ปัจจุบันกลยุทธ์การผลิตรถยนต์บนแพลตฟอร์มเดียวกันให้ได้มากที่สุด เป็นเรื่องสำคัญในการทำธุรกิจรถยนต์
เพราะยิ่งมีรถยนต์ที่ใช้แพลตฟอร์มเดียวกันมากเท่าไหร่ ก็จะสามารถลดต้นทุนการผลิตต่อคันมากขึ้นเท่านั้น
ต่อยอดไปเป็นความอยู่รอดและหนทางในการสร้างเม็ดกำไรของบริษัทรถยนต์

alt

ค่าย Renault-Nissan ที่มี Carlos Ghosn เจ้าพ่อหั่นค่าใช้จ่าย หลังจากการเข้ากุมบังเหียนเมื่อปี 1999
มาจนถึงปัจจุบัน นับว่าเขามีส่วนช่วยทำให้ Nissan ลุกขึ้นยืนได้อีกครั้ง และกำลังยืนหยัดอย่างแข็งแกร่ง
ในวงการรถยนต์มากขึ้นเรื่อยๆ ได้ประกาศแผนลดต้นทุนในการทำรถยนต์ออกมาอีกระลอก โดยเขากล่าวว่า
Renault-Nissan จะมีแพลตฟอร์มรถยนต์ใหม่ 2 แบบ ซึ่งรถยนต์ Renault และ Nissan จะใช้ร่วมกัน

โดยเขาให้สัมภาษณ์กับ Automotive News ว่า แพลตฟอร์มของรถยนต์ มีส่วนสำคัญในการสร้างรถยนต์มาก
และทั้ง Renault และ Nissan จะได้เปรียบมากกว่าคู่แข่ง ตรงที่สามารถสร้างแพลตฟอร์มที่ยืดหยุ่น และตอบโจทย์
กับตลาดด้วยขนาดตัวรถที่โดนใจกลุ่มผู้บริโภคมากกว่า

แพลตฟอร์มใหม่นี้ จะมีชื่อเรียกว่า ‘Common Module Family’ โดยแพลตฟอร์มแรกที่จะเปิดเผย เป็นแพลตฟอร์ม
ที่ใช้สำหรับรถยนต์ซีดาน C/D-Segment รถยนต์ครอสโอเวอร์และ SUV โดย Ghosn ตั้งเป้าไว้ว่า ภายในปี 2020
รถยนต์ Renault/Nissan กว่า 75 เปอร์เซนต์จะลดการใช้แพลตฟอร์มเหลือเพียง 4 แพลตฟอร์มเท่านั้น นับว่าเป็นการลด
จำนวนแพลตฟอร์มลงอย่างมากเลยทีเดียว

ด้วยการแชร์แพลตฟอร์มนี้ จะช่วยให้ทั้ง Renault และ Nissan ประหยัดเม็ดเงินในการลงทุนและผลิตมากถึง
5.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ/ปี ภายในปี 2016 ซึ่งถือว่าสูงขึ้นมากเมื่อเทียบกับปี 2013 ที่ทำได้เพียง
3.78 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

โดยหลังจากนี้ ทั้ง Renault และ Nissan จะช่วยกันพัฒนาทั้งในด้านการผลิต การขนส่งชิ้นส่วน การวิจัยและพัฒนา
ไปจนถึงช่วยกันพัฒนาทรัพยากรบุคลากรของทั้ง 2 บริษัทมากขึ้น เพื่อทำให้การแชร์แพลตฟอร์มและประหยัดเงิน
แก่ทั้งสองบริษัท บรรลุเป้าหมายที่ Ghosn มองไว้

Ghosn ได้ให้ความเห็นไว้อย่างน่าสนใจว่า เขาให้ความสำคัญกับการร่วมงานของทั้ง 2 บริษัทเป็นอย่างมาก
และไตร่ตรองอย่างรอบคอบในทุกคำสั่ง เพื่อให้ทั้ง Renault และ Nissan ทำงานกันเป็นทีมอย่างแท้จริง หลีกเลี่ยง
การซ้ำรอยความล้มเหลวในการรวมตัวเหมือนอย่างที่ DaimlerChrysler AG ได้เคยประสบมา

นับว่าครอบครัว Renault และ Nissan จะต้องแน่นแฟ้นมากกว่าเดิมอีกแน่นอน และจากผลของการแชร์แพลตฟอร์มนี้
มีความเป็นไปได้สูงมากว่าทั้ง Nissan Pulsar/Sylphy และ Teana/Altima จะมีการใช้แพลตฟอร์มใหม่ร่วมกัน
ก็เป็นได้ เช่นเดียวกันกับ Renault Magane/Fluence และ Laguna นั่นเอง

ที่มา : Automotive News