สิ้นสุดทุกการรอคอย(และการคาดเดา)! เมื่อ Daimler AG ได้ปล่อยภาพ Mercedes-Benz GLA ก่อนที่จะเปิดตัวในงาน
Frankfurt Motorshow 2013 ล่วงหน้า 1 เดือน คงจะให้สื่อและลูกค้าได้เรียนรู้ตัวตนของ GLA ที่แท้จริงก่อนเปิดตัวขาย
ว่ามันจะเป็นแค่ A-Class ยกสูงหรือพยายามโมดิฟายด์ให้มีความสามารถเพิ่มมากขึ้นแค่ไหน
ก่อนที่จะมีการเปิดตัว GLA นั้น Mercedes-Benz ก็เพิ่งประสบความสำเร็จกับ A/B –Class เจเนเรชั่นนี้รวมไปถึง CLA
รุ่นใหม่เป็นอย่างมาก เพราะมียอดขายรวมในครึ่งปีแรกสูงถึง 173,362 คันเติบโต 58% ที่สำคัญลูกค้าของ A-Class กว่า
50% เป็นลูกค้าที่ย้ายจากแบรนด์อื่นอีกต่างหาก จึงไม่แปลกใจว่าทำไม Daimler AG จึงเร่งพัฒนา GLA เพื่อมาโกยตลาด
รถในระดับนี้อย่างเร่งด่วน
Mercedes-Benz GLA ถือเป็นคอมแพคท์เอสยูวีระดับหรูคันแรกจากค่ายดาวสามแฉกถือเป็นกลุ่มตลาดที่มีการเติบโต
เร็ว มีมิติตัวถังยาว 4,417 มม. กว้าง 1,804 มม. สูง 1,494 มม. ชูจุดเด่นที่เป็นเอสยูวีที่มีความคล่องตัวและปราดเปรียว
มากที่สุดมีชีวิตชีวาทั้งการขับขี่ออนโรดและออฟโรด มีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานต่ำเพียงแค่ 0.29
ดีไซน์ภายนอกของ GLA จะเน้นมัดกล้าม, ความบึกบึนคมสัน ถือเป็นงานออกแบบที่สมเหตุผลเพราะมันอาศัยโครงสร้าง
พื้นฐานจาก A-Class มาใช้ค่อนข้างเยอะมาก สิ่งที่สะดุดสายตามากที่สุดคือด้านหน้าออกแนวดุดันแต่แฝงด้วยความ
สปอร์ตปราดเปรียวอยู่ในที
Mercedes-Benz ชาญฉลาดมากที่จะประชาสัมพันธ์ถึงจุดเด่นของรถคันนี้ว่า มันเป็นเอสยูวีที่บอกลารถรูปทรงกล่อง
มาตรฐานเดิม ๆ หมดไป รถคันนี้จะเน้นหลักด้านอากาศพลศาสตร์อย่างมากจนมีค่า CD เหลือแค่เพียง 0.29 ซึ่งจะส่งผลดี
ต่ออัตราสิ้นเปลือง นอกจากนี้ยังใส่ใจต่อการเก็บเสียง ได้แก่ ห่อหุ้มแผงประตูหลายชั้น, ใส่ใจกับขอบยางต่าง ๆ , กรุขอบ
กรอบกระจกเพื่อมิให้มีเสียงลมรอดเมื่อวิ่งด้วยความเร็วสูง
ภายในห้องโดยสารยกชุดมาจาก A-Class แต่มีการอัพเกรดสีสัน, วัสดุและลูกเล่นที่ทำให้รู้สึกว่าหรูหรากว่าเดิม
เครื่องยนต์มีให้เลือก 4 แบบทุกรุ่นจะเป็นแบบ 4 สูบ Direct Injection พร้อมเทอร์โบกันหมด แถมยังติดตั้ง idle stop
ครบทุกรุ่น มีให้เลือกเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะและเกียร์อัตโนมัติ 7G-DCT
GLA200 ติดตั้งเครื่อง 4 สูบ 1.6 ลิตร 156 แรงม้าที่ 5,300 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตรที่ 1,250-4,000
รอบต่อนาที
GLA 250/GLA 250 4MATIC 2.0 ลิตร 211 แรงม้าที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตรที่ 1,200-4,000
รอบต่อนาที อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 6.5 วินาที ความเร็วสูงสุด 233 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ประหยัด
น้ำมัน 39.7 MPG ปล่อยไอเสีย CO2 แค่ 151 กรัมต่อกิโลเมตร
GLA 200 CDI ดีเซล 2.2 ลิตร 136 แรงม้าที่ 3,600-4,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 300 นิวตันเมตรที่ 1,400-4,000
รอบต่อนาที ประหยัดน้ำมัน 65.6 MPG ปล่อยไอเสีย CO2 แค่ 114 กรัมต่อกิโลเมตร
GLA 220 CDI/GLA 220 CDI 4MATIC ดีเซล 2.2 ลิตร 170 แรงม้าที่ 3,600-4,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 350 นิว
ตันเมตรที่ 1,600-3,200 รอบต่อนาที
จุดขายสำคัญคือระบบขับเคลื่อนสี่ล้อตลอดเวลา 4Matic ที่ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ 7G-DCT ที่สามารถ
กระจายแรงขับเคลื่อนระหว่างล้อคู่หน้ากับล้อคู่หลังแบบแปรผันเต็มที่ผ่านตัวดิสก์คลัทช์หลายชั้น แถมยังมีน้ำหนักระบบ
เบากว่าคู่แข่งอีกด้วย
ถึงแม้จะใช้ช่วงล่างจาก A-Class แต่ด้วยประสบการณ์การทำรถเอสยูวีมาอย่างยาวนานจึงมีการปรับปรุงช่วงล่างให้
เหมาะสมกับการใช้ชีวิตของคนยุคใหม่ ตั้งแต่ขับรถในเมืองจนไปถึงขั้นบุกพื้นทราย, ตะลุยทางไม่เรียบได้
ออพชั่นความปลอดภัยพิเศษ Distronic Plus ที่ทำงานร่วมกับ COLLISION PREVENTION ASSIST PLUS ระบบจะ
เบรคให้เอง(รองรับความเร็วสูงสุด 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) เมื่อคำนวณแล้วว่าจะมีการชนเกิดขึ้นแน่
ที่มา : http://www.worldcarfans.com/113081461430/2014-mercedes-benz-gla-officially-revealed