เครื่องยนต์เบนซินเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด SKYACTIV-X เครื่องยนต์เบนซินเชิงพาณิชย์ครั้งแรกของโลก ที่สามารถจุดระเบิดได้โดยการอัดอากาศ โดยการเผาไหม้ของเครื่องยนต์จะเกิดขึ้นจากการจุดระเบิดของอากาศและน้ำมันเชื้อเพลิงที่ผสมกัน ในขณะที่ลูกสูบเคลื่อนที่ในจังหวะของการอัด อาจไม่ใช่ไม้ตายสุดท้ายที่ Mazda พยายามต่ออายุเครื่องสันดาปภายในให้นานที่สุด แต่ Mazda ยังเก็บไม้ตายที่มีเทคโนโลยี “ขั้นกว่า” พร้อมนำเสนอในภายหลัง
ขณะนี้ Mazda กำลังพัฒนาเครื่องยนต์เบนซินรุ่นใหม่ มีชื่อเรียกอย่างไม่เป็นทางการว่า ‘SKYACTIV 3’ ที่ถึงขั้นเคลมกันว่ามันสะอาดเทียบเท่ากับรถยนต์ไฟฟ้า EV เมื่อคำนวณจากระบบห่วงโซ่อุปทานของกระบวนการผลิตพลังงานโดยรวม
เทคโนโลยีใหม่ที่ติดตั้งลงในเครื่องยนต์ SKYACTIV 3 คือเทคโนโลยีการเพิ่มประสิทธิภาพความร้อนของเครื่องยนต์ โดย Mitsuo Hitomi ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายพัฒนาเครื่องยนต์ ระบุว่า เทคโนโลยีนี้จะช่วยลดปริมาณพลังงานสูญหายไปกับความร้อน และจะช่วยเพิ่มตัวเลขแรงม้าลงสู่ล้อได้มากขึ้น
หาก Mazda สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการความร้อนของเครื่องยนต์ SKYACTIV 3 ได้ 27-56% มันจะมีค่าการปล่อยมลพิษเทียบเท่ากับรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้
ถ้าในเมื่อเครื่องยนต์ SKYACTIV-3 ยังบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงและยังมีค่าไอเสียอยู่บ้าง แล้วมันจะมีอัตราการปล่อยมลภาวะเทียบเท่ากับ EV ได้อย่างไร? คำตอบคือ Mazda ได้คำนวณค่าไอเสียจากการสกัดน้ำมันและการกลั่นน้ำมันเบนซินในรถยนต์เบนซิน แล้วนำไปเปรียบเทียบกับค่าก๊าซ carbon dioxide ที่เกิดจากกระบวนการผลิตพลังงานไฟฟ้าไปสู่รถยนต์ไฟฟ้า
(SKYACTIV-X นวัตกรรมที่พร้อมเปิดตัวในปี 2019)
Mazda ยืนยันว่า หากมีการคำนวณจากกิจกรรมที่เกี่ยวข้องทั้งหมด รถยนต์ไฟฟ้า EV ก็ไม่ได้เป็นรถที่สะอาดไปกว่าเครื่องยนต์ประหยัดน้ำมันเลย
Hitomi กล่าวว่า Mazda เชื่อว่าหากพัฒนาเครื่องยนต์ให้ลดการปล่อยค่า carbon dioxide ลดลง 25% ก็ถือว่าเครื่องยนต์เบนซินจะมีอัตราประหยัดเชื้อเพลิงที่เทียบเท่ากับ EV เมื่ออยู่ในโลกของความเป็นจริง เพราะแหล่งกำเนิดพลังงานไฟฟ้าก็มาจากการเผาผลาญก๊าซธรรมชาติอยู่ดี
เครื่องยนต์ SKYACTIV-3 ไม่ได้ระบุว่าจะเปิดตัวในช่วงไหน แต่คาดว่าคงอีกยาวไกลหรือไม่ต่ำกว่า 6 ปี นับต่อจากนี้
ที่มา : Automotive News