ถึงแม้ว่า Ford สามารถขาย Fusion : D-Segment Sedan ในสหรัฐอเมริกามากถึง 209,623 คันในปี 2017 ถือเป็นรถยนต์นั่งที่ขายดีที่สุดในบรรดารถ Ford ทั้งหลาย แต่ด้วยสถานการณ์ตลาดที่เปลี่ยนไป เราจึงได้ยินข่าวว่า Ford กำลังสั่งหยุดแผนการผลิต All NEW Fusion รุ่นปี 2020 เอาไว้ก่อน ซึ่งเป็นข่าวที่น่าแปลกใจไม่ใช่น้อย
ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2017 ทาง Ford Motor ได้ร่อนจดหมายไปยังผู้ผลิตชิ้นส่วน (ซัพพลายเออร์) ที่มีเนื้อความระบุว่า Ford กำลังจะยกเลิกแผนการผลิต All NEW Ford Fusion รหัสพัฒนา CD542N โดยการตัดสินใจในครั้งไม่ได้หมายความว่าจะฆ่าชื่อ Fusion ทิ้ง แต่ Ford ต้องการหยุดเพื่อคุมสถานการณ์ตลาดรถ Sedan ระดับ D-Segment ในช่วงระยะสั้นเอาไว้
เหตุผลสำคัญที่ทำให้ Ford ตัดสินใจหยุดแผนการผลิต All NEW Fusion นั่นเป็นเพราะสถานการณ์อุตสาหกรรมยานยนต์มีความเปลี่ยนแปลงต่อเนื่องและด้วยสภาวะทางการเงินบีบบังคับ Ford จึงจำเป็นต้องการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดให้คุ้มค่าที่สุด
แหล่งข่าวให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า Ford ยังคงขาย Fusion หรือในตลาดโลกจะใช้ชื่อว่า Mondeo เอาไว้อย่างน้อย 3-4 ปี เพื่อใช้เวลาที่เหลืออยู่ทบทวนว่าจะทำอย่างไรกับมันต่อไป
การยกเลิกการทำตลาดรถ Sedan ในสหรัฐอเมริกาคงไม่ใช่เรื่องแปลกอีกต่อไป เพราะก่อนหน้านั้น Fiat Chrylser Automobiles ก็ยกเลิกการทำตลาด Dodge Dart : C-Segment Sedan และ Chrysler 200 : D-Segment Sedan
โดยปกติแล้วรถ Sedan และรถขนาดเล็กมีกำไร margin ที่น้อยกว่ารถแบบ SUV และรถอเนกประสงค์ทั่วไป สำหรับ Ford Fusion นั้นมันสามารถตั้งราคาสูงได้เพราะเป็นรถขนาดใหญ่ แต่ถ้าหากมีรถยนต์อเนกประสงค์ที่จำหน่ายภายใต้ชื่อ Fusion อีกรุ่นหนึ่ง มันก็จะช่วยสร้างผลกำไรได้มากขึ้นกว่านี้
อย่างไรก็ตาม Karl Brauer นักวิเคราะห์อุตสาหกรรมยานยนต์จาก Autotrader ก็เห็นแย้งว่า การที่ Ford ยกเลิกแผนการผลิต Fusion โฉมใหม่นั้นมันไม่สมเหตุผล เพราะรถที่จำหน่ายในท้องตลาดส่วนใหญ่ไม่ใช่ SUV เพียงแต่ Ford Fusion มันเป็นรถที่มีอายุตลาดนานแล้ว และยังอยู่ในกลุ่มรถยนต์ที่มีอัตราการเติบโตน้อย
หลายฝ่ายก็มองเห็นความขัดแย้งด้านยอดขายที่ยังพอไปได้อยู่เมื่อเทียบกับนโยบายใหม่นี้ ก็ทำให้วิเคราะห์กันว่า Ford อาจจะแค่รอเวลานำเสนอรถยนต์ใหม่ที่สามารถแข่งขันในกลุ่มนี้ได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะออกจากตลาดนี้ไป
ที่มา : Detroitnews