ถ้าใครนึกถึงประเทศเวียดนาม หลายคนก็จะนึกถึงความเป็นประเทศที่อุดมไปด้วยรถจักรยานยนต์หลากรุ่นหลากสีวิ่งไปใน
เมืองใหญ่อย่างพร้อมหน้าพร้อมตากัน ดูเผิน ๆ รัฐบาลเวียดนามอาจจะพอใจที่เป็นมหาอำนาจทางรถจักรยานยนต์ แต่ลึก
ๆ แล้วเวียดนามเองก็ต้องการการเปลี่ยนแปลงบางอย่างเพื่อพัฒนาสังคมให้ดีขึ้น
ล่าสุด คณะกรรมการความปลอดภัยการจราจรแห่งชาติเวียดนามอาจจะออกกฎแบนรถจักรยานยนต์ในเขตเมืองสำคัญ
เพื่อลดมลภาวะและลดอุบัติภัยร้ายแรงจนมีสถิติแจ้งมาว่ามีผู้เสียชีวิตรายวันมากถึง 26 รายและมีผู้บาดเจ็บรายวันถึง 81
ราย
Nguyen Xuan Phuc รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่าเขตเมืองที่ห้ามรถจักรยานยนต์วิ่ง ได้แก่ เมืองฮานอยและโฮจิมิน เพื่อ
ส่งเสริมระบบคมนาคมส่วนรวมและจำกัดจำนวนรถต่อครัวเรือน แต่ประเด็นสำคัญที่เป็นเหตุผลหลักในการประกาศกฎนี้
คือเพื่อความปลอดภัย ซึ่งการควบคุมตรงนี้มีความซับซ้อนมาก ดังนั้นจึงค่อย ๆ ออกกฎงดใช้รถจักรยานยนต์ในเมืองใหญ่
เสียก่อน
Nguyen Hoang Hiep รองประธานคณะกรรมการความปลอดภัยการจราจรแห่งชาติเวียดนาม กล่าวว่า มีความเป็นไป
ได้ที่จะออกกฏนี้อย่างรวดเร็วเนื่องจากการระบบเศรษฐกิจที่ไม่ได้รับการพัฒนา, การขาดโครงสร้างพื้นฐานและความไม่
เพียงพอของระบบขนส่งมวลชน ระยะเวลาที่จะเริ่มใช้จะอยู่ในระหว่างปี 2020-2025 ซึ่งเป็นเวลาที่เหมาะสมต่อการ
พัฒนาโครงสร้างระบบขนส่งมวลชน
ความจริงคณะกรรมการความปลอดภัยการจราจรแห่งชาติเวียดนามเคยเตรียมจะออกกฎนี้เมื่อ 2 ปีที่แล้วแต่กระทรวง
คมนาคมก็โต้แย้งกฏนี้เพราะประชาชนยังไม่เห็นด้วยกับการบังคับนี้
สิ่งที่น่าสนใจคือ ช่อง VTC แห่งเวียดนามได้ออกสำรวจประชากรตัวอย่าง 27,000 คนก็พบว่าประชากรจำนวน 54%
แสดงความคิดเห็นว่า ควรจะออกกฎแบนรถจักรยานยนต์ตอนนี้เลย อีก 31% คิดว่าควรจะห้ามเมื่อมีระบบขนส่งทางเลือก
แล้ว และอีก 14% ไม่เห็นด้วยกับการแบนครั้งนี้
ปัจจุบัน ประเทศเวียดนามมีรถจักรยานยนต์สูงถึง 37 ล้านคันแล้วเมื่อเทียบกับรถยนต์มีเพียงแค่ 1.6 ล้านคัน เนื่องจาก
รถจักรยานยนต์ต้องทำหน้าที่เป็นยานพาหนะที่มีส่วนสำคัญในการขนส่ง, การค้าและเศรษฐกิจซึ่ง Ho Nghia Dung
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการขนส่งก็ยอมรับข้อดีเช่นนั้น แต่ถ้ามีมากเกินไปก็ทำให้มียอดอุบัติเหตุเพิ่มและยังก่อให้เกิด
ปัญหาการจราจรล๊อกตายตัวขนิดขยับตัวออกไปไหนไม่ด้ (Gridlocks) ได้
ที่มา : visordown