

แล้วมันแย่มากขนาดไหนหรือ? ก็เพียงแค่คัดกรองรถเข้าเมืองปารีสเท่านั้นเอง!!

นับตั้งแต่วันจันทร์ที่ 18 มีนาคม 2014 เป็นต้นไปเมืองปารีสได้สั่งห้ามประชาชนขับรถเข้าไปในเมืองอย่างอิสระอีกต่อไป
แถมยังจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจ 700 กว่านายมาสำรวจตรวจตราความเรียบร้อยในครั้งนี้ โดยนโยบายใหม่นี้จะคัดกรองตาม
หมายเลขลงท้ายป้ายทะเบียน หากลงทะเบียนลงท้ายด้วยเลขคี่ก็สามารถขับเข้าไปในเมืองได้ แต่ถ้าโชคร้ายหน่อยลงท้าย
ด้วยเลขคู่ก็อนุญาตให้ขับท่องเที่ยวเข้าไปในเมืองเฉพาะวันอังคารเท่านั้น

มาตรการควบคุมคุณภาพทางอากาศฉุกเฉินจะดำเนินการภายใน 5 วันเพื่อเร่งลดระดับมลภาวะทางอากาศในเมืองปารีส
และปริมณฑลที่สูงเกินกว่าค่ามาตรฐานที่ยอมรับได้ และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกเพราะมาตรการนี้ก็เคยนำมาใช้สมัยปี 1997 มาแล้ว

ส่วนรถจักรยานยนต์ก็ต้องโดนมาตรการนี้ด้วยเช่นกันคือห้ามวิ่งในระหว่างเวลา 5.30 นาฬิกาถึงเที่ยงคืน แต่อย่างไรก็ตาม
รถแท็กซี่, รถไฟฟ้าและรถ Hybrid รวมไปถึงรถยนต์ที่มีผู้ขับขี่และผู้โดยสารมากกว่า 3 คนสามารถขับขี่เข้าในเมืองโดยไม่
ถูกจับแต่อย่างใด

ในเมื่อมีกฎก็ย่อมต้องมีผู้แหกกฎ ฉันใดก็ฉันนั้นก็ยังมีผู้ฝ่าฝืนกฎกันไม่น้อย โดยได้รับรายงานว่าตำรวจได้ออกใบสั่งให้แก่
ผู้ทำผิดกฏแล้วมากถึง 4,000 ใบในช่วงครึ่งวันแรกของการควบคุมคุณภาพอากาศและยังยึดรถยนต์ 27 คันกับผู้ที่กล้าฝ่า
ฝืนโดยไม่ให้ความร่วมมือแก่เจ้าหน้าที่

หากดูสถิติแล้วใช่ว่าเมืองปารีสจะมีคุณภาพอากาศเข้าขั้นเลวร้ายที่เดียว ก็ยังมีเมืองปักกิ่ง ประเทศจีนที่แย่เป็นเพื่อนด้วย
เช่นเดียวกัน

ที่มา : bbc.com