หลายค่าย เตรียมขนรถยนต์ต้นแบบมาอวดโฉมกันในงาน แฟรงค์เฟิร์ต มอเตอร์โชว์ ที่จะเริ่มขึ้น
ในวันที่ 15 กันยายน 2009 นี้ แต่ โฟล์กสวาเกน บอกว่า พวกคุณก็ดีแต่เอารถต้นแบบมาโชว์กัน
ฉันสิ เจ๋งกว่า ประกาศเลยว่า พร้อมแล้วที่จะทำตลาดรถยนต์รุ่นใหม่ๆ นอกเหนือจาก New Polo
แบบ 3 ประตู คราวนี้ เน้นไปที่การนำเทคโนโลยี BLUE MOTION มาใส่ลงใน ซับ-คอมแพกต์
แฮตช์แบ็กรุ่น Polo ตามด้วย คอมแพกต์แฮตช์แบ็ก รุ่นยอดฮิต อย่าง New Golf  และ ซีดานกลุ่ม
D-Segment อย่าง Passat ใหม่ เปิดตัวครั้งแรกในเวทีแห่งนี้ แต่ปล่อยข่าวอย่างเป็นทางการ เมื่อ
2 กันยายน 2009 ที่ผ่านมา

จริงอยู่ว่า โฟล์กสวาเกน เคยเปิดตัว Polo และ Golf BLUEMOTION ไปแล้วก่อนหน้านี้ ในงาน
เจนีวา มอเตอร์โชว์ เมื่อ เดือนมีนาคมที่ผ่านมา แต่นี่ถือเป็นครั้งแรก ที่โฟล์กฯ บอกว่า พร้อมแล้ว
สำหรับการผลิตออกสู่ตลาดจริงๆ ขณะที่ Passat BLUEMOTION นั้น เป็นรุ่นอัพเกรดสมรรถนะ
มุ่งเน้นความประหยัดมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

อย่างที่ได้นำเสนอไปในบทความ Polo 3 ประตู เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Polo BLUEMOTION จะติดตั้ง
เครื่องยนต์ ดีเซล ใหม่ล่าสุด 1.2 ลิตร TDI (เทอร์โบ ดีเซล) 75 แรงม้า (PS) ที่ทำอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง
ต่ำมากๆ เพียง 3.3 ลิตร / ระยะทางแล่น 100 กิโลเมตร!! แต่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ็อกไซด์ ออกมา
เพียงแค่ 87 กรัม / ระยะทางแล่น 1 กิโลเมตร เท่านั้นเอง! เมื่อเทียบกับ Polo TDI 75 แรงม้า (PS)
ปริมาณก๊าซ CO2 ถูกปล่อยออกมาน้อยลง 20% และประหยัดขึ้น 0.9 ลิตร/100 กิโลเมตร

ขณะเดียวกัน Golf BLUEMOTION จะมาพร้อมเครื่องยนต์ TDI ใหม่ ล่าสุด ให้กำลัง 105 แรงม้า
(PS) แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร (25.47 กก.-ม.) และให้อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ต่ำในระดับ
3.8 ลิตร / 100 กิโลเมตร!! ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ็อกไซด์ ออกมาเพียง 99 กรัม/ ระยะทางแล่น
1 กิโลเมตร อย่างไรก็ตาม อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง นั้น ถือว่าอืดไปนิด (11.3 วินาที)
และถ้าคุณกล้าพอ ความเร็วสูงสุด 190 กิโลเมตร/ชั่วโมง รอให้คุณไต่ขึ้นไปสัมผัส (แต่กว่าจะถึงได้
คิดว่า คงจะต้องเหยียบกันจนตีนมิดติดพื้นรถ ตามประสา ท่านผู้การ Commander CHENG ของเรา
นั่นเลยทีเดียว!

ส่วนรุ่น Passat BLUE MOTION ก็ยกเอาเครื่องยนต์ TDI แบบ 105 แรงม้า (PS) จาก Golf มาใส่
ทั้งดุ้นเลยนั่นแหละ แน่นอนว่า เมื่อเทียบกับ พัสาท บลูโมชัน รุ่นเดิมแล้ว รถรุ่นใหม่จะประหยัดขึ้น
เป็น 4.4 ลิตร / ระยะทางแล่น 100 กิโลเมตร และปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ็อกไซด์ 114 กรัม / 1 กิโลเมตร
ส่วน สมรรถนะ นั่นก็เป็นไปตามคาด เครื่องตัวเดียวกัน วางในตัวรถที่ใหญ่และหนักกว่า มันย่อม
อืดกว่าเป็นธรรมดา (0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใช้เวลา 12.5 วินาที ความเร็วสูงสุด 193 กิโลเมตร/ชั่วโมง)

ทั้ง 3 รุ่นที่กล่าวมาข้างต้น จะถูกติดตั้งระบบ Start/Stop ซึ่งเครื่องยนต์จะดับลงทันทีที่จอดรถ แล้วเหยียบเบรก
ติดไฟแดง พอไฟเขียว แค่เหยียบคันเร่งเบาๆ เครืองยนต์ก็จะติดขึ้นมาอีกครั้ง และพร้อมขับเคลื่อนรถ
ไปข้างหน้า นอกจากนี้ ยังติดตั้งล้ออัลลอยน้ำหนักเบา และยาง แบบ Low Rolling Resistance เพื่อช่วย
ลดแรงเสียดทานจากล้อ เพิ่มความประหยัดให้มากยิ่งขึ้น

โฟล์กสวาเกน ตระกูล BLUE MOTION ทั้ง 3 รุ่น พร้อมแล้วที่จะออกสู่ตลาด ก่อนสิ้นปีนี้

——————————————-///—————————————-